ศีลสมรสและศีลมหาสนิท
57. การที่ครอบครัวคริสตชนมีหน้าที่ที่ต้องแสวงหาความศักดิ์สิทธิ์นั้นมีรากฐานมาจากศีลล้างบาป และบรรลุความหมายที่สูงสุดในศีลมหาสนิท ซึ่งศีลสมรสมีส่วนเกี่ยวข้องอย่างลึกซึ้ง สังคายนาวาติกันครั้งที่ 2 ได้เน้นพันธะพิเศษระหว่างศีลมหาสนิทกับศีลสมรส โดยกำหนดไว้ว่า “ตามปกติควรจะประกอบพิธีศีลสมรสในระหว่างพิธีบูชาขอบพระคุณ” ฉะนั้น ใครๆ ที่ปรารถนาจะเข้าใจพระคุณและความรับผิดชอบของการสมรสและของครอบครัวคริสตชนเพื่อจะนำมาปฏิบัติในชีวิตจริงนั้น เขาก็จำเป็นอย่างที่สุดที่จะต้องแสวงหาพันธะระหว่างศีลศักดิ์สิทธิ์สองประการที่กล่าวแล้ว พร้อมกับศึกษาพันธะนั้นอย่างละเอียดพอสมควร
ศีลมหาสนิทเป็นบ่อเกิดของศีลสมรสนั่นเอง ที่จริง ศีลมหาสนิททำให้พันธสัญญาแห่งความรักระหว่างพระคริสตเจ้ากับพระศาสนจักรเป็นจริงขึ้นมาใหม่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งพันธสัญญาซึ่งได้รับการประทับตราด้วยพระโลหิตของพระองค์บนไม้กางเขน ยัญบูชาแห่งพันธสัญญาใหม่อันยืนยงนี้ สำหรับสามีภรรยาคริสตชนเป็นบ่อเกิด เป็นแม่แบบ และเป็นพลังทรงชีวิตอันมิรู้สิ้นสุดของคำสัญญาในการสมรสของเขา ในส่วนที่เป็นการแสดงยัญบูชาอันเกิดจากความรักซึ่งพระคริสตเจ้าทรงมีต่อพระศาสนจักร ศีลมหาสนิทก็เป็นบ่อเกิดแห่งเมตตาธรรมครอบครัวคริสตชนสำนึกว่า พระคุณแห่งเมตตาธรรมในศีลมหาสนิทนี้เป็นหลักพื้นฐานหรือเป็นเสมือน “วิญญาณ” ของ “ความสัมพันธ์” และ “ภารกิจ” ของตนเอง ปังแห่งศีลมหาสนิทบันดาลให้สมาชิกต่างๆ ของกลุ่มครอบครัวรวมกันเป็นกายเดียวกันซึ่งเป็นการแสดงออกและเป็นการมีส่วนร่วมในความเป็นหนึ่งเดียวที่แผ่กว้างออกไปของพระศาสนจักร การรับพระกายที่ “ถูกมอบ” และพระโลหิตที่ “หลั่งไหล” ของพระคริสตเจ้านี้ ก็ยังเป็นบ่อเกิดอันไม่รู้สิ้นสุดแห่งความเร่าร้อนในการเผยแผ่พระวรสาร และแห่งจิตตารมณ์ของธรรมทูตสำหรับครอบครัวคริสตชน