สิทธิและบทบาทสตรี
22. ครอบครัวเป็นความสัมพันธ์และกลุ่มบุคคล และต้องพยายามเป็นเช่นนี้มากยิ่งขึ้นทุกวัน เพราะฉะนั้น ความรักเป็นปัจจัยและพลังอันต่อเนื่องซึ่งกระตุ้นครอบครัว ให้ต้อนรับนับถือและพัฒนาสมาชิกแต่ละคนในฐานะที่เขาประกอบด้วยศักดิ์ศรีของความเป็นคนอันสูงส่ง นั่นคือ เขาเป็นภาพลักษณ์ที่มีชีวิตของพระเจ้า สมาชิกสมัชชาพระสังฆราชเคยยืนยันอย่างถูกต้องว่า เครื่องตัดสินวินิจฉัยทางจริยธรรมว่าด้วยสายสัมพันธ์ระหว่างคู่สมรสและสมาชิกครอบครัวซึ่งเป็นแบบที่เหมาะสมโดยแท้จริงนั้น ก็อยู่ที่การส่งเสริมศักดิ์ศรีและภารกิจของแต่ละบุคคล ศักดิ์ศรีและภารกิจนั้นจะมิอาจบรรลุถึงขั้นสมบูรณ์ได้ ถ้าหากว่าแต่ละคนมิได้อุทิศตนเองให้แก่คนอื่นอย่างจริงใจ
ตามทัศนะดังกล่าวสมัชชาพระสังฆราชได้มีมติให้ความสนใจเป็นพิเศษต่อสภาพของสตรี ต่อสิทธิและบทบาทของเธอทั้งในครอบครัวและในสังคม ในทำนองเดียวกัน ก็ควรจะพิจารณาสภาพของบุรุษในฐานะที่เป็นสามีและบิดา สภาพของบรรดาลูกๆ และสภาพของคนสูงอายุอีกด้วย
เมื่อพูดถึงสตรี ควรจะเน้นเป็นพิเศษว่า เธอมีศักดิ์ศรีและส่วนรับผิดชอบเท่าเทียมกับบุรุษ ความเท่าเทียมกันนี้จะแสดงออกในรูปแบบพิเศษโดยที่ทั้งสองอุทิศตัวให้แก่กันและกันและร่วมกันอุทิศตัวให้แก่บุตร การอุทิศตัวทั้งสองประกานี้เป็นลักษณะเฉพาะของการสมรสและครอบครัว สิ่งที่สติปัญญาของมนุษย์สังเกตเห็นได้และยอมรับได้นี้ ก็ยังเป็นสิ่งที่พระวาจาของพระเจ้าทรงแสดงให้เป็นที่ประจักษ์แล้วประวัติศาสตร์แห่งความรอดเป็นการประกาศอย่างต่อเนื่องและเด่นชัดถึงศักดิ์ศรีของสตรี
เมื่อพระเจ้าทรงสร้างมนุษย์ขึ้นมาเป็น “ชายและหญิง” แล้ว พระองค์ทรงประทานศักดิ์ศรีความเป็นคนให้แก่ชายและหญิงอย่างเท่าเทียมกัน พระองค์ยังทรงบันดาลให้เขาทั้งสองมีสิทธิต่างๆ ที่จะยกเลิกไม่ได้และความรับผิดชอบซึ่งจะพบได้เฉพาะแต่ในตัวบุคคล ต่อจากนั้น พระเจ้าได้ทรงเทิดทูนเกียรติของสตรีอย่างน่าพิศวงที่สุด โดยที่พระองค์เองได้ทรงรับเอากายจากพระนางพรหมจารีมารีอาผู้ซึ่งพระศาสนจักรเคารพเป็นพระชนนีของพระเจ้า และเชิดชูเป็นแบบฉบับของสตรีที่ได้รับผลจากการกอบกู้โดยเรียกพระนางว่า “เอวาคนใหม่” ความรักอันผ่องแผ้วที่พระเยซูทรงมีต่อสตรีซึ่งได้รับเชิญให้ติดตามพระองค์และให้รับส่วนแบ่งในไมตรีจิตของพระองค์ การปรากฏพระกายต่อสตรีผู้หนึ่งในตอนเช้าตรู่ของวันที่พระองค์ทรงกลับคืนพระชนม์ก่อที่จะทรงประจักษ์ต่อหน้าศิษย์อื่นๆ หลังจากที่พระองค์เสด็จขึ้นจากบรรดาผู้ตาย รวมทั้งการที่พระองค์ทรงมอบหมายให้พวกสตรีเป็นผู้นำข่าวดีแห่งการกลับคืนชีพของพระองค์ไปประกาศให้อัครธรรมทูตทราบนั้น ทั้งหมดนี้เป็นเครื่องหมายที่บ่งถึงทัศนคติอันสูงส่งซึ่งพระเยซูเจ้ามีต่อสตรีโดยทั่วหน้า นักบุญเปาโลเขียนไว้ว่า “ท่านทุกคนเป็นบุตรของพระเจ้า โดยอาศัยความเชื่อในพระคริสตเยซู ไม่มียิวหรือกรีก ไม่มีทาสหรือไท ไม่ชายหรือหญิงอีกต่อไป เพราะท่านทุกคนเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันในพระคริสตเยซู”