การยืน
การยืนเป็นอิริยาบถที่เหมาะอย่างหนึ่งสำหรับศาสนบริกรที่พระแท่นบูชา โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้เป็นประธาน และเป็นอิริยาบถเบื้องต้นของพิธีกรรมสำหรับสัตบุรุษด้วย ในลักษณะการเช่นนี้
♦ เป็นเครื่องหมายบ่งบอกความเคารพ เราจะลุกขึ้นยืนให้เกียรติแก่บุคคลที่เราประสงค์จะให้เกียรติแก่เขา ดังนั้น ในพิธีกรรมเราจึงยืนใน :
- ภาคเริ่มพิธี และในภาคปิดพิธี
- เมื่อขบวนประธานและศาสนบริกรเดินเข้ามา และออกไป
- เมื่อรับการทักทายจากประธาน
- ขณะอ่านพระวรสาร ดังที่ชาวอิสราเอลยืนขณะพระเยซูเจ้าตรัสกับพวกเขา
♦ เป็นอิริยาบถของการสวดภาวนา (เป็นอิริยาบถทั่วไปของชาวอิสราเอลขณะสวดภาวนา)
♦ เป็นอิริยาบถแสดงถึงการมีส่วนในการกลับคืนชีพอย่างรุ่งเรือง หรือปัสกาของพระคริสตเจ้า และยังเป็นอิริยาบถที่เหมาะสมกับผู้ที่กำลังรอคอยการเสด็จมาครั้งที่สองของพระคริสตเจ้า (Parousia) เฉพาะพระพักตร์พระบุตรแห่งพระเจ้า พวกเขาคงยืนอยู่ เพราะไม่หวั่นกลัวการตัดสิน ที่เต็มไปด้วยพระยุติธรรมของพระองค์ (มลค. 3:2)
♦ ความหมายสุดท้ายของการยืน คือ ผู้ได้รับเลือกสรรจากพระเจ้าบนสวรรค์ต่างยืนขอบพระคุณพระเป็นเจ้า (วว 7:9;15:2) ความหมายที่คริสตชนกระหายที่จะพบพระเจ้าในอาณาจักรสวรรค์อย่างสมบูรณ์แบบนี้ จึงทำให้เขามีธรรมเนียมยืนขณะภาวนาในวันอาทิตย์ปัสกา “เพราะว่าเราเห็นว่าวันนี้ เราเห็นภาพของโลกที่จะมาถึง”
การคุกเข่า
การคุกเข่าก็มีความสำคัญมาตั้งแต่โบราณแล้ว เพราะก่อนจะมีการคืนชีพอย่างรุ่งเรืองหรือปัสกา มีการใช้โทษบาปโดยการคุกเข่าภาวนาเป็นเครื่องหมายแสดงถึงการกลับใจ เป็นระยะเวลาของการจำศีล ไว้ทุกข์ ถ่อมตน ใช้โทษบาป
การคุกเข่าภาวนายังเป็นอิริยาบถของการภาวนาส่วนตัว แบบฤๅษี หรือนักพรตอียิปต์โบราณคุกเข่าอ่านหนังสือเพื่อรำพึงภาวนา นักบุญเปาโลยังบอกว่า “ข้าพเจ้าคุกเข่าเฉพาะพระบิดา” (อฟ 3:14)
ในสมัยหนึ่งการคุกเข่า เป็นอิริยาบถของทางยุโรป เพื่อนมัสการศีลมหาสนิท และรับศีลมหาสนิท ซึ่งบ่งบอกถึงความเคารพสูงสุดที่มนุษย์พึงมีต่อพระเจ้า
การนั่ง
เป็นอิริยาบถของอาจารย์สอนศิษย์ และประธาน หรือหัวหน้าในที่ประชุม ด้วยเหตุนี้พระสังฆราชจึงมีเก้าอี้ประจำตำแหน่ง หรืออาสน์ (Cathedra) ที่ท่านนั่งขณะเป็นประธานปราศรัย โดยมีพระสงฆ์นั่งรอบ ๆ ท่านบนม้านั่ง
สัตบุรุษเองได้รับการเชื้อเชิญให้นั่งลงหลายครั้งในพิธีกรรม
♦ การนั่งขณะรับฟังพระวาจาของพระเจ้า เป็นการแสดงออกถึงการรับฟังอย่างตั้งใจ เป็นเหมือนกับพวกศิษย์ของพระเยซูเจ้าที่นั่งรอบพระองค์เพื่อฟังพระองค์ตรัสสั่งสอน
ฉะนั้น โดยปกติสัตบุรุษจึงนั่งขณะมีการอ่านพระวาจา (ยกเว้นพระวรสาร) ขณะขับร้องบทคั่น และขณะฟังเทศนา สัตบุรุษยังนั่งนิ่งเงียบรำพึงหลังรับศีลมหาสนิทด้วย
มีการเชื้อเชิญให้สัตบุรุษก้มศีรษะ ก่อนจะรับพรแบบสง่าจากประธานในพิธี “โปรดก้มศีรษะรับพร” ในมิสซาสมัยโบราณ วันธรรมดาในเทศกาลมหาพรต มีบทภาวนาที่เรียกว่า Super Populum (คำภาวนาให้แก่สัตบุรุษ) ซึ่งสังฆานุกรจะประกาศว่า “Humiliate capita vestra Deo (จงก้มศีรษะเฉพาะพระพักตร์พระเจ้า) อย่างไรก็ตาม อิริยาบถนี้มักจะแทนที่ด้วยการคุกเข่าขณะพระสงฆ์อวยพร การภาวนาของพวกนักพรตก็มีบางช่วงที่พวกท่านก้มศีรษะอย่างลึก ในบทประจำมิสซาก็มีบอกให้พระสงฆ์ก้มศีรษะ พร้อมกล่าวคำภาวนาส่วนตัว การคำนับพระแท่น และคำนับพระสังฆราชก็ใช้อิริยาบถนี้