พระยาห์เวห์ทรงสำแดงพระสิริรุ่งโรจน์ในสิ่งสร้างและในธรรมบัญญัติ
ผู้มีตาแหลมเมื่อมองดูสิ่งสร้างตามธรรมชาติจะเห็นว่าโลกจักรวาลเปิดเผยความจริงอย่างเงียบๆให้เราเห็นพระอานุภาพและพระปรีชาของพระเจ้า และยังเป็นบทเพลงถวายเกียรติแด่พระองค์ด้วย พระองค์ทรงเปิดเผยความจริงเพิ่มเติมเมื่อประทานธรรมบัญญัติแก่ชาวอิสราเอลผ่านทางโมเสส และต่อมาพระองค์ทรงเปิดเผยความจริงให้แก่มวลมนุษย์โดยทางพระเยซูคริสตเจ้า ทำให้การเปิดเผยความจริงในธรรมชาติสำเร็จอย่างสมบูรณ์
สำหรับหัวหน้านักขับร้อง เพลงสดุดีของกษัตริย์ดาวิด
1 ท้องฟ้าประกาศพระสิริรุ่งโรจน์ของพระเจ้า
แผ่นฟ้าบอกเล่าผลงานจากพระหัตถ์ของพระองค์
2 วันหนึ่งบอกให้อีกวันหนึ่งรู้
คืนหนึ่งมอบความรู้นี้แก่อีกคืนหนึ่ง
3 ไม่มีคำพูด ไม่มีวาจาใด
ที่ไม่มีใครไม่ได้ยินเสียง
4 เสียงของเขาเหล่านี้กระจายไปทั่วแผ่นดิน
และวาจาของเขาแพร่สะพัดไปจนสุดปลายพิภพ
บนท้องฟ้าพระองค์ทรงตั้งกระโจมสำหรับตะวัน
5 ที่ผายผันออกมาดุจเจ้าบ่าวจากห้องวิวาห์
เริงร่าราวนักรบผู้แกล้วกล้าวิ่งตามทางของตน
6 ตะวันขึ้นมา ณ ขอบฟ้าด้านหนึ่ง
แล้วโคจรไปยังขอบฟ้าอีกด้านหนึ่ง
และไม่มีสิ่งใดจะหลบหนีความร้อนของตะวันได้
7 ธรรมบัญญัติของพระยาห์เวห์นั้นสมบูรณ์ทุกประการ
ให้ความชื่นบานแก่ดวงวิญญาณ
กฤษฎีกาของพระองค์ก็น่าเชื่อถือ
ให้ปรีชาญาณแก่ผู้ด้อยปัญญา
8 ข้อบังคับของพระยาห์เวห์นั้นสุจริต
ทำให้ดวงจิตปีติยินดี
บทบัญญัติของพระองค์ก็ชัดเจน
ให้แสงสว่างแก่ดวงตา
9 ความยำเกรงพระยาห์เวห์นั้นบริสุทธิ์
ดำรงอยู่ตลอดไป
กฎเกณฑ์ของพระยาห์เวห์ก็สัตย์จริง
เที่ยงธรรมทุกประการ
10 เป็นที่พึงปรารถนามากกว่าทองคำ
น่าปรารถนายิ่งกว่าทองคำบริสุทธิ์มากมาย
หวานล้ำกว่าน้ำผึ้ง
ที่หยดลงมาจากรวง
11 แม้ผู้รับใช้ของพระองค์ก็ยังยอมรับการอบรมจากกฎเหล่านี้
และรับบำเหน็จยิ่งใหญ่ในการปฏิบัติตาม
12 ใครเล่าจะรู้ข้อบกพร่องของตน?
ขอพระองค์ทรงอภัยความผิดที่มองไม่เห็นด้วยเถิด
13 ขอพระองค์ทรงช่วยผู้รับใช้ให้พ้นจากความจองหอง
อย่าให้ความจองหองนี้ครอบงำข้าพเจ้าเลย
เพื่อข้าพเจ้าจะได้ไม่มีที่ตำหนิ
บริสุทธิ์พ้นจากบาปหนัก
14 ขอให้ถ้อยคำจากปากและความคิดจากใจข้าพเจ้า
เป็นที่โปรดปรานเฉพาะพระพักตร์พระองค์เถิด
ข้าแต่พระยาห์เวห์ ผู้ทรงเป็นหลักศิลาและผู้กอบกู้ข้าพเจ้า