ครอบครัวเอ๋ย จงพยายาม “เป็น” สิ่งที่ท่าน “เป็น” เถิด
17. ตามแผนการของพระเจ้าผู้สร้างและผู้ไถ่กู้ ครอบครัวนอกจากจะพบเอกลักษณ์ของตนคือสิ่งที่ “เป็น” แล้ว ยังพบภารกิจคือ สิ่งที่ครอบครัวสามารถ “ทำ” และ “ควรทำ” ด้วย บทบาทซึ่งพระเจ้าได้มอบให้ครอบครัวปฏิบัติทุกยุคทุกสมัยก็มาจากธรรมชาติของครอบครัวนั่นเอง และยังแสดงถึงพลังพัฒนาที่เจริญก้าวหน้าและตรงกับสภาพความเป็นจริงของครอบครัว แต่ละครอบครัวสามารถค้นหาและพบคำเตือนนั้นในตัวเองซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่มีวันสูญสลายไปได้ และเป็นสิ่งที่ชี้ถึงศักดิ์ศรีในแก่นแท้และความรับผิดชอบของตน นั่นคือ “ครอบครัวเอ๋ยจงพยายามเป็นสิ่งที่ท่านเป็นเถิด”
ดังนั้น ครอบครัวจึงต้องกลับไปสู่ “จุดเริ่มต้น” ของการสร้างสรรค์ของพระเจ้า เพื่อจะได้รู้จักตัวเองและบรรลุถึงความจริงแท้ ไม่เพียงแต่ตามสิ่งที่เป็นอยู่เท่านั้นแต่ตามสิ่งที่เคยกระทำตลอดมาด้วย ในแผนการของพระเจ้านั้น พระองค์ได้ทรงแต่งตั้งครอบครัวให้เป็น “กลุ่มที่รวมของชีวิตและความรักอันลึกซึ้ง” เพราะฉะนั้น ครอบครัวจึงรับภารกิจที่ต้องพยายามกลายเป็นสิ่งที่เป็นมากขึ้นเรื่อยๆ หมายความว่า ต้องพยายามเป็น “กลุ่มที่รวมของชีวิตและความรัก” ด้วยความมานะบากบั่นที่จะบรรลุถึงผลสำเร็จในอาณาจักรของพระเจ้าเช่นเดียวกับสรรพสิ่งที่ได้ทรงสร้างซึ่งได้รับผลแห่งการไถ่กู้ทั้งมวลที่สุดในทัศนะซึ่งบ่งถึงรากฐานแท้ของความจริงก็ต้องกล่าวว่า “ความรัก” นี่แหละที่กำหนดแก่นแท้และบทบาทของครอบครัวโดยเฉพาะ ดังนั้น ครอบครัวได้รับภารกิจที่จะต้องพิทักษ์รักษา ประกาศ และเผยแผ่ความรัก ซึ่งเป็นภาพที่สะท้อนที่ทรงชีวิตและเป็นการเข้าร่วมส่วนโดยแท้ในความรักที่พระเจ้ามีต่อมนุษยชาติและต่อพระศาสนจักร เจ้าสาวของพระองค์
บทบาทหน้าที่ของครอบครัวแต่ละประการเป็นการแสดงออกและเป็นการปฏิบัติภารกิจขั้นพื้นฐานดังกล่าวให้สำเร็จลุล่วงไป เพราะฉะนั้น จำเป็นต้องพิจารณาภารกิจที่ละเอียดซับซ้อนของครอบครัวและชี้ลักษณะที่แตกต่างกันแต่ก็ยังสัมพันธ์กันอย่างใกล้ชิดของภารกิจนี้
ดังนั้น โดยถือเอาความรักเป็นจุดเริ่มต้นและเป็นหลักเกณฑ์โดยตลอด ที่ประชุมจึงเน้นถึงหน้าที่ทั่วไป 4 ประการของครอบครัว คือ
1. สร้างชุมชนมนุษย์
2. รับใช้ชีวิต
3. มีส่วนในการพัฒนาสังคม
4. มีส่วนร่วมในชีวิตและภารกิจของพระศาสนจักร