แผนกคริสตศาสนธรรม อัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ

CATECHETICAL CENTER OF BANGKOK ARCHDIOCESE

thzh-CNenfritjako

คุณลักษณะของสารแห่งพระวรสารตามแนวของพระศาสนจักร
105         คุณลักษณะของการสอนคำสอนตามแนวของพระศาสนจักร ได้บ่งบอกลักษณะของพระศาสนจักรที่มีมาแต่เดิมในสารแห่งพระวรสารที่ถูกถ่ายทอดต่อๆ กันมา   การสอนคำสอนบังเกิดจากการยืนยันความเชื่อของพระศาสนจักร  และนำไปสู่การประกาศยืนยันความเชื่อของผู้เตรียมตัวเป็นคริสตชนและของผู้ที่เรียนคำสอน  ถ้อยคำแรกที่พระศาสนจักรกล่าวกับผู้ที่จะรับศีลล้างบาปหลังจากเรียกชื่อพวกเขาแล้ว คือ “ท่านทั้งหลายมาขออะไรจากพระศาสนจักรของพระเป็นเจ้า”  บรรดาผู้สมัครจะตอบว่า “ขอความเชื่อ” (RCIA 75, อ้างถึง CCC 1253)  ผู้เตรียมตัวเป็นคริสตชนซึ่งได้ค้นพบพระวรสารและปรารถนาที่จะรู้จักพระวรสารดีขึ้น ตระหนักดีว่าพระวรสารนั้นมีอยู่ในจิตใจของผู้มีความเชื่อ   การสอนคำสอนจึงมิใช่อะไรอื่นนอกจากกระบวนการถ่ายทอดพระวรสารอย่างที่กลุ่มคริสตชนได้รับไว้  เข้าใจ เฉลิมฉลอง  ดำเนินชีวิตตามพระวรสารนั้น  และสื่อสารออกไปในหลายวิธีการ

    เพราะฉะนั้น เมื่อการสอนคำสอนถ่ายทอดพระธรรมล้ำลึกเกี่ยวกับพระคริสตเจ้า ความเชื่อของประชากรพระเป็นเจ้าทั้งหมดจึงก้องอยู่ในสารแห่งการสอนคำสอนตลอดช่วงเวลาของประวัติศาสตร์  โดยที่ความเชื่อซึ่งบรรดาอัครสาวกได้รับจากองค์พระคริสตเจ้าเองและภายใต้การดำเนินการของพระจิตเจ้า  เป็นความเชื่อที่บรรดามรณสักขีได้เป็นพยานยืนยันถึงและยังคงเป็นพยานยืนยันถึงความเชื่อนี้ด้วยโลหิตของพวกเขา   เป็นความเชื่อที่นักบุญทั้งหลายได้ดำเนินชีวิตตามอย่างลึกซึ้ง   เป็นความเชื่อของบรรดาปิตาจารย์และนักปราชญ์ทั้งหลายของพระศาสนจักรผู้ซึ่งสอนเรื่องนี้อย่างหลักแหลม   เป็นความเชื่อที่บรรดาธรรมทูตได้ประกาศอย่างไม่หยุดหย่อน   เป็นความเชื่อของนักเทววิทยาทั้งหลายผู้ซึ่งช่วยให้เราเข้าใจความเชื่อนี้ดีขึ้น   เป็นความเชื่อของบรรดาผู้อภิบาลซึ่งเก็บรักษาความเชื่อด้วยความตั้งใจอย่างมาก และด้วยความรัก และตีความอย่างถูกต้องจริงๆ    อันที่จริงแล้วในการสอนคำสอนก็มีความเชื่อของบรรดาผู้ที่เชื่อและยอมให้พระจิตเจ้าเป็นผู้นำทางพวกเขา

106    ความเชื่อนี้ซึ่งถูกถ่ายทอดโดยกลุ่มชนแห่งคริสตจักรมีหนึ่งเดียว  ถึงแม้ว่าบรรดาสานุศิษย์ของพระเยซูคริสตเจ้าจะประกอบเป็นกลุ่มชนหนึ่งที่ถูกทำให้กระจายไปทั่วโลก  และแม้ว่าการสอนคำสอนจะถ่ายทอดความเชื่อในสภาพวัฒนธรรมต่างๆ มากมายก็ตาม  พระวรสารที่สืบทอดต่อกันมาก็ยังเป็นหนึ่งเดียว  การยืนยันความเชื่อก็เช่นเดียวกัน  มีศีลล้างบาปเพียงหนึ่งเดียว  คือ “มีองค์พระผู้เป็นเจ้าองค์เดียว  ความเชื่อหนึ่งเดียว  ศีลล้างบาปหนึ่งเดียว  พระเป็นเจ้าหนึ่งเดียวผู้ทรงเป็นพระบิดาของเราทุกคน” (อฟ 4:5) ดังนั้น การ สอนคำสอนในพระศาสนจักรก็คือ   บริการซึ่งจะนำผู้เตรียมตัวเป็นคริสตชน   และผู้ที่เรียนคำสอนมาเป็นหนึ่งเดียวกันในการประกาศยืนยันความเชื่อ (อ้างถึง CCC 172-175) โดยคุณลักษณะที่แท้จริงของการสอนคำสอนนี้เอง ทำให้การสอนคำสอนบำรุงเลี้ยงความสัมพันธ์แห่งความเป็นหนึ่งเดียว (CCC 815)  และนำพาให้เกิดสำนึกถึงการเป็นสมาชิกของกลุ่มชนที่ยิ่งใหญ่ซึ่งมิอาจถูกจำกัดด้วยช่วงเวลา    “จาก อาแบลผู้ชอบธรรม  จนถึงผู้รับเลือกสรรคนสุดท้าย  จนถึงสุดปลายแผ่นดิน  จนสิ้นพิภพ” (EN 61)