สมเด็จพระสันตะปาปาเบเนดิกต์ทรงสละตำแหน่งในวันที่ 28 กุมภาพันธ์
สมณสมัยของสมเด็จพระสันตปาปาเบเนดิกต์ที่ 16 เต็มไปด้วยสิ่งน่าประหลาดมหัศจรรย์ และในวันจันทร์ พระองค์ทรงกระทำสิ่งมหัศจรรย์มากที่สุดทีเดียว. การสละตำแหน่งของพระองค์ถือเป็นครั้งแรกในรอบ 600 ปี ที่แม้แต่วาติกันก็ยังไม่ทราบ. ขณะที่เราทำความเข้าใจกับข่าวนี้ นี่คือเหตุผล 10 ประการเพื่อขอบพระคุณพระองค์สำหรับพระสมณสมัยของพระองค์
การตัดสินพระทัยที่แน่วแน่: ในบทเทศน์วันเข้ารับตำแหน่งเป็นทางการว่า “ขอพวกทานภาวนาใหข้าพเจ้า เพราะข้าพเจ้าไม่อาจหนีความกลัวพวกสุนัขป่า” ในปี 2010 ได้มีสื่อเห็นพ้องต้องกันที่จะบังคับให้พระองค์ลาออกจากตำแหน่งภายใต้วิกฤตเกี่ยวกับการทำความผิดของผู้ที่ได้รับศีลบวช. พระองค์ทรงพระทัยมั่นคงจนบัดนี้ และทรงสงบพระทัยในสมณสมัยของพระองค์ที่พระองค์ทรงเลือกที่จะดำรงพระตำแหน่ง
คำสอนที่ชัดเจนดังแก้วผลึก: ว่า พระองค์ทรงสละตำแหน่งแล้ว สมเด็จพระสันตะปาปาก็ยังทรงสอนเราอยู่. บทเรียนของพระองค์- ที่ไม่ให้เราติดกับอำนาจ- ทรงถ่ายทอดบทเรียนนี้อย่างทรงอำนาจพิเศษและกระจ่างชัด. พระองค์ทรงลาจากเราไปด้วยโครงสร้างคำสอนที่มั่งคั่ง ประกอบด้วยบทเทศน์ของพระองค์ สมณลิขิตและหนังสือ 3 ภาคจบเกี่ยวกับพระเยซูเจ้า และพระจริยาวัตรของพระองค์ด้วย
การปฏิรูปพิธีกรรม: การตัดสินพระทัยของสมเด็จพระสันตะปาปาเบเนดิกต์ที่ทรงยกเลิกข้อกำหนดเกี่ยวกับรูปแบบเก่าของพิธีขอบพระคุณ. และการช่วยนำเอารูปแบบพิธีขอบพระคุณวันฉลองที่มีรายละเอียดหยุมหยิม พระองค์ทรงฟื้นฟูการฉลองรูปแบบพิธีขอบพระคุณประจำมิสซา (ไม่เปลี่ยนแปลงตามวันฉลอง)ในเขตวัดต่างๆ ด้วยการแปลภาษาอังกฤษแบบใหม่
โครงการสร้างความโปร่งใสด้านการเงิน: สมเด็จพระสันตะปาปาเบเนดิกต์ที่ 16 ทรงพระอุตสาหะในการเปลี่ยนหน่วยงาน Legiounaries of Christ มาเป็นสำนักคลังวาติกัน เพื่อทรงสร้างความโปร่งใสของพระศาสนจักรจากการฉ้อราษฎร์บังหลวง. สิ่งนี้ได้รับการยกย่องจากบรรดาสื่อต่างๆ และพระศาสนจักรยังจะได้รับผลประโยชน์เป็นเวลานานในอนาคตด้วย
การเริ่มสัมพันธ์กับศาสนาอิสลาม: สมเด็จพระสันตะปาปาเบเนดิกต์ไม่ได้ทรงบ่นพร่ำเมื่อการบรรยายที่Regensburg ทำให้เกิดความเข้าใจผิดอย่างรุนแรงในส่วนต่างๆของโลกอิสลาม. ขณะที่พระองค์ทรงขออภัยที่สร้างความโกรธเคืองที่ไม่ตั้งพระทัย พระองค์ทรงยืนยันด้วยสุนทรพจน์ของพระองค์ ซึ่งเรียกร้องให้สร้างพันธมิตรระหว่างชาวคาทอลิกและชาวมุลลิมในยุคฆราวาสของเรา. ด้วยเหตุนี้ การเสวนาระหว่างชาวคาทอลิกกับชาวมุสลิมเข้มแข็งมากกว่าที่เคยอย่างไม่อาจแย้งได้เลย. นี่คือความสำเร็จที่สำคัญที่ผู้สืบทอดของพระองค์ทรงสามารถดำเนินการต่อไป
การกระทำที่องอาจของพระองค์: เมื่อสมเด็จพระสันตะปาปาเบเนดิกต์ที่ 16 เสด็จเยือนประเทศตุรกี ในขณะที่มีความตึงเครียดที่รุนแรงของผู้นับถือศาสนาอิสลามหลังจากที่พะงอค์ทรงกล่าวสุนทรพจน์ที่เมือง Regensburg, พระองค์ทรงปฏิเสธที่จะทรงสวมเสื้อเกราะกันกระสุน. การลาจากตำแหน่งของพระองค์แสดงถึงความวางใจใอย่างกล้าหาญในพระญาณเอื้ออาทร
พระองค์ทรงรักสหราชอาณาจักร: สมเด็จพระสันตะปาปาเบเนดิกต์ที่ 16 ทรงรักสหราชอาณาจักรเป็นพิเศษ. นั่นคือเหตุผลที่พระองค์เสด็จเยือนประเทศนี้ในปี 2010. ขณะที่มีประเทศอื่นๆมากมายอยากเชิญพระองค์เสด็จเยือนก็ตาม. พระองค์ทรงป้องกันเรื่องมโนธรรมที่มหาวิหารเวสมินสเตอร์อย่างไพเราะเฉกเช่นนักบุญโทมัส มอร์ ที่เคยแหกกฎมาแล้ว, พระองค์ทรงประกาศแต่งตั้งพระคาร์ดินัล ยอห์น นิวแมนเป็นบุญราศีและทรงแก้ปัญหาของเราอย่างเข้มแข็งในการต่อต้านแนวคิดโลกียวิสัยเชิงก้าวร้าว
ความคิดสร้างสรรค์เกี่ยวกับสังฆภาพถาวร: เรื่องสังฆภาพถาวรสำหรับนิกายแองกลิกันเดิมเป็นการมรดกที่ยิ่งใหญ่ของสมเด็จพระสันตะปาปาเบเนดิกต์ที่ 16. สิ่งที่พิเศษสุดคือพระองค์ทรงพระปรีชาสามารถที่จะสร้างโครงสร้างใหม่นี้ เป็นการนำวิญญาณหลายพันเข้าสู่ความเป็นหนึ่งเดียวกันอย่างเต็มที่ โดยไม่ได้ทำลายความสัมพันธ์ที่เกินคำบรรยายระหว่างพระศาสนจักรคาทอลิกกับคริสตจักรนิกายแองกลิกัน.
ความสมดุล: ครั้งแรก สมเด็จพระสันตะปาปาเบเนดิกต์ทรงถูกเขียนภาพล้อว่าพระองค์ทรงเป็น “นักจารีตนิยม” แต่ในไม่ช้า เป็นที่กระจ่างชัดว่า พระองค์ทรงมีพระทัยที่กล้าหาญและทรงปรับองค์ที่ทำให้ตกตะลึงกับป้ายหยาบคายนั้น ในยุคของความคิดที่ขาดสมดุล ความคิดที่ก้าวไปสู่ความคิดที่ผสานกลมกลืนของความต่อเนื่องและความสมบูรณ์. พร้อมด้วยความเห็นของ “การแสดงออกของประพจน์แห่งการต่อเนื่อง” พระองค์ทรงสร้างความจงรักภักดีที่ประนีประนอมกับธรรมประเพณีด้วยความคิดสร้างสรรค์ที่ตอบสนองข้อท้าทายในสมัยของเรา
ความสุภาพถ่อมตน: แม้ภายในพระศาสนจักร ที่เป็นการยากสำหรับมนุษย์ที่จะสละอำนาจและสถานะ. แต่สมเด็จพระสันตะปาปาเบเนดิกต์ทรงแสดงความสุภาพถ่อมตนที่น่าทึ่งในการเสียสละตำแหน่งศาสนบริการในฐานะพระสันตะปาปาของพระองค์ ในสิ่งที่พระองค์ทรงเชื่อว่าเป็นสิ่งดีกว่าสำหรับพระศาสนจักร.
ขอให้เราสวดภาวนาเพื่อพระองค์ และผู้สืบตำแหน่ง ขณะที่เราไม่เคยสวดาภาวนาเยี่ยงนี้มาก่อน
