นานมาแล้ว ยังมีครอบครัวๆ หนึ่งอยู่ด้วยกันสี่คน พ่อแม่และลูกสะใภ้ ครอบครัวนี้เป็นครอบครัวที่รักใคร่สามัคคีปรองดองกันมาก สมาชิกในครอบครัวต่างเคารพยกย่องซึ่งกันและกัน ดูแลเอาใจใส่รักใคร่ซึ่งกันและกัน
ครั้งหนึ่ง ผู้เป็นแม่ป่วยลง ลูกชายก็นำเงินจำนวนมากไปซื้อโสมมาต้นหนึ่ง ซื้อไก่อีกตัวหนึ่ง เพื่อให้ภรรยาของตนตุ๋นเป็นยาบำรุงให้แม่กิน ลูกสะใภ้ตุ๋นซุปโสมชามใหญ่ ยกเข้ามาในห้องนอนของแม่สามี พอดีแม่สามีนอนหลับเสียแล้ว ลูกสะใภ้ไม่อยากรบกวนท่านผู้เฒ่าซึ่งกำลังหลับสนิท จึงวางยาบำรุงชามนั้นไว้บนโต๊ะ แล้วเดินออกไปเลี้ยงไก่หลังบ้าน
เวลานั้นเอง สุนัขเฝ้าบ้านตัวใหญ่ก็หลุดเข้ามาในห้อง มันได้กลิ่นหอมชวนรับประทานของซุปชามนั้น จึงจัดการเลียกินเสียหมดเกลี้ยง
ลูกสะใภ้เลี้ยงไก่เสร็จเรียบร้อย ก็เข้ามาในห้อง เห็นซุปยาบำรุงราคาแพงถูกสุนัขขโมยกินจนเกลี้ยง ก็ร้อนใจ จนร้องไห้โฮออกมา พลางกล่าวโทษตัวเองว่า
“เป็นความผิดของฉันเองที่ไม่ได้คิดระวังเจ้าหมาตัวนั้น ปล่อยให้มันหลุดเข้ามาในห้องนี้ได้…”
แม่สามีก็ตื่นขึ้นเช่นกัน เมื่อรู้เรื่องนี้เข้าก็ปลอบสะใภ้ว่า “อย่างตำหนิตัวเองเลย ลูกแม่ เรื่องนี้จะว่าไปแล้วต้องว่าแม่ถึงจะถูก มัวแต่นอนหลับอุตุ สุนัขเข้าในห้องก็ยังไม่รู้เรื่อง…”
พ่อสามีได้ยินดังนั้นจึงกล่าวว่า “อย่าเถียงกันเลย เรื่องนี้ข้าเองก็ผิดเหมือนกัน ทั้ง ๆ ที่เห็นลูกสะใภ้เลี้ยงไก่อยู่ แทนที่จะช่วยเขาบ้าง กลับมัวแต่ทำงานของตัวเอง ก็เลยไม่มีเวลาเข้ามาปลุกเจ้าให้ลุกขึ้นมาทานซุบ…”
ขณะนั้น ลูกชายกลับมาถึงบ้าน เมื่อทราบเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก็ปลอบทุกคนว่า “ท่านพ่อ ท่านแม่ ไม่ต้องพูดอีกแล้ว เรื่องนี้จะโทษท่านทั้งสองไม่ได้ ควรโทษข้ามากกว่า ความจริง ถ้าข้าเอาเจ้าหมาตัวใหญ่นั้นไปล่าสัตว์พร้อมกับข้าตั้งแต่เช้า ก็คงไม่เกิดเรื่องเช่นนี้แล้ว แต่ข้ามัวแต่นึกสนุก ไปเล่นหมากรุกกับพวกเพื่อนๆ เสียเพลิน ท่านแม่ก็เลยอดทานซุบยาบำรุงชามนี้”
ชวนคิดสะกิดใจ
เมื่อเกิดเรื่องผิดพลาดขึ้นในบ้านแล้ว สมาชิกทุกคนในบ้าน ต่างช่วยกันรับผิดชอบ ต่างยอมรับความผิดชองตน ส่วนหนึ่งไม่มีใครโยนความผิดให้ผู้อื่น กล่าวโทษผู้อื่นเพื่อเอาตัวรอดเลย ดังนั้นปัญหาความขัดแย้งจึงแก้ตกไปอย่างนุ่มนวล และมีข้อสรุปเพื่อมิให้ผิดพลาดซ้ำแล้วซ้ำเล่า ในชีวิตของเรานั้น เรามันจะหลีกเลี่ยงการกระทบกระทั่งกับคนอื่นได้ยาก การเกิดความขัดแย้งกับผู้อื่น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเล็กหรือเรื่องใหญ่ จึงมิใช่เรื่องแปลก แต่เราควรสนใจท่าทีในการจัดการปัญหา ถ้าหากมีปัญหาแล้ว ต่างฝ่ายต่างมีความรับผิดชอบต่อปัญหาที่เกิดขึ้น ยอมลดราว่าศอกแก่กัน ยอมสำรวจตรวจสอบตนเองเหมือนคนในครอบครัวนี้ ก็ย่อมไม่มีความขัดแย้งที่ต้องพัวพันกันอย่างแก้ไม่ตก