แผนกคริสตศาสนธรรม อัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ

CATECHETICAL CENTER OF BANGKOK ARCHDIOCESE

thzh-CNenfritjako

16. ภาวนาด้วยจินตนาการ
    อุปสรรคยิ่งใหญ่ที่สุดที่ทำให้คนยุคนี้ไม่อยากเป็นคริสตชนอาจไม่ใช่ปัญหาเรื่องความเชื่อ แต่เป็นความน่าเบื่อ เรามีชีวิตอยู่ในยุคที่น่าตื่นเต้น ดูเหมือนว่าความเฉลียวฉลาดของมนุษย์ และเทคโนโลยี ทำให้มนุษย์ทำทุกสิ่งทุกอย่างได้อย่างไม่มีข้อจำกัด การสื่อสารผ่านทางอินเตอร์เน็ต การส่งข้อความทางโทรศัพท์ การประชุมทางไกล และอื่น ๆ ทำให้โลกเล็กลง และทุกคนติดต่อสื่อสารกันสะดวกได้อย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน สินค้าตัวใหม่คือข้อมูล และความยากไร้แบบใหม่คือการใช้คอมพิวเตอร์ไม่เป็น

    และภายในความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่นี้ พระศาสนจักรดูเหมือนว่าหลงยุคอยู่ในอีกโลกหนึ่ง ถ้าต้องการกลับไปยังโลกนี้ เราอาจต้องใช้จินตนาการเป็นตัวขับเคลื่อนความเปลี่ยนแปลง และนำทางไปหาพระเจ้า ความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ที่สุดของมนุษย์เป็นความสำเร็จทางจินตนาการ ก่อนจะกลายเป็นความสำเร็จด้านวิศวกรรม ควอนตัมฟิสิกส์ หรือชีววิทยา อาสนวิหารแคนเตอร์บิวรี ทฤษฏีความสัมพัทธ์ และโลกไซเบอร์ ล้วนเป็นผลิตผลของจินตนาการที่ใช้พรสวรรค์ขั้นสูงสุด
    นี่คือจินตนาการที่เราต้องนำมาใช้ในชีวิตภาวนาของเรา สิ่งที่ฆ่าความศักดิ์สิทธิ์ และความรักได้รวดเร็วที่สุด คือหน้าที่ที่น่าเบื่อ ชีวิตภาวนาของเราควรเป็นสิ่งที่เหมือนการสร้างสรรค์บทกวี ศิลปะ และวิทยาศาสตร์ มากกว่าเป็นการทำตามกฎข้อบังคับทางศาสนา ชีวิตพระ ศาสนจักรของเรามีส่วนที่เป็นอดีตล้าสมัย มีข้อบังคับของศาสนาที่เป็นประเพณีนิยม ในขณะที่สังคมกำลังขอร้องให้เราใช้ความคิดสร้างสรรค์ ในการนำเสนอความเป็นจริงฝ่ายจิตที่เราค้นพบในพระเยซู คริสตเจ้า
    การภาวนาของเราก็เหมือนกัน สิ่งที่เราจำเป็นต้องเสพเป็นอาหาร และเสนอให้แก่โลกที่กำลังหิวโหย คือแนวทางชีวิตภายในซึ่งสะท้อนความสมบูรณ์ของเรา เราต้องการชีวิตภาวนาที่ต้องใช้ทั้งสมองด้านขวา และสมองด้านซ้าย กล่าวคือ ชีวิตภาวนาที่ต้องใช้สมรรถภาพของเราในการหยั่งรู้ สร้างสรรค์ สัญชาตญาณ และความสามารถทางศิลปะของเรามากเท่ากับใช้สมรรถภาพในการคิดด้วยเหตุผล ตรรกะ และระเบียบวินัย สมองด้านขวาอาจมีความเสี่ยงบ้าง เพราะต้องพึ่งพาอาศัยจินตนาการ เรื่องเล่า บทกวี เรื่องตื่นเต้นเร้าใจ ศิลปะ การเล่น อารมณ์ขัน เป็นต้น แต่ก็อาจเป็นโอกาสสุดท้ายสำหรับเราที่จะติดต่อกับวัฒนธรรมที่กำลังลืมประวัติความเป็นมาของคริสตศาสนา

คำถาม
    คุณจะไว้วางใจให้จินตนาการ สัญชาตญาณ และความคิดสร้างสรรค์ของคุณนำทางในการเดินทางฝ่ายจิตของคุณหรือไม่ คุณจะภาวนา และคิด “นอกกรอบ” แนวทางปฏิบัติฝ่ายจิตตามประเพณีนิยมหรือไม่


ลองทำดู
•    น้ำเป็นสัญลักษณ์อันทรงอานุภาพของการประทับอยู่ และความรักของพระเจ้า – คุณจำธารน้ำที่ไหลรินกลายเป็นชีวิตนิรันดร (ยน 4:14) และแม่น้ำแห่งชีวิตที่ไหลผ่านกลางนครในสวรรค์ (วว 22:1, 2) ได้ไหม ลองดื่มน้ำจากแก้วน้ำอย่างช้า ๆ ด้วยจิตใจสำรวม เสมือนว่าคุณกำลังดื่มชีวิต และพระจิตของพระเจ้าเข้าไปในตัวคุณ หรือวางหินก้อนหนึ่ง ซึ่งเป็นตัวแทนชีวิตของคุณ ใส่ไว้ในโถที่บรรจุน้ำใสสะอาด และคิดว่าคุณกำลังวางตนเองไว้ภายในความรักของพระเจ้าที่มีอำนาจชำระล้าง และเยียวยารักษา หรือไปสวดภาวนาข้างน้ำพุ หรือลำธาร คอยฟังเสียง และชื่นชมกับชีวิตของพระคริสตเจ้าที่พลุ่งขึ้นมาภายในตัวคุณ และสร้างความสดชื่น
•    เมื่อคุณต้องการสารภาพความผิด ลองหยิบหินมาก้อนหนึ่ง เลือกก้อนที่มีมุมแหลมคม และลองคิดว่าหินแข็งและคมก้อนนั้นก็คือความผิดพลาดของคุณ ลองจับก้อนหินนั้น และรับรู้ถึงความเป็นจริงและความดื้อรั้นของความผิดพลาดนั้น จากนั้น ให้วางหินนั้นลงที่เชิงกางเขน และขอโทษพระเจ้า รอให้นานพอที่คุณจะได้รับอภัยโทษ แล้วจึงลุกออกมาจากที่นั้น
•    นักบุญเทเรซาแห่งอาวีลา มีวิธีภาวนาที่เรียบง่ายแต่ทรงพลัง ข้าพเจ้ารู้ว่าผู้ที่ทดลองภาวนาแบบนี้เป็นครั้งแรกจะรู้สึกซาบซึ้งใจมาก วิธีนี้คือ นั่งลง ผ่อนคลาย ระลึกถึงการประทับอยู่ของพระเจ้า จากนั้น ให้พระเยซูคริสตเจ้าทรงมองคุณด้วยความรักและอย่างถ่อมพระองค์ เราอาจวาดภาพพระองค์มองดูเราด้วยความรักได้ไม่ยาก แต่ทำอย่างไรจึงจะให้พระองค์มองเราอย่างถ่อมพระองค์ แต่ทว่า พระเจ้าพระองค์นี้ไม่ใช่หรือที่เคยล้างเท้าให้ศิษย์ของพระองค์มาแล้ว บางทีชีวิตของเราอาจเติบโตขึ้นได้ถ้าเราสามารถยอมให้พระองค์ทรงคุกเข่าลงเบื้องหน้าเรา
•    หาถั่วมาเม็ดหนึ่ง (หรือเมล็ดพืชอย่างอื่นก็ได้) และใช้เป็นจุดศูนย์กลางของการทำสมาธิจิตภาวนาสักครู่หนึ่งตามวิธีรำพึงไตร่ตรองของคุณแม่จูเลียน แห่งนอริช ผู้เพ่งฌานที่มีชื่อเสียงในศตวรรษที่ 14 ผู้บันทึกว่า
    พระเจ้าทรงแสดงให้ข้าพเจ้าเห็นสิ่งหนึ่งบนฝ่ามือของข้าพเจ้า มันเล็ก และกลมเหมือนลูกบอลขนาดเท่าลูกเฮเซลนัท ข้าพเจ้ามองดูมันด้วยดวงตาแห่งความเข้าใจของข้าพเจ้า และถามตนเองว่า “สิ่งนี้คืออะไร” และข้าพเจ้าก็ได้รับคำตอบว่า “มันคือทุกสิ่งทุกอย่างที่ถูกสร้างขึ้น” ข้าพเจ้าสงสัยว่ามันอยู่รอดได้อย่างไร เมื่อมันดูเหมือนเล็กมากจนสามารถสลายตัวหมดไปได้ในทันทีทันใด ข้าพเจ้าได้รับคำตอบว่า “มันทนทานอยู่ได้ และจะทนทานตลอดไป เพราะพระเจ้าทรงรักมัน” ดังนั้น ทุกสิ่งทุกอย่างจึงเป็นอยู่ได้เพราะความรักของพระเจ้า
    ไตร่ตรองความคิดนี้ขณะที่คุณถือเม็ดถั่วนั้น และตระหนักมากยิ่งขึ้นถึงความลึกล้ำ และจริงจังของความรักที่พระเจ้าทรงมีต่อคุณ จากนั้น ให้ใส่เม็ดถั่วนั้นในกระเป๋า แล้วจึงเริ่มต้นวันของคุณ
•    เทียนเป็นเครื่องมือประกอบการภาวนาที่ดีมาก คุณสามารถจุดเทียนเมื่อคุณเริ่มต้นภาวนา และใช้เทียนนั้นเป็นสิ่งเตือนใจให้คุณคิดถึงแสงอ่อน ๆ แต่ไม่อาจต้านทานได้ ของพระคริสตเจ้าที่ลุกสว่างตลอดกาลท่ามกลางโลกของพระองค์ หรือคุณอาจจุดเทียนเล่มหนึ่งเมื่อเริ่มต้นการประชุมของวัด เพื่อเตือนใจในเวลาที่ตึงเครียด ว่าพระคริสตเจ้าประทับอยู่กับเรา ถ้าคุณกำลังภาวนาเป็นพิเศษเพื่อคนหลายคน คุณสามารถจุดเทียนใหม่หนึ่งเล่มสำหรับแต่ละคนที่คุณภาวนาให้ ถ้าคุณกำลังรำพึงตามเรื่องราวพระทรมาน ให้จุดเทียน 13 เล่ม และดับเทียนทีละเล่มหลังจากบรรดาศิษย์ทิ้งพระองค์ไป หรือทรยศพระองค์ ในที่สุดจะเหลือเทียนของ
พระคริสตเจ้าเหลืออยู่เพียงหนึ่งเล่ม และเมื่อถึงตอนที่พระองค์ตรัสว่า “สำเร็จบริบูรณ์แล้ว” และคุณดับเทียนเล่มสุดท้าย ให้ไตร่ตรอง และรับรู้ถึงความมืด
•    หาหนังสือของ Anthony de Mello ชื่อ สาธนา (Sadhana) และใช้วิธีจินตนาการที่เสนอไว้ถึง 50 วิธี เพื่อช่วยในการรำพึงภาวนา

เขาวงกต
    อาสนวิหารหลายแห่งในยุคกลางวาดภาพเขาวงกตไว้บนพื้นวัดเพื่อเป็นเครื่องมือในการภาวนา และเพ่งพิศรำพึง ตัวอย่างหนึ่งคือเขาวงกตในอาสนวิหารที่ชาร์ตร ในภาคเหนือของประเทศฝรั่งเศส และคนยุคปัจจุบันแสดงท่าทีว่ากลับมาสนใจวิธีนี้ โดยเดินช้า ๆ ตามทางในเขาวงกต และภาวนาด้วยการไตร่ตรอง หรือใช้เป็นการแสวงบุญแบบเข้มข้นได้ด้วย การเดินเข้าสู่ใจกลางเขาวงกต และเดินกลับออกมา เป็นสัญลักษณ์ว่าเรากำลังเคลื่อนตัวเข้าไปหาพระเจ้า และเดินกลับออกมาเพื่อนำการประทับอยู่ของพระองค์ไปแสดงให้ชาวโลกเห็น
    ถ้ามีพื้นที่กว้างพอ เราก็สามารถสร้างเขาวงกตขึ้นในวัดได้ โดยใช้เทปกาวติดที่พื้น เราอาจกำหนดจุดต่าง ๆ ที่เราต้องพบเจอระหว่างการเดินทางผ่านเขาวงกต เพื่อช่วยให้ผู้แสวงบุญหยุดพัก ไตร่ตรอง และภาวนา จุดหนึ่งอาจเป็นกระจกเงา ให้มองเข้าไปในกระจก และระลึกว่าคุณถูกสร้างขึ้นมาตามภาพลักษณ์ของพระเจ้า และคุณเป็นคนพิเศษที่ไม่มีใครเหมือน อีกจุดหนึ่งอาจเป็นเทียนไข เพื่อช่วยให้คุณถามตนเองว่าอะไรเป็นสิ่งที่ให้ความสว่างในการเดินทางของคุณในระยะหลังนี้ ติดกระดาษกาวชิ้นเล็ก ๆ เพื่อเตือนใจว่าระหว่างเดินผ่านเขาวงกต คุณกำลังภาวนาเพื่อใคร หรือเพื่ออะไร ก้อนหินจะช่วยให้คุณถามตนเองว่า อะไรเป็นภาระหนักที่คุณกำลังแบกอยู่ และคุณจะทิ้งมันไว้ที่ใดได้ แผนที่และเข็มทิศ จะถามคุณว่าอะไรคือ “ทิศเหนือแท้” สำหรับคุณ และอะไรดึงดูดคุณออกไปนอกเส้นทาง ขนมปังและเหล้าองุ่นที่ใจกลางเขาวงกต แสดงถึงการประทับอยู่ของพระคริสตเจ้า
    ถ้าใช้จินตนาการสักเล็กน้อย สัตบุรุษกลุ่มหนึ่ง ไม่ว่าเด็กหรือผู้ใหญ่ สามารถช่วยกันสร้างเขาวงกตนี้ขึ้นมาได้ เพื่อถวายให้วัด ซึ่งจะถือว่าเป็นการแสวงบุญพิเศษ หรือเป็นกิจกรรมระหว่างเทศกาลมหาพรต

บทภาวนา
    โอ้ ไข่มุกอันสูงค่า
    สวรรค์ไม่สามารถรองรับพระองค์ได้
    แต่พระองค์ยังเลือกมาประทับอยู่ในตัวเรา
    โปรดทรงบันดาลให้เรามีค่าคู่ควรแก่ความรักยิ่งใหญ่เช่นนั้น
    โปรดทรงขัดเกลากรวด และสิ่งสกปรกในชีวิตของเรา
    ด้วยพระหรรษทานอันอดทนของพระองค์
    จนกว่าพระองค์ทรงดูดซับเราไว้ และเปลี่ยนแปลงเราโดยสิ้นเชิง
    และการสร้างสรรค์ครั้งใหม่ของพระองค์จะสำเร็จไปเทอญ
                                Debbie Peatman