แผนกคริสตศาสนธรรม อัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ

CATECHETICAL CENTER OF BANGKOK ARCHDIOCESE

thzh-CNenfritjako

ศีลสมรสเป็นศีลที่สามีภรรยาส่งเสริมความศักดิ์สิทธิ์ให้แก่กันและกัน และเป็นกิจศรัทธา
56.  ศีลสมรสที่รื้อฟื้นพระหรรษทานอันบันดาลความศักดิ์สิทธิ์ของศีลล้างบาปและทำให้พระหรรษทานนั้นมีความหมายที่เด่นชัดมากขึ้นนั้น  ก็เป็นบ่อเกิดและวิถีทางพิเศษที่จะนำความศักดิ์สิทธิ์มาสู่คู่สมรสและครอบครัว  ความรักของสามีภรรยาจะได้รับการชำระให้บริสุทธิ์และกลับเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์  โดยอาศัยฤทธานุภาพแห่งธรรมล้ำลึกของการสิ้นพระชนม์และการกลับคืนพระชนมชีพของพระคริสตเจ้า  ซึ่งการสมรสคริสตชนให้โอกาสแก่มนุษย์เข้ามีส่วนร่วมในธรรมล้ำลึกนี้อีกครั้ง  “ความรักนี้  พระคริสตเจ้าทรงกรุณาบำบัดรักษา  ทำให้สมบูรณ์  และยกย่องให้สูงขึ้น  โดยประทานพระหรรษทานและความรักอันสูงส่งของพระองค์เป็นพิเศษ”
    พระคุณของพระคริสตเจ้าไม่หมดสิ้นเฉพาะแต่ในพิธีศีลสมรสแต่ยังคงพยุงสามีภรรยาตลอดช่วงชีวิตของเขา สังคายนาวาติกันครั้งที่ 2 เน้นถึงข้อความจริงนี้โดยเฉพาะเมื่อสอนว่า พระเยซูคริสตเจ้า  “ยังคงประทับอยู่กับเขา  เพื่อที่ว่า  พระองค์จะได้ทรงรักพระศาสนจักรและจะได้มอบพระองค์เพื่อพระ-ศาสนจักรฉันใด  สามีภรรยาจะอุทิศตัวให้แก่กันและกันและจะรักกันด้วยความซื่อสัตย์ตลอดไปฉันนั้น... เพราะเหตุนี้  สามีภรรยาคริสตชนจึงได้รับพละกำลังและเหมือนกับได้รับการอภิเษกด้วยศีลพิเศษเพื่อปฏิบัติหน้าที่ตามฐานะของเขาอย่างสมควร  เมื่อเขาปฏิบัติหน้าที่ของตนในแง่คู่สมรสและในแง่ครอบครัว โดยอาศัยฤทธิ์ของศีลศักดิ์สิทธิ์ และความซาบซึ้งในจิตตารมณ์ของพระคริสตเจ้าซึ่งบันดาลให้ความเชื่อ  ความหวังอันแน่วแน่และความรักซึมซาบเข้าไปในชีวิตของเขาโดยทั่วถึงแล้ว  เขาก็ยิ่งเข้าถึงความสมบูรณ์ของแต่ละคนและความศักดิ์สิทธิ์ร่วมกัน  ดังนั้น  เขาจึงถวายเกียรติแด่พระเจ้าโดยพร้อมเพรียงกัน”
    พระกระแสเรียกให้มนุษย์ทั้งมวลบรรลุถึงความศักดิ์สิทธิ์นั้น  ก็รวมถึงสามีภรรยาและบิดามารดาคริสตชนเช่นเดียวกันด้วย  สำหรับเขา  พระกระแสเรียกนี้ถูกกำหนดด้วยพิธีศีลสมรสและมีวิธีแสดงออกเฉพาะตามสภาพความเป็นจริงของชีวิตสมรสและครอบครัว   สภาพนี้แหละที่เป็นจุดกำเนิดแห่งแนวปฏิบัติทางจิตวิญญาณเฉพาะคู่สมรสและครอบครัวที่ถูกต้องและล้ำลึก  ซึ่งนับว่าเป็นทั้งพระพรของพระเจ้าและเป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างยิ่ง  แนวปฏิบัติทางจิตวิญญาณดังกล่าว  จะต้องสะท้อนความคิดที่สำคัญๆ  เช่น การสร้างโลก พันธสัญญา  ไม้กางเขนและการกลับคืนชีพ  ตลอดจนเรื่องของเครื่องหมายในศีลศักดิ์สิทธิ์ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นเรื่องที่สมัชชาพระสังฆราชได้บ่งถึงบ่อยๆ
    เช่นเดียวกับศีลศักดิ์สิทธิ์อื่นๆ  “ซึ่งจุดประสงค์ก็คือ  ทำให้มนุษย์ศักดิ์สิทธิ์  สร้างพระกายของพระคริสตเจ้า  และถวายคารวะกิจแด่พระเจ้า”   การสมรสคริสตชนก็คือ  พิธีกรรมถวายเกียรติแด่พระเจ้าโดยอาศัยพระเยซูคริสตเจ้าและพระศาสนจักร  ขณะที่บ่าวสาวกำลังประกอบพิธีสมรสนี้  ก็เป็นการประกาศถึงความซาบซึ้งในพระคุณอันสูงส่งที่พระเจ้าทรงโปรดให้เขาสามารถนำความรักของพระเจ้าที่มีต่อมนุษย์และของพระเยซูคริสต์ที่มีต่อพระศาสนจักรเจ้าสาวของพระองค์  มาเป็นหลักของชีวิตคู่และชีวิตครอบครัวของตนเอง
    พระคุณและพระบัญญัติที่ว่า  จะต้องดำเนินชีวิตของแต่ละวันในความศักดิ์สิทธิ์ที่พระหรรษทานให้นั้น  เป็นพระคุณที่ศีลศักดิ์สิทธิ์อำนวยแก่สามีภรรยาฉันใด  พระคุณและหน้าที่ทางศีลธรรมที่จะต้องปรับปรุงชีวิตของตนทั้งหมดให้สมเป็น  “เครื่องบรรณาการทางจิตวิญญาณ”   ที่ยืนยงนั้น  ก็มาจากศีลเดียวกันฉันนั้น  ข้อความของพระสังคายนาที่ว่า  “ดังนี้แหละที่ฆราวาสถวายโลกให้เป็นของพระเจ้าโดยการนมัสการพระองค์ในทุกแห่งหนด้วยชีวิตศักดิ์สิทธิ์ของตน”  นั้น  ก็ยังเจาะจงถึงคู่สมรสและบิดามารดาคริสตชน  โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องที่เกี่ยวกับกิจการต่างๆ ซึ่งบ่งถึงหน้าที่ของเขาด้วย