มีจิตแพทย์หญิงคนหนึ่ง วันหนึ่งมีสุภาพบุรุษคนหนึ่งมาพบเธอ อันที่จริงเป็นเพื่อนๆ ของเขาที่พาเขามาพบเธอ ชายคนนั้นมีความเศร้าอย่างมาก ตาของเขาดูไม่มีชีวิตชีวา ศีรษะของเขาก้มต่ำลง เขาแทบจะไม่พูดอะไรเลย ความเศร้าเหมือนกลุ่มควันที่รายล้อมรอบตัวเขา
เพื่อนที่พาเขามาบอกกับจิตแพทย์ว่า ตั้งแต่ภรรยาของเขาเสียชีวิต ชายคนนี้ก็มีอาการตามที่จิตแพทย์ได้เห็น ในตอนแรกพวกเขาคิดว่าเวลาจะช่วยรักษาความเจ็บปวดในหัวใจของเขา แต่โชคร้ายยิ่งเวลาผ่านไปเขายิ่งมีความโศกเศร้ามากกว่าเดิม
จิตแพทย์เริ่มคุยกับเขา “ฉันแน่ใจว่าคุณและภรรยาของคุณคงจะเป็นคู่รักที่วิเศษ แน่นอนคุณรู้สึกถึงการขาดหายไปของบุคคลที่คุณรัก เธอต้องเป็นผู้หญิงเพียงคนเดียวของคุณ” มีการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยซึ่งแสดงออกทางสีหน้าของชายคนนั้น ดูเหมือนว่าเขามีความกังวลที่จะพูด “ใช่ครับคุณหมอ ภรรยาของผมเป็นผู้หญิงที่น่ารัก ภรรยาเพียงคนเดียว และเป็นบุคคลที่ยิ่งใหญ่สำหรับผม”
จิตแพทย์ถามต่อไปว่า “คุณแต่งงานมานานแล้วหรือยัง” “ไม่ครับ ผมพบภรรยาของผมช้าเกินไป เวลาที่เราใช้ชีวิตด้วยกันเป็นเวลาสั้นๆ 2 ปีสุดท้ายในชีวิตของเราเต็มไปด้วยความเจ็บปวดเมื่อเธอเป็นมะเร็ง ตั้งแต่เธอเริ่มเป็นมะเร็งจนถึงวันสุดท้ายในชีวิตของเธอ ผมเฝ้าดูแลเธอ อาบน้ำ ทำความสะอาดร่างกายของเธอ ผมรู้สึกมีความสุขเมื่อได้อยู่กับเธอ ได้มีประสบการณ์ถึงความรักที่เธอมีต่อผม แต่เดี๋ยวนี้เธอจากไปแล้ว ชีวิตของผมไม่มีความหมายอีกต่อไป”
“ภรรยาของคุณเป็นคนที่น่าทึ่งจริงๆ แต่เธอปรารถนาอะไรสำหรับคุณเมื่อเธอยังมีชีวิตอยู่” คุณหมอถาม เขาตอบว่า “คุณหมอครับ เธอปรารถนาให้ผมมีความสุขที่สุดในโลก เธอทำทุกอย่างเท่าที่เธอทำได้เพื่อจะทำให้ผมมีความสุข”
คุณหมอกล่าวต่อไปว่า “ภรรยาของคุณแม้เธอจะเสียชีวิตไปแล้วก็คงไม่อยากให้คุณเสียใจหรือเป็นทุกข์อย่างแน่นอน ถ้าความปรารถนาของเธอคือต้องการให้คุณมีความสุขและมีชีวิตชีวา ทำไมคุณไม่ลองทำตามความปรารถนาของเธอ เพื่อทำให้เธอมีความสุข สมมุติว่าเธอกลับมาและเห็นคุณโศกเศร้าเช่นนี้ เธอจะรู้สึกอย่างไร เพื่อทำให้เธอมีความสุขอย่างแท้จริง คุณต้องทำตัวของคุณให้มีความสุขและมีชีวิตชีวา”
ชายคนนั้นเริ่มยิ้มและกล่าวว่า “คุณหมอครับ ผมไม่เคยคิดกับชีวิตของผมอย่างนี้เลย คุณหมอได้ให้ทัศนคติใหม่แก่ผมในการดำเนินชีวิต” เขาหัวเราะเป็นครั้งแรกหลังจากที่ภรรยาของเขาเสียชีวิต พร้อมกับกล่าวว่า “ใช่ ผมต้องดำเนินชีวิตตามความปรารถนาของภรรยาของผม”
เขาจากคุณหมอไปพร้อมกับรอยยิ้ม ทำให้คุณหมอพลอยมีความสุขไปด้วย และหลังจากนั้นเขาดำเนินชีวิตอย่างมีความสุขและได้แผ่ขยายความสุขไปยังทุกที่ที่เขาไป เขาได้พบความหมายในชีวิตของเขา
ชวนคิดสะกิดใจ
"สองคนยลตามช่อง คนหนึ่งเห็นโคลนตม คนหนึ่งตาแหลมคม เห็นดวงดาวอยู่พราวพราย" (เฟรเดริก แลงบริดจ์ : ถอดความเป็นภาษาไทยโดยภราดา ฟ. ฮีแลร์) เรามองและตีความสิ่งที่เกิดขึ้นในชีวิตของเราอย่างไร การมองและตีความสิ่งต่างๆ ในชีวิตของเรา ทำให้เรามีกำลังใจและมีความสุขมากขึ้นหรือไม่