บทขอบพระคุณพระเจ้าของกษัตริย์
จั่วหน้าของ สดด บทนี้กล่าวพาดพิงถึงการที่กษัตริย์ดาวิดทรงได้รับความช่วยเหลือให้รอดพ้นจากศัตรู โดยเฉพาะจากกษัตริย์ซาอูล นับเป็นเพลงขอบพระคุณพระเจ้า (ข้อ 4-27) และเป็นการบรรยายถึงชัยชนะยิ่งใหญ่ที่พระเจ้า ผู้ทรงเป็นนักรบในสวรรค์ ประทานแก่พระองค์ท่าน (ข้อ 32-49) พระเจ้าประทานความสำเร็จนี้แก่กษัตริย์ดาวิด เพื่อให้พระสัญญาที่ทรงให้ไว้จะได้เป็นจริงในอนาคต (ข้อ 50; 2 ซมอ 7) บัดนี้พระสัญญาทั้งหลายเหล่านี้ได้เป็นความจริงอย่างสมบูรณ์เมื่อพระเยซู โอรสของกษัตริย์ดาวิด ทรงได้ชัยชนะอย่างสมบูรณ์เหนืออำนาจความชั่วร้ายทั้งมวล นักบุญเปาโลสอนว่าคริสตชนต้องมีอาวุธฝ่ายจิตสำหรับต่อสู้กับศัตรูด้วย คือมีความเชื่อเป็นดังโล่ มีพระจิตเจ้าเป็นประดุจดาบเพื่อต่อสู้กับอำนาจความชั่ว (เทียบ อฟ 6:16-17)
สำหรับหัวหน้านักขับร้อง เพลงสดุดีของกษัตริย์ดาวิด ผู้รับใช้ของพระยาห์เวห์ กษัตริย์ดาวิดทรงนิพนธ์เนื้อร้องเพลงบทนี้ถวายพระยาห์เวห์ เมื่อพระยาห์เวห์ทรงช่วยองค์กษัตริย์ให้พ้นจากเงื้อมมือของศัตรูทั้งมวล และจากเงื้อมพระหัตถ์ของกษัตริย์ซาอูล มีใจความว่า
1 ข้าแต่พระยาห์เวห์ ข้าพเจ้ารักพระองค์ผู้ทรงเป็นพลังของข้าพเจ้า
2 พระยาห์เวห์ทรงเป็นหลักศิลาและป้อมปราการของข้าพเจ้า
ทรงเป็นผู้ช่วยข้าพเจ้าให้รอดพ้น
ข้าพเจ้าลี้ภัยมาพึ่งพระองค์ผู้ทรงเป็นหลักศิลาของข้าพเจ้า
ทรงเป็นโล่กำบัง เป็นพลังแห่งความรอดพ้นของข้าพเจ้า
ทรงเป็นที่มั่นของข้าพเจ้า
3 ข้าพเจ้าเรียกหาพระยาห์เวห์ ผู้คู่ควรแก่การยกย่องสรรเสริญ
แล้วข้าพเจ้าก็รอดพ้นจากศัตรู
4 เกลียวคลื่นแห่งมัจจุราชเข้ามาห้อมล้อมข้าพเจ้า
สายน้ำแห่งหายนะพร้อมที่จะคุกคามข้าพเจ้า
5 บ่วงแร้วแห่งแดนมรณะรัดรอบตัวข้าพเจ้า
กับดักของความตายวางอยู่เบื้องหน้า
6 ข้าพเจ้าเรียกหาพระยาห์เวห์ด้วยใจที่เจ็บปวดรวดร้าว
ร้องขอพระเจ้าของข้าพเจ้าให้ทรงช่วย
จากพระวิหาร พระองค์ทรงได้ยินเสียงข้าพเจ้า
ร่ำร้องมาถึงพระกรรณ
7 แล้วแผ่นดินก็สั่นสะเทือนหวั่นไหว
ภูเขาสั่นสะท้านถึงรากฐาน
สั่นคลอนเพราะพระพิโรธที่เผาผลาญ
8 ควันโขมงออกมาจากพระนาสิก
พระโอษฐ์พ่นไฟทำลายล้าง
ถ่านลุกเป็นไฟออกจากพระองค์
9 ทรงแหวกแผ่นฟ้าและเสด็จลงมา
เมฆฝนรองรับอยู่ใต้พระบาท
10 ทรงมีเครูบเป็นพาหนะเหาะเหิน
โบยบินไปเหนือปีกแห่งสายลม
11 ทรงห่อหุ้มพระองค์ด้วยความมืด
ทรงใช้น้ำทึบและเมฆหนาเป็นพลับพลาที่ประทับ
12 ความสว่างสุกใสเฉพาะพระพักตร์พระองค์
ผ่านเมฆเป็นลูกเห็บและถ่านที่ลุกเป็นไฟ
13 พระยาห์เวห์ตรัสจากสวรรค์สนั่นฟ้า
พระเจ้าสูงสุดทรงบันดาลให้ทุกคนได้ยินพระสุรเสียง
14 ทรงยิงธนูไล่พวกเขากระจัดกระจาย
ทรงฟาดสายฟ้าให้พวกเขาหนีไป
15 ท้องทะเลลึกปรากฏขึ้น
รากฐานแห่งพิภพถูกแผ่ให้เห็น
เมื่อพระยาห์เวห์ทรงสำแดงพระสีหนาท
ทรงปล่อยพระพิโรธเหมือนลมแรงจากพระนาสิก
16 พระองค์ทรงเอื้อมพระหัตถ์จากเบื้องบนคว้าตัวข้าพเจ้าไว้
ทรงฉุดข้าพเจ้าขึ้นมาจากห้วงน้ำลึก
17 ทรงช่วยข้าพเจ้าให้พ้นจากศัตรูที่กล้าแกร่ง
พ้นจากหมู่อมิตรที่ทรงพลังมากกว่าข้าพเจ้า
18 เขาเหล่านั้นเข้าโจมตีในวันที่ข้าพเจ้าย่อยยับ
แต่พระยาห์เวห์ทรงค้ำจุนข้าพเจ้า
19 ประทานเสรี ทรงปลดปล่อยข้าพเจ้าให้เป็นอิสระ
เพราะโปรดปรานข้าพเจ้า
20 พระยาห์เวห์ประทานรางวัล เพราะข้าพเจ้าเป็นผู้ชอบธรรม
มือข้าพเจ้าบริสุทธิ์ พระองค์จึงทรงตอบแทน
21 ข้าพเจ้าเฝ้ารักษามรรคาแห่งพระยาห์เวห์
มิได้ทำชั่วละทิ้งพระเจ้าของข้าพเจ้าไป
22 เพราะกฎเกณฑ์ทุกข้อของพระองค์อยู่เบื้องหน้าข้าพเจ้า
ข้าพเจ้าไม่เคยทิ้งข้อกำหนดของพระองค์เลย
23 ข้าพเจ้าไม่มีที่ติเฉพาะพระพักตร์พระองค์
ข้าพเจ้ารักษาตัวไว้ให้ห่างไกลจากความชั่ว
24 พระยาห์เวห์ทรงตอบแทนข้าพเจ้า เพราะข้าพเจ้าเป็นผู้ชอบธรรม
พระองค์ทรงเห็นแล้วว่าข้าพเจ้าบริสุทธิ์
25 พระองค์ทรงซื่อสัตย์ต่อผู้ที่ซื่อสัตย์ต่อพระองค์
ทรงทำดีต่อผู้ที่ดีพร้อม
26 ทรงจริงใจต่อผู้ที่จริงใจ
แต่ทรงหลักแหลมต่อผู้ที่มีเล่ห์เหลี่ยม
27 พระองค์ทรงช่วยประชากรที่ต่ำต้อยให้รอดพ้น
แต่ทรงดูหมิ่นผู้หยิ่งยโส
28 ข้าแต่พระยาห์เวห์ พระองค์ประทานแสงแก่ประทีปของข้าพเจ้าm
พระเจ้าของข้าพเจ้าทรงส่องความมืดของข้าพเจ้าให้สว่างไสว
29 กับพระองค์ ข้าพเจ้าโจมตีกองทหารnได้
กับพระเจ้าของข้าพเจ้า ข้าพเจ้าปีนข้ามกำแพงได้
30 มรรคาของพระเจ้าดีพร้อม
พระสัญญาของพระยาห์เวห์น่าเชื่อถือ
พระองค์ทรงเป็นโล่กันภัย
ให้ทุกคนที่หลบภัยมาพึ่งพระองค์
31 ใครเล่าเป็นพระเจ้านอกจากพระยาห์เวห์?
ใครเล่าเป็นหลักศิลา ถ้าไม่ใช่พระเจ้าของเรา?
32 พระเจ้าประทานพละกำลังให้ข้าพเจ้าเต็มเปี่ยม
ทรงบันดาลให้ทางของข้าพเจ้าปลอดภัย
33 ทรงทำให้ข้าพเจ้าคล่องแคล่วดังกวางดง
ทรงตั้งข้าพเจ้าไว้มั่นคงบนที่สูง
34 ทรงฝึกมือของข้าพเจ้าให้พร้อมรบ
ทรงฝึกแขนของข้าพเจ้าให้โก่งคันธนูทองสัมฤทธิ์ได้
35 พระองค์ประทานโล่ที่นำชัยชนะให้ข้าพเจ้า
พระหัตถ์ขวาทรงค้ำชูข้าพเจ้าไว้
พระทัยดีของพระองค์ทำให้ข้าพเจ้ายิ่งใหญ่
36 พระองค์ทรงขยายทางให้ข้าพเจ้าเดินโดยสะดวก
ข้อเท้าของข้าพเจ้าจะได้ไม่แพลง
37 ข้าพเจ้าไล่ตามศัตรูจนทัน
จะไม่กลับมาจนกว่าจะทำลายล้างเขาเสีย
38 ข้าพเจ้าฟาดฟันเขาจนเขาลุกไม่ขึ้น
เขาล้มลงใต้เท้าของข้าพเจ้า
39 พระองค์ประทานพละกำลังให้ข้าพเจ้า
ทรงทำให้อริยอมสยบอยู่ใต้อำนาจของข้าพเจ้า
40 ทรงทำให้ศัตรูหันหลังหนีจากข้าพเจ้า
แล้วข้าพเจ้าจึงทำลายผู้ที่เกลียดชังข้าพเจ้า
41 เขาเหล่านั้นร้องเสียงดัง แต่ไม่มีใครช่วยให้รอดพ้น
เขาร้องเรียกพระยาห์เวห์ แต่พระองค์ไม่ทรงตอบ
42 ข้าพเจ้าบดขยี้เขาแหลกละเอียดดังฝุ่นที่ถูกลมพัด
เหยียบย่ำเขาเหมือนโคลนบนถนน
43 พระองค์ทรงช่วยข้าพเจ้าให้รอดพ้นจากการกบฏของประชากรp
ทรงตั้งข้าพเจ้าไว้ให้เป็นหัวหน้าของชนชาติต่างๆ
ประชาชนที่ข้าพเจ้าไม่เคยรู้จักมาก่อนมารับใช้ข้าพเจ้า
44 เมื่อชนต่างชาติได้ยินคำสั่งของข้าพเจ้า ก็ยอมเชื่อฟัง
เขายอมสยบให้ข้าพเจ้า
45 ชนต่างชาติรู้สึกท้อแท้
ตัวสั่นออกมาจากที่มั่นของตน
46 ขอพระยาห์เวห์ทรงพระเจริญ
ถวายพระพรแด่องค์พระผู้ทรงเป็นหลักศิลาของข้าพเจ้า
ขอพระเจ้าผู้ทรงช่วยข้าพเจ้าให้รอดพ้นได้รับการเทิดทูนอย่างสูงส่ง
47 พระเจ้าประทานโอกาสให้ข้าพเจ้าได้ชัยชนะ
ทรงปราบประชาชนอื่นๆไว้ใต้อำนาจของข้าพเจ้า
48 ทรงช่วยข้าพเจ้าให้พ้นจากศัตรู
ทรงชูข้าพเจ้าขึ้นไว้เหนือผู้โจมตีข้าพเจ้า
และทรงช่วยข้าพเจ้าให้พ้นจากคนรุนแรง
49 เพราะเหตุนี้ ข้าแต่พระยาห์เวห์
ข้าพเจ้าจึงสรรเสริญพระองค์ในหมู่ชนทั้งหลาย
และจะร้องเพลงสดุดีถวายแด่พระนามของพระองค์
50 พระองค์ประทานชัยชนะยิ่งใหญ่แก่กษัตริย์ของพระองค์
ทรงสำแดงความรักมั่นคงต่อผู้รับเจิมของพระองค์
แก่ดาวิด และเชื้อสายของเขาตลอดไป