บทที่ 3 : ตัณหา (LUST)
พยศชั่ว “ตัณหา” นั้นมักถูกพูดกันว่าเป็น “ความไม่บริสุทธิ์” (Impurity) ความไม่บริสุทธิ์เป็นพยศชั่วที่น่าอับอายเพราะว่ามันเปลี่ยนให้พลังแห่งความดีงามไปเป็นบาป พยศชั่วนี้ตรงข้ามกับความบริสุทธิ์ดีงาม (chastity) ซึ่งพระเยซูเจ้าตรัสสอนให้มนุษย์เราปฏิบัติตัวดังเช่นเทวทูต นักบุญโทมัสให้คำนิยามของความบริสุทธิ์ดีงามว่าเป็นคุณธรรมที่กำกับควบคุมความปรารถนาที่กระตุ้นความรู้สึกและความสุขสันต์สำหรับผู้ที่แต่งงานแล้วและเป็นคุณธรรมที่หักห้ามความปรารถนาและความสุขนั้นสำหรับผู้ที่ยังมิได้แต่งงาน
ด้วยเหตุนี้ตัณหา หรือ ความไม่บริสุทธิ์ จึงเป็นการแสวงหาความสุขสันต์ที่ไม่ถูกทำนองคลองธรรม โดยเฉพาะอย่างยิ่งการแสวงหาผ่านทางการสัมผัส บาปของความไม่บริสุทธิ์นั้นทำให้ทั้งร่างกายและจิตใจ อันเป็นวิหารของพระจิตเจ้าและถูกกำหนดให้ได้รับสิริรุ่งโรจน์ในการกลับคืนชีพของร่างกายนั้นสกปรกเสียความบริสุทธิ์ไป
หูที่สงบเสงี่ยมที่สุดยังถูกขัดขวางโดยบาปหลายๆ ชื่อผ่านทางพยศชั่วตัณหานี้ เช่น การผิดประเวณี, การเป็นชู้, การร่วมประเวณีระหว่างพี่น้องญาติสนิท, การข่มขืนกระทำชำเรา, การคุมกำเนิด, การทำแท้ง, การสำเร็จความใคร่ด้วยตนเอง (solitary sin) นักบุญเปาโลได้กล่าวถึงบาปเหล่านี้ว่า “ในหมู่ท่านทั้งหลาย อย่าให้มีการผิดประเวณี ความลามกโสมมต่างๆ หรือความโลภ อย่าให้มีแม้แต่การพูดถึง จึงจะเป็นการเหมาะสมกับผู้ศักดิ์สิทธิ์” (อฟ 5 : 3) เราเรียกชื่อบาปเหล่านี้ก็เพียงเพื่อให้ทราบถึงความเลวร้ายของพวกมันเท่านั้น
“ความไม่บริสุทธิ์” หุ้มห่อตัวมันเองรอบๆ ความรู้สึกของเราทั้งหมดและผ่านมาทางความรู้สึกเหล่านี้ ความไม่บริสุทธิ์ก็จะเข้าสู่จิตวิญญาณของเรา มันทำให้เรามืดบอดต่อคุณค่าทางจิตใจต่างๆ จิตใจของเราจะดำมืดมนลง จิตใจของเราจะอ่อนแอและมันจะชักนำเราสู่สถานที่ที่เราจะทำบาปนี้ในใจด้วยความคิดที่ไม่บริสุทธิ์ ; บาปทางการเห็นด้วยสายตาโดยการตกอยู่ในความอยากรู้อยากเห็น, โดยการมองโดยไม่บริสุทธิ์ใจต่อบุคคล ภาพ หรือสิ่งหนึ่งสิ่งใด บาปทางการได้ยินด้วยหูโดยการฟังคำพูดสัปดนลามกอนาจาร ฟังเรื่องราว เรื่องตลก เพลง ฯลฯ ที่ลามกหรือส่อไปทางลามก บาปทางการได้กลิ่นด้วยจมูก โดยการหมกมุ่นที่จะสนุกสนานชื่นชมกลิ่นกามโลกีย์ บาปทางการรับรสด้วยปากโดยการใช้คำพูดหรือเพลงที่ไม่บริสุทธิ์ หลุดใช้คำพูดดุด่าผรุสวาส บาปด้วยการใช้ริมฝีปากโดยการจูบอย่างพิสวาสด้วยอารมณ์ใคร่ บาปด้วยการใช้มือโดยการสัมผัสอย่างหยาบคาย คลึงเคล้า กอดรัด หรือการกระทำอื่นที่เร้าอารมณ์ บาปด้วยหัวใจโดยการปรารถนาอย่างไม่บริสุทธิ์และไม่อาจอดกลั้นต่ออารมณ์ที่ไม่บริสุทธิ์เมื่อถูกปลุกเร้าขึ้นโดยมิได้ตั้งใจ บาปอื่นๆ ที่เกิดจากผู้อื่น หรือ บาปที่เกิดขึ้นจากการไปอยู่ร่วมกับผู้อื่น
การปล่อยตัวให้หลงระเริงในความไม่บริสุทธิ์ไม่ว่าด้วยวิธีการใดๆ นั้นขัดกับแผนการของพระเจ้า บุคคลที่แต่งงานแล้วซึ่งสนุกสนานกับความสุขทางเพศได้อย่างถูกต้องตามกฎเกณฑ์เพราะความสุขทางเพศนั้นถูกทำให้ศักดิ์สิทธิ์ด้วยการแต่งงานนั้น, ยังคงต้องคำนึงถึงพรหมจารีบริสุทธิ์ตามสภาวะของมันด้วยการควบคุมตนเองอย่างมีเหตุผลด้วย การประพฤติผิดประเวณีกับผู้อื่นมีความผิดสาหัสเป็นสองเท่าสำหรับคนที่แต่งงานแล้ว ไม่ว่าความบริสุทธิ์นั้นจะเป็นการถือพรหมจรรย์ของผู้ถวายตัว หรือ ผู้ถือพรต, การถือพรหมจรรย์ของผู้ที่ไม่แต่งงาน, หรือ ความบริสุทธิ์ของชีวิตการแต่งงาน เราต้องมองว่าความบริสุทธิ์เหล่านี้เป็นการอุทิศกำลังทั้งมวลของเราในการรับใช้พระเจ้า และมันจะส่งอิทธิพลในการช่วยยกระดับตัวเราด้วย
ความไม่บริสุทธิ์นั้นมักจะตามมาด้วยความชั่วร้ายอื่นอีกมาก มันจะทำให้จิตใจของเรามืดบอด บิดเบือนความตั้งใจของเราและทำให้จิตใจของเราแข็งกระด้างขึ้น ความไม่บริสุทธิ์นั้นจะทำให้ความสำนึกบาปผิดของเราบิดเบือนไป, จะนำมาซึ่งความเกลียดชังต่อพระเจ้าเพราะว่าพระบัญญัติของพระองค์นั้นกำหนดห้ามความสุขสันต์ที่มันต้องการ และสนับสนุนให้เรารักสิ่งของฝ่ายโลกมากเกินไป ความไม่บริสุทธิ์ก่อให้เกิดความกังวลในจิตใจโดยทางความกลัวโอกาสที่จะโดนการลงโทษ มันมักจะนำไปสู่โรคร้ายต่างๆ และความวิกลจริต และเมื่อเรามีความไม่บริสุทธิ์ ความไม่นบนอบเชื่อฟัง, การก่อเรื่องอื้อฉาวและการสูญเสียความเชื่อก็อาจจะตามมาติดๆ การสารภาพบาปอย่างไม่จริงใจและการล่วงเกินต่อศีลมหาสนิทอันศักดิ์สิทธิ์มักจะเป็นผลที่ตามมาของการประพฤติตัวไม่บริสุทธิ์ ตัณหา หรือ ความไม่บริสุทธิ์นั้นยังอาจก่อให้เกิดการที่จิตใจของเราจะพ่ายแพ้ต่อบาปอื่นๆ อีก
ความหยาบคายต่ำช้า, ราคะโลกีย์ และความไม่บริสุทธิ์จะกลายเป็นธรรมชาติมนุษย์ธรรมดาไปด้วยความเกียจคร้านเรื่อยเปื่อยโดยการยึดติดกับการทำอะไรอย่างง่ายๆ มุ่งหาแต่ความสะดวกสุขสบาย โดยการกินดื่มบริโภคมากเกินไป เรื่องลามก วรรณกรรมส่อไปทางลามก ภาพยนตร์และรายการโทรทัศน์ลามกอนาจาร, ภาพลามกอนาจาร การเต้นรำที่ส่อไปทางลามกอนาจารยั่วยวนอารมณ์ การใส่เสื้อผ้าวับๆ แวมๆ ยั่วอารมณ์และการอยู่ร่วมกันใกล้ชิดเกินไปอาจนำเราไปสู่การกระทำที่เป็นบาปได้ การยุ่งเกี่ยวกับเพศตรงข้ามบ่อยเกินไปจนจะกลายเป็น “สม่ำเสมอ” โดยปราศจากการคาดหวังถึงการแต่งงานในอนาตตนั้นมักจะเป็นโอกาสที่จะเกิดบาปหนักของความไม่บริสุทธิ์ได้
การป้องกันตัวจากความไม่บริสุทธิ์
มันเป็นหนึ่งในการลงโทษของบาปกำเนิดที่เราจะต้องต่อสู้กับความไม่บริสุทธิ์อย่างต่อเนื่องตลอดชีวิตของเราและเรียกร้องการดูแลจิตใจ ความคิด ความปรารถนาและการพูดจาของเราอย่างสม่ำเสมอ การแต่งตัวเรียบร้อย, สงบเสงี่ยม และเลือกความบันเทิงต่างๆ ด้วยความระมัดระวังนั้นจำเป็นต่อการป้องกันตัวเราเพื่อรักษาความบริสุทธิ์ของเราและผู้อื่นไว้ การสารภาพด้วยจิตใจอย่างดีและการปฏิเสธความต้องการของตนเอง การรับศีลศักดิ์สิทธิ์อย่างสม่ำเสมอ การนอบน้อมต่อพระจิตเจ้าและการสวดภาวนาเป็นวิธีการที่จำเป็นอย่างมากที่จะใช้เป็นอาวุธในการต่อสู้กับความไม่บริสุทธิ์นี้ เราไม่สามารถเล่นกับไฟแล้วไม่ถูกไฟลามไหม้ได้; เราไม่สามารถปล่อยตัวเองต่อความไม่บริสุทธิ์แล้วเราจะไม่ทำบาปได้ ด้วยความนอบน้อมถ่อมตัวและความไม่วางใจตัวเอง, เราต้องห่างไกลจากโอกาสที่จะทำบาปดังที่พระคัมภีร์บอกกับเราว่า “ผู้มีใจดื้อดึงจะรับทุกข์ทรมานอย่างหนัก คนบาปยิ่งจะสะสมบาปมากขึ้น” (บสร 3 : 27)
อย่างไรก็ดี, ความคิดไม่ดี ลามกจกเปรตและน่ารังเกียจนั้นมิใช่บาป มันเป็นบาปเมื่อเรายอมแพ้แก่พวกมันและเราได้ทำบาป เราจะไม่สามารถพ่ายแพ้กับพวกมันเลยตราบเท่าที่เรายังเรียกพระนามศักดิ์สิทธิ์ของพระเยซูเจ้าและพระนางมารีย์ในช่วงที่เราถูกโจมตีด้วยการยั่วยวนทดลองใจนั้น จะเป็นการดีมากในการที่เราจะรื้อฟื้นคำยืนยันที่จะตายดีกว่าที่จะต่อต้านพระเจ้า มันยังเป็นการดีที่เราจะทำสำคัญมหากางเขน ซ้ำแล้วซ้ำอีกและใช้น้ำเสกด้วย สิ่งที่จะช่วยเราได้มาก เช่น การที่จะเปิดเผยการประจญล่อลวงในการสารภาพบาปของเรา แต่การสวดภาวนาก็จะเป็นวิธีการที่ดีที่สุดในการปรับปรุงแก้ไขความผิดพลาดทุกสิ่งร่วมกับการวอนขอต่อพระเยซูเจ้าและพระแม่มารีย์