ช่างทำอิฐคนหนึ่ง กำลังใส่อิฐลงไปในเตาเผาทีละก้อน อิฐก้อนหนึ่งเริ่มตัวสั่นเทาด้วยความกลัว เมื่อคิดว่ากำลังจะถูกไฟที่ลุกโชนเผาไหม้เกรียมในไม่ช้า
“อย่ากลัวไปเลยน้องชาย”
อิฐก้อนอื่นๆ พากันปลอบมัน
“นั่นน่ะเป็นโอกาสที่หายากนะ เพราะการเผาไฟจะทำให้เราเป็นประโยชน์”
แต่อิฐขี้กลัวก้อนนั้นไม่ยอมเชื่อ มันพยายามหลบหลีกให้พ้นมือของช่างทำอิฐ ในที่สุดก็เข้าไปแอบอยู่ในกองฟาง และสามารถหลบเลี่ยงการถูกเผาได้สำเร็จ
ต่อมาอิฐก้อนนี้ได้พบกับบรรดาอิฐที่ถูกเผาไฟแล้วอีกครั้งหนึ่ง อิฐเหล่านั้นต่างรู้สึกเสียดายที่อิฐก้อนนั้นไม่ถูกเผาไฟ แต่อิฐก้อนนั้นก็ไม่สนใจ
มันเห็นว่าเพื่อนๆ ของมันไม่ได้เปลี่ยนแปลงไปมากเลย ไม่เพียงแต่มีสีน้ำตาลเข้มขึ้นกว่าเดิม แถมยังดูเข้มแข็งมากขึ้นด้วย
ในไม่ช้าคนงานก็มาขนอิฐทั้งหลายออกไป คนงานคนหนึ่งสังเกตเห็นอิฐก้อนที่ไม่ได้ถูกเผาไฟอยู่ในกอง
“ข้าสงสัยว่ามันรอดจากการถูกเผาไฟไปได้ยังไง”
เขาพูดพลางถอนใจ แล้วหยิบมันขว้างทิ้งไป
อิฐที่ไม่ได้ถูกเผาไฟเริ่มเสียใจในการกระทำของมัน เมื่อเห็นเพื่อนของมันถูกลำเลียงออกไปจากที่นั่นด้วยความร่าเริงเบิกบาน แล้วมันก็ถูกทอดทิ้งให้อยู่โดดเดี่ยวเพียงก้อนเดียวที่นั่น และเมื่อลมพัดกระหน่ำและฝนตกลงมา มันก็ค่อยๆ เสียรูปร่างไป จนกลายเป็นเพียงโคลนตมในที่สุด
สภาวะที่กดดันและการต่อสู้กับอุปสรรคหลายๆ อย่างในชีวิต เป็นเพียงแค่ขั้นตอน "เผาอิฐ" ของเราเท่านั้นเอง ถ้าเราสามารถผ่านมาได้แล้วจะทำให้เราแข็งแกร่งขึ้น สามารถที่จะดำเนินชีวิตได้อย่างเข้มแข็งและน่าภูมิใจ และในที่สุดถ้าเราจะประสบความสำเร็จในชีวิต เราก็อาจจะรู้สึกแค่ว่า "ลุยมาขนาดนี้ ไม่สำเร็จก็แปลกแล้ว"
จำไว้ว่า.."อุปสรรคที่ทานทน จะหลอมคนให้ทนทาน"