บิดามารดาเป็นผู้สอนวิธีภาวนา
60. นอกจากศักดิ์ศรีและภารกิจสงฆ์ซึ่งเป็นลักษณะพื้นฐานของผู้รับศีลล้างบาปทั้งปวง พ่อแม่ยังมีหน้าที่เฉพาะของตนอีก นั่นคือ อบรมสั่งสอนลูกๆ ให้สวดภาวนาและแนะนำเขาให้รู้จักธรรมล้ำลึกของพระเจ้าทีละเล็กทีละน้อย อีกทั้งมีการเสวนากับพระองค์เป็นการส่วนตัว “โดยเฉพาะในครอบครัวคริสตชนที่อุมด้วยพระหรรษทานและความรับผิดชอบอันเนื่องจากศีลสมรสนั้น บรรดาลูกๆ ควรจะได้รับการอบรมให้รู้จักพระเจ้าและนมัสการพระองค์ อีกทั้งรักเพื่อนมนุษย์ตั้งแต่วัยเด็กตามลักษณะของความเชื่อซึ่งเด็กได้รับมาพร้อมกับศีลล้างบาป”
การที่พ่อแม่เป็นแบบอย่างให้ลูกเห็นหรืออีกนัยหนึ่งใช้ชีวิตจริงเป็นพยานยืนยันนั้น เป็นส่วนประกอบขั้นพื้นฐานที่ขาดไม่ได้ในการสอนการภาวนาในเวลาที่บิดามารดากำลังภาวนาพร้อมกับบุตร ไม่เพียงแต่ปฏิบัติภารกิจสงฆ์ของตนเท่านั้น แต่ยังเสมือนเข้าไปในจิตใจส่วนที่ลึกที่สุดของบุตร และที่นั้นเขาก็ได้สร้างรอยพิมพ์เอาไว้ซึ่งเหตุการณ์ต่างๆ ในชีวิตภายหน้าจะไม่สามารถลบล้างได้เลย ขอให้เราฟังคำพูดของพระสันตะปาปาเปาโลที่ 6 อีกครั้งในตอนที่พระองค์ทรงตักเตือนบิดามารดาว่า “มารดาทั้งหลาย ท่านสอนบุตรของท่านให้รู้จักบทภาวนาของคริสตชนหรือไม่ ท่านร่วมมือกับพระสงฆ์เตรียมบุตรของท่านให้พร้อมที่จะรับศีลของวัยเด็ก เช่น ศีลอภัยบาป ศีลมหาสนิท ศีลกำลัง หรือไม่ ท่านสอนเขาให้นึกถึงพระคริสตเจ้าผู้ทรงทนทรมานในเวลาที่เขาไม่สบาย และวิงวอนขอความช่วยเหลือจากพระนางพรหมจารีมารีอาและจากนักบุญต่างๆ จนเป็นความเคยชินหรือไม่ ท่านนำครอบครัวให้สวดสายประคำหรือไม่ ส่วนท่านบิดาทั้งหลาย ท่านเคยสวดภาวนาพร้อมกับบุตรและพร้อมกับทุกคนที่อยู่ในบ้าน อย่างน้อยเป็นบางครั้งบางคราวหรือไม่ แบบฉบับของท่านรวมกับความคิดและกิจกรรมที่ซื่อตรงสุจริตของท่านโดยมีการภาวนาพร้อมกันบ้างเป็นกำลังส่งเสริมนั้นมีค่าสูงดั่งเป็นโรงเรียนสอนชีวิต เป็นกิจศรัทธาที่เปี่ยมไปด้วยพระคุณอันล้ำเลิศ ดังนี้แหละ ท่านจะนำสันติสุขเข้าไปในรั้วบ้านของท่าน “สันติสุขจงมีแก่บ้านนี้” ขอท่านจงนึกเสมอว่า ดังนี้แหละที่ท่านสร้างสรรค์พระศาสนจักร”