กระประยุกต์พระวรสารกับวัฒนธรรมท้องถิ่น*
10. แต่ไหนแต่ไรมา ดูเหมือนจะเป็นประเพณีของศาสนจักรที่จะยอมรับวัฒนธรรมท้องถิ่นของชาติต่างๆ ในส่วนที่แสดงออกถึงความสมบูรณ์อันไม่มีที่สิ้นสุดของพระเยซูคริสตเจ้าได้ดียิ่งขึ้น โดยอาศัยรูปแบบของวัฒนธรรมทั้งมวลนี้เท่านั้นเป็นเครื่องช่วยเหลือที่จะทำให้คุณสมบัติดังกล่าวกระจ่างมากขึ้นทุกที และพระศาสนจักรเองก็จะสามารถก้าวหน้าในการศึกษาความจริงอย่างลึกล้ำและประณีตมากขึ้นทุกวัน ซึ่งความจริงนี้พระคริสตเจ้าก็ได้ทรงมอบไว้กับพระศาสนจักรอย่างสมบูรณ์อยู่แล้ว
เมื่อถือหลักเกณฑ์สองประการ ได้แก่ ความสอดคล้องระหว่างรูปแบบวัฒนธรรมต่างๆ ที่จะเลือกสรรกับพระวรสาร และอีกประการหนึ่ง คือ ความเป็นอันเดียวกับพระศาสนจักรทั่วโลกแล้ว จำเป็นต้องจัดแนวทางในการศึกษา (ซึ่งทั้งสภาสังฆราชต่างๆ และสมณกระทรวงที่เกี่ยวข้องจะต้องเป็นผู้รับผิดชอบ) และในงานอภิบาล เพื่อให้การผสมผสานระหว่างวัฒนธรรมกับความเชื่อคริสตชนนั้น ได้แพร่หลายไปอย่างทั่วถึง แม้กระทั่งในการสมรสและชีวิตครอบครัว
การผสมผสานของวัฒนธรรมดังกล่าวจะเป็นหนทางพาไปสู่การสถาปนาพันธสัญญากับพระปรีชาญาณของพระเจ้าเสียใหม่ ซึ่งพระปรีชาญาณนั้นก็คือพระเยซูคริสตเจ้านั่นเอง พระศาสนจักรจะสมบูรณ์ขึ้นก็ด้วยวัฒนธรรมรูปแบบต่างๆ นั้น ซึ่งถึงแม้ว่าอาจจะขาดเทคโนโลยีแต่ก็ยังอุดมด้วยสติปัญญาของมนุษย์ และยังมีคุณค่าอันยิ่งใหญ่ในแง่จริยธรรมที่ช่วยดำรงชีวิตได้อย่างงดงาม
เพื่อให้เป้าหมายของการเดินทางที่ชัดเจนและวิถีทางได้รับการชี้แนะอย่างแน่นอน ที่ประชุมสมัชชาพระสังฆราชซึ่งกระทำได้อย่างถูกต้อง โดยเริ่มที่จะนำเอาแผนการของพระเจ้าสำหรับชีวิตสมรสและครอบครัวมาพิจารณาเป็นอันดับแรกอย่างเจาะลึก ด้วยการกลับไปสู่ “จุดดั้งเดิม” ตามคำสั่งสอนของพระเยซูคริสต์