การสวดภาวนาในครอบครัว
59.  พระศาสนจักรสวดภาวนาอุทิศให้ครอบครัวคริสตชนและสั่งสอนครอบครัวให้รู้จักดำเนินชีวิตด้วยจิตใจที่สูงส่ง   เพื่อจะได้สอดคล้องกับพระคุณและหน้าที่ในความเป็นสงฆ์ซึ่งครอบครัวได้รับจากพระคริสตเจ้าผู้ทรงเป็นพระมหาสมณะ อันที่จริง ลักษณะสงฆ์ซึ่งคริสตชนได้รับมาพร้อมกับศีลล้างบาป  และซึ่งปรากฏออกมาในการดำเนินชีวิตสมรสที่เป็นศีลศักดิ์สิทธิ์นั้น  เป็นรากฐานของพระกระแสเรียกและภารกิจการเป็นสงฆ์  ซึ่งบันดาลให้ชีวิตประจำวันของสามีภรรยาและของครอบครัวเปลี่ยนแปลงเป็น  “เครื่องบูชาฝ่ายวิญญาณอันเป็นที่สบพระทัยพระเจ้าทางพระเยซูคริสตเจ้า”  การเปลี่ยนแปลงนี้  มีขึ้นไม่เพียงแต่ในโอกาสพิธีศีลมหาสนิทหรือศีลศักดิ์สิทธิ์อื่นๆ  หรือในขณะที่เขาถวายตัวเพื่อพระสิริมงคลของพระเจ้าเท่านั้น  แต่ก็ยังมีขึ้นโดยการสวดภาวนาและการอธิษฐานสนทนากับพระบิดาเจ้าโดยอาศัยพระเยซูคริสตเจ้าในองค์พระจิตเจ้า
    การภาวนาในครอบครัวมีลักษณะเฉพาะของตน  คือ  เป็นการอธิษฐานที่ทำพร้อมกันไปทั้งสามีกับภรรยา  และพ่อแม่กับลูก  ความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันในการภาวนาเป็นทั้งผลและข้อแรียกร้องของความสัมพันธ์ที่เกิดจากศีลล้างบาปและศีลสมรส  พระวาจาซึ่งพระเยซูเจ้าได้ตรัสเป็นคำสัญญาว่า  พระองค์จะทรงสถิตกับเรานั้น  มีค่าเป็นพิเศษสำหรับผู้เป็นสมาชิกในครอบครัวคริสตชน  พระองค์ตรัสว่า  “เราบอกความจริงแก่ท่านอีกว่า ถ้าท่านสองคนในโลกนี้พร้อมใจกันอ้อนวอนขอสิ่งหนึ่งสิ่งใด พระบิดาของเราผู้ทรงสถิตในสวรรค์จะประทานให้ เพราะว่า ที่ใดมีสองหรือสามคนชุมนุมกันในนามของเรา เราอยู่ที่นั่นท่ามกลางพวกเขา”
    เนื้อหาเฉพาะของคำภาวนาในครอบครัวก็คือ  ชีวิตของครอบครัวนี้เอง  ดูนัยหนึ่ง  ก็จะเป็นที่เข้าใจกันว่า  เป็นพระกระแสเรียกของพระเจ้า  ดูอีกนัยหนึ่ง  ก็เป็นการตอบสนองของผู้เป็นบุตรต่อพระกระแสเรียกนั้นตามเหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นในครอบครัว  ความยินดีและความทุกข์  ความหวังและความเศร้าโศก  การเกิดและวันคล้ายวันเกิดต่างๆ วันครบรอบการสมรสของพ่อแม่  การเดินทางจากไป  การที่ต้องไปอยู่ห่างไกลเป็นเวลานานและการกลับมาบ้าน  การตัดสินใจที่สำคัญและเด็ดขาด  การตายของคนที่รัก  และเหตุการณ์อื่นในทำนองเดียวกัน  ทั้งหมดนี้  ก็บ่งถึงความรักของพระเจ้าที่ปรากฏตัวมาในประวัติของครอบครัว  เหตุการณ์เหล่านี้ควรเป็นโอกาสที่เหมาะสมสำหรับการโมทนาคุณ  การสวดอ้อนวอน  หรือการยึดพระเจ้าเป็นที่พึ่ง  ด้วยความไว้วางใจในพระบิดาของมนุษย์ทั้งหลายผู้ทรงสถิตอยู่บนสวรรค์  อนึ่ง   ครอบครัวคริสตชนจะสามารถแสดงออกถึงศักดิ์ศรีและการตระหนักในหน้าที่ของตนในฐานะที่เป็นพระศาสนจักรระดับครอบครัวได้ก็ต่อเมื่อ  ได้รับความช่วยเหลือจากพระเจ้าอย่างไม่ขาดสายเท่านั้น  พระเจ้าจะประทานความช่วยเหลือนั้นอย่างแน่นอน  ถ้าหากว่าทางครอบครัวได้อ้อนวอนขอด้วยความสุภาพถ่อมตนและด้วยความไว้วางใจในพระองค์