บุตรเป็นของขวัญอันล้ำค่าของการสมรส
14. ตามแผนการของพระเจ้า การสมรสเป็นรากฐานของชุมชนที่ขยายใหญ่ขึ้น คือ ครอบครัว เพราะว่าสถาบันการสมรสและความรักฉันสามีภรรยาได้รับการสถาปนาขึ้นมาเพื่อการให้กำเนิดบุตรและอบรมเลี้ยงดูเขาเสมือนว่าเป็นเป้าหมายสุดยอดของสถาบัน
แก่นสารที่แท้ที่สุดของความรักก็คือการอุทิศตัว ความรักฉันสามีภรรยาที่นำคู่สมรสไปสู่การ “รู้จักกัน” ซึ่งทำให้เขากลายเป็น “เนื้อเดียวกัน” นั้น ยังไม่สำเร็จลุล่วงไปเฉพาะภายในคู่สมรส เพราะความรักนั้นทำให้เขาเป็นผู้ที่สามารถอุทิศตัวถึงขั้นสูงสุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ซึ่งก็คือ การที่เขาทั้งสองได้กลายเป็นผู้ร่วมมือกับพระเจ้าในการมอบชีวิตให้แก่มนุษย์อีกคนหนึ่ง ดังนั้น ในขณะที่สามีภรรยาอุทิศตัวให้แก่กันและกันนั้น มิใช่เพียงแต่มอบตัวให้แก่กันและกันเท่านั้นแต่ยังให้กำเนิดบุตรด้วย บุตรนั้น เป็นภาพสะท้อนอันทรงชีวิตแห่งความรักของเขา เป็นเครื่องหมายอันยืนยงของเอกภาพระหว่างสามีภรรยา เป็นรูปสังเคราะห์ที่มีชีวิตซึ่งแยกออกจากความเป็นพ่อเป็นแม่มิได้
เมื่อเขาทั้งสองได้กลายเป็นพ่อแม่ สามีภรรยาก็จะได้รับพระคุณแห่งความสำนึกรับผิดชอบจากพระเจ้า นั่นคือ ความรักฉันพ่อแม่ ซึ่งควรอย่างยิ่งที่จะเป็นเครื่องหมายที่ลูกๆ มองเห็นได้ ซึ่งจะหมายถึงความรักของพระเจ้าเอง “ผู้ทรงเป็นบ่อเกิดแห่งความเป็นบิดาทั้งในสวรรค์และบนแผ่นดิน”
อย่างไรก็ดี ไม่ควรจะลืมว่าในกรณีที่ไม่สามารถบังเกิดบุตรได้นั้น ชีวิตสมรสก็ยังไม่ขาดคุณค่า เพราะเหตุว่าการที่ร่างกายเจริญพันธุ์ไม่ได้ อาจจะเปิดโอกาสให้สามีภรรยาเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ต่อความเป็นบุคคลของมนุษย์ในทางอื่นที่มีคุณค่าสูงส่ง เช่น การรับบุตรบุญธรรม การอบรมดูแลเด็กรูปแบบต่างๆ การช่วยเหลือแก่ครอบครัวอื่นๆ แก่เด็กยากจนหรือเด็กพิการ