การกลับใจและความเชื่อ
53 ในการประกาศข่าวดี เรื่องการเปิดเผยความจริงของพระเป็นเจ้าแก่โลก การประกาศพระวรสาร เชิญชวนมนุษย์ชายหญิงทั้งหลายให้กลับใจและรับความเชื่อ (อ้างถึง รม 10:17, LG 16; AG 7; อ้างถึง CCC 846-848) การเรียกของพระเยซูเจ้า “จงกลับใจและเชื่อในพระวรสาร” (มก 1:15) ยังคงดังก้องอยู่ในปัจจุบันนี้ โดยทางงานประกาศพระวรสารของพระศาสนจักร เหนือสิ่งอื่นใด ความเชื่อคริสตชน คือการกลับใจมาเชื่อในองค์พระเยซูคริสต์ การยึดมั่นในพระองค์อย่างเต็มที่ด้วยความบริสุทธิ์ใจและการตัดสินใจติดตามพระองค์ (อ้างถึง CT 5b) ความเชื่อเป็นการพบปะส่วนตัวกับพระเยซูคริสตเจ้า เป็นศิษย์ของพระองค์ด้วยตัวเอง เรียกร้องการอุทิศตนอย่างถาวร เพื่อจะได้คิดแบบพระองค์ ตัดสินเหมือนพระองค์ และดำเนินชีวิตอย่างพระองค์ (อ้างถึง CT 20b) และด้วยวิถีทางเช่นนี้ ผู้เชื่อจึงได้รวมตัวเองเป็นหนึ่งเดียวกับชุมชนของบรรดาศิษย์ และได้รับความเชื่อของพระศาสนจักร (อ้างถึง CCC 166-167)
54 การกลับใจและมีความเชื่อเช่นนี้เป็น “การตอบรับ” พระเยซูคริสต์ผู้ทรงเป็นการเปิดเผยที่สมบูรณ์ของพระบิดาใน 2 ส่วน คือ ส่วนที่หนึ่งเป็นการมอบความวางใจไว้กับพระเป็นเจ้า และอีกส่วนหนึ่งเป็นการยอมรักทุกคนที่พระองค์ทรงให้เรารู้จัก สิ่งเหล่านี้จะเป็นไปได้ โดยทางการกระทำของพระจิตเจ้าเท่านั้น (อ้างถึง CCC 150,176)
“ความเชื่ออย่างนอบน้อมนี้คือ การที่มนุษย์ยอมมอบตนเองโดยเสรีแด่พระเป็นเจ้าอย่างสิ้นเชิง ถวายสติปัญญาและน้ำใจของตนเองอย่างเต็มที่ เพื่อแสดงคารวะต่อพระองค์ผู้ทรงเผยความจริง และยอมเห็นด้วยกับการเปิดเผยของพระองค์ด้วยใจเสรี” (DV 5)
“การเชื่อ มีจุดอ้างอิงถึงสองด้าน คือ เชื่อในตัวบุคคลและเชื่อในความจริง การเชื่อในความจริง คือการวางใจในตัวบุคคล ผู้ยืนยันความจริงนั้น” (CCC 177)
55 ความเชื่อนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิต ที่เรียกว่า “เมตาโนยา” (metanoia อ้างถึง EN 10, AG 13b, CCC 1430-1431) หมายถึง การเปลี่ยนแปลงทัศนคติและจิตใจอย่างลึกซึ้ง การเปลี่ยนแปลงนี้ช่วยให้ผู้มีความเชื่อมีวิธีใหม่ในการดำรงชีวิตของตนหรือดำรงชีวิตอยู่ร่วมกับผู้อื่น (EN 23) การเปลี่ยนแปลงทัศนคติและจิตใจนี้แสดงออกในทุกระดับของการเป็นคริสตชน คือ ในชีวิตภายในของเขามีการเคารพบูชาพระเป็นเจ้าและการยอมรับน้ำพระทัยของพระเป็นเจ้า ในการกระทำของเขา การมีส่วนร่วมในพันธกิจของพระศาสนจักร ในชีวิตสมรสและชีวิตครอบครัว ในชีวิตการงาน ในความรับผิดชอบต่อเศรษฐกิจและสังคมด้วยความปิติยินดี
ความเชื่อและการกลับใจ เกิดขึ้นจาก “จิตใจ” หมายความว่า มันเกิดมาจากส่วนลึกของตัวบุคคลมนุษย์ และมันเกี่ยวกับทุกอย่างที่เขาเป็น มนุษย์จะมองเห็นว่าความคาดหวังอันลึกซึ้งทั้งหมดของเขาสำเร็จสมบูรณ์ได้โดยการพบกับองค์พระเยซูคริสต์และการร่วมสนิทกับพระองค์ เขาจะพบสิ่งที่เขาแสวงหาเสมอ และพบมันอย่างสมบูรณ์ยิ่ง (อ้างถึง AG 13) ความเชื่อตอบสนองต่อสิ่งที่ “กำลังรอคอยอยู่” (อ้างถึง RM 45c) บ่อยครั้งที่เป็นไปโดยไม่รู้สึกตัวและมักจะถูกจำกัดอยู่ภายในการเรียนรู้ความจริงเกี่ยวกับพระเป็นเจ้า เกี่ยวกับตัวมนุษย์เอง และเกี่ยวกับชะตากรรมที่รอเขาอยู่ มันเป็นเหมือนกับน้ำบริสุทธิ์ (อ้างถึง RM 46d) ที่จะช่วยให้มนุษย์สดชื่นระหว่างการเดินทาง การเร่ร่อนหาบ้านของตัวเอง ความเชื่อเป็นของประทานจากพระเป็นเจ้า เกิดขึ้นเฉพาะในจิตใจมนุษย์ที่มีความสนิทสัมพันธ์กับพระเป็นเจ้าเป็นส่วนตัว ดุจดังผลของพระหรรษทาน ซึ่งผลักดันและช่วยเหลือเขา ( DV 5; อ้างถึง CCC 153 ) และความเชื่อยังเป็นการตอบสนองที่อิสระอย่างสมบูรณ์แบบต่อการกระตุ้นของพระจิตเจ้า ผู้ผลักดันจิตใจและทำให้หันกลับไปหาพระเป็นเจ้า ทั้งยัง“ทรงช่วยให้ทุกคนยอมรับและเชื่อความจริงได้ง่ายขึ้น” (DV 5; อ้างถึง CCC 153) พระนางพรหมจารีมารีย์ได้เจริญชีวิตอย่างดีที่สุดในความยากลำบากอันใหญ่หลวงเพราะเห็นแก่ความเชื่อ “พระศาสนจักรจึงให้ความเคารพความสำเร็จอันบริสุทธิ์ที่สุดของความเชื่อของพระนาง” (CCC 149)