9. ความรัก
“นี่คือบัญญัติของเรา ให้ท่านทั้งหลายรักกัน เหมือนดังที่เรารักท่าน” (ยน 15:12) ดูเถิดว่า เรารักมนุษย์ทั้งหลายมากมายเพียงใด เราได้มอบถวายชีวิตพระเจ้าของเราเพื่อพวกเขา เพราะ “เราเป็นผู้เลี้ยงแกะที่ดี ผู้เลี้ยงแกะย่อมสละชีวิตเพื่อแกะของตน” (ยน 10:11) ในแนวทางเดียวกัน จงใช้ทุกสิ่ง แม้กระทั่งชีวิตของท่าน เพื่อผลประโยชน์ของมนุษย์ทั้งหลาย
จงมีความเห็นอกเห็นใจบรรดามนุษย์ที่น่าสงสาร ผู้ถูกทอดทิ้ง และไม่มีที่กำบังอันตรายทุกประเภท เพราะการละเลยของผู้อภิบาลของเราบางคน จงช่วยพวกเขาอย่างดีที่สุดเท่าที่ท่านสามารถกระทำ พึงจำไว้ว่า มีการบันทึกเกี่ยวกับเราดังนี้คือ “เมื่อพระองค์ทอดพระเนตรเห็นประชาชนก็ทรงสงสาร เพราะเขาเหล่านั้นเหน็ดเหนื่อยและท้อแท้ประดุจฝูงแกะที่ไม่มีคนเลี้ยง” (มธ 9:36) ถ้าท่านรักเรา ท่านต้องเอาใจใส่ดูแลบรรดามนุษย์ทั่วโลก และต้องไม่มีการกล่าวว่ามนุษย์คนใดคนหนึ่งไม่เกี่ยวข้องกับท่าน
ยิ่งกว่านั้น จงปฏิบัติตามแบบอย่างความสงสารและความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันของเรา ความรักความเมตตาของท่านไม่ควรถูกจำกัดอยู่เพียงในเรื่องที่เกี่ยวกับจิต แต่ต้องครอบคลุมถึงความจำเป็นด้านวัตถุของประชาชนด้วย เราเคยกล่าวเชิญชวนอย่างไม่มีการจำกัดใดๆ ว่า “ท่านทั้งหลายที่เหน็ดเหนื่อยและแบกภาระหนัก จงมาพบเราเถิด เราจะให้ท่านพักผ่อน” (มธ 11:28) ท่านจะไม่พบในพระวรสารของเราว่า เราเคยปฏิเสธที่จะจัดหาความจำเป็นด้านวัตถุ เมื่อเรามองเห็นฝูงชนหิวโหย เรารู้สึกสงสารพวกเขา จึงกล่าวว่า “เราสงสารประชาชน” (มก 8:2) โดยไม่รีรอ เราได้กระทำอัศจรรย์อันน่าพิศวง ครั้นนายร้อยขอให้เรารักษาผู้รับใช้ของเขา เราพร้อมในทันทีที่จะรักษาเขาและบอกว่า “เราจะไปรักษาเขาให้หาย” (มธ 8:7)
เมื่อบิดาที่โศกเศร้าอ้อนวอนเราให้ไปยังบ้านของเขา และช่วยให้บุตรสาวของเขาฟื้นขึ้นมามีชีวิตใหม่ เราไปโดยไม่ล่าช้า ตามที่บันทึกว่า “พระเยซูเจ้าทรงลุกขึ้นเสด็จตามเขาไป” (มธ 9:19) ยิ่งท่านมีความสงสารมากเท่าใด ท่านยิ่งกระตือรือร้นที่จะไปช่วยมากเท่านั้น กับสตรีชาวคานาอัน เราแกล้งทำเป็นดุดัน เพียงเพื่อจะรื้อฟื้นความเชื่อของนาง และประทานการปลอบโยนและความกรุณาแก่นางยิ่งขึ้น “หญิงเอ๋ย ความเชื่อของเจ้ายิ่งใหญ่ จงเป็นไปตามที่เจ้าปรารถนาเถิด” (มธ 15:28) ดังนั้น จงเป็นผู้มีความเมตตาสงสารสำหรับทุกความจำเป็นของเพื่อนบ้านของท่าน และจัดหาให้พวกเขาในทันทีด้วยวิธีที่ดีที่สุดของท่าน
ขอให้ผู้ยากจน, ผู้โศกเศร้า และผู้ป่วยพบกับบิดาที่น่ารักในตัวของท่าน ผู้ซึ่งมีความเอาใจใส่จากก้นบึ้งของหัวใจ และนำการช่วยเหลือและความอบอุ่นใจไปให้ในทันที พระสงฆ์ของเราบางคนกลับกลายเป็นผู้เย็นชาและเมินเฉย จนกระทั่งความรักเมตตาก็หมดไปอย่างสิ้นเชิงเพราะการติดต่อกับผู้มีความทุกข์ยากเป็นประจำทุกวัน จงตรวจดูว่าท่านได้จัดหาสิ่งจำเป็นกับประชาชนโดยเฉพาะอย่างยิ่งเป็นสิ่งที่มาจากการครอบครองของท่าน ให้กับพวกเขาอย่างเหมาะสมแล้ว อย่าเลียนแบบศาสนบริกรของเราบางคนซึ่งมีความอุตสาหะชักชวนผู้อื่นให้ทำงานเมตตากิจต่างๆ แต่พวกเขาแทบจะไม่เคยให้สิ่งที่เป็นของตน และยังเก็บเงินทองของตนไว้เพื่อความต้องการในอนาคตของตนเองโดยเฉพาะ
จงปลอบโยนผู้ที่มีความเจ็บปวด ถึงแม้ท่านจะคิดว่าท่านมีความจำเป็นต้องได้รับการปลอบโยนยิ่งกว่าพวกเขา เมื่อเราอยู่ระหว่างทางไปยังเขากัลวารีโอ เราได้ปลอบโยนบรรดาสตรีซึ่งกำลังร้องไห้ (ลก 23:28) ยามที่เราอยู่บนไม้กางเขน เราให้กำลังใจพระ-มารดาและศิษย์ที่เรารัก (ยน 19:26-27) ถ้าท่านลืมความระทมทุกข์และความกังวลใจของตัวท่านเอง เพื่อปลอบโยนพี่น้องที่ได้รับความทุกข์ทรมานของท่าน ท่านก็ได้กระทำกิจเมตตาอย่างหนึ่งในสายตาของเรา
อย่างไรก็ตาม อย่านำตัวของท่านเข้าไปยุ่งกับการทะเลาะวิวาททางโลก เพราะนั่นเป็นความรักเมตตาที่ผิด ท่านจะสูญเสียเวลาอันมีค่าของท่านไปโดยเปล่าประโยชน์ และทำให้จิตของท่านตกอยู่ในอันตราย จงพิจารณาดูว่าเรามิได้แต่งตั้งตัวเราเองให้เป็นดั่งผู้ตัดสินเรื่องการแบ่งมรดกระหว่างพี่น้องสองคน แต่เราค่อนข้างจะตักเตือนพวกเขาให้หยุดยั้งความโลภ (ลก 12:24) จงกระทำในแนวทางเดียวกันนี้ เมื่อท่านได้รับการขอร้องให้ประสานการตกลงทางโลกและธุรกิจทั้งหลาย