แผนกคริสตศาสนธรรม อัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ

CATECHETICAL CENTER OF BANGKOK ARCHDIOCESE

thzh-CNenfritjako

ความมีพระคริสตเจ้าเป็นศูนย์กลางของพระตรีเอกภาพในสารแห่งพระวรสาร
99    พระวาจาของพระเป็นเจ้า ที่ทรงบังเกิดในพระเยซูแห่งนาซาเร็ธ บุตรชายของพระนางพรหมจารีอาก็คือ พระวจนาตถ์ของพระบิดาผู้ตรัสกับมวลมนุษย์ผ่านทางพระจิตของพระองค์  พระเยซูเจ้าทรงอ้างถึงพระบิดาอยู่เสมอๆ  พระองค์ทรงทราบว่าพระองค์เป็นพระบุตรองค์เดียวของพระบิดา  และทรงอ้างถึงพระจิตโดยพระองค์ทรงทราบว่าพระจิตเจ้าเป็นผู้ทรงเจิมพระองค์  พระองค์ทรงเป็น “หนทาง” ที่นำไปถึงธรรมล้ำลึกที่สุดของพระเป็นเจ้า (อ้างถึง ยน 14:6)   ความมีพระคริสตเจ้าเป็นศูนย์กลางของการสอนคำสอนช่วยนำไปสู่การยืนยันความเชื่อในพระเป็นเจ้า  พระบิดา  พระบุตรและพระจิต ตามลำดับของพลังขับเคลื่อนภายใน 

           ด้วยความมีพระคริสตเจ้าเป็นศูนย์กลางแห่งพระตรีเอกภาพ ในสารแห่งพระวรสารนี้เอง  ในเวลาที่รับศีลล้างบาป บรรดาคริสตชนก็ได้รับการเตรียมการเพื่อพระคริสตเจ้า  “พระบุคคลหนึ่งในพระตรีเอกภาพ” (CCC 468) และได้รับการแต่งตั้งให้เป็น “บุตรในองค์พระบุตร”  เข้าร่วมกับพระบิดาและพระจิต   ดังนั้น ความเชื่อของพวกเขาจึงมีรากฐานอยู่ในพระตรีเอกภาพ “ธรรมล้ำลึกเกี่ยวกับพระตรีเอกภาพผู้ศักดิ์สิทธิ์ยิ่ง คือพระธรรมล้ำลึกที่สำคัญของความเชื่อและชีวิต คริสตชน” (CCC 234; อ้างถึง CCC 2157)

100    ความมีพระคริสตเจ้าเป็นศูนย์กลางแห่งพระตรีเอกภาพ (trinitarian  christocentricity)  ในสารแห่งพระวรสารนำให้การสอนคำสอนบังเกิดสิ่งต่างๆ ดังนี้
    - โครงสร้างภายในของการสอนคำสอน ที่ทุกรูปแบบของการนำเสนอจะต้องมีพระคริสตเจ้าเป็นศูนย์กลางแห่งพระตรีเอกภาพ  “อาศัยพระคริสตเจ้าจึงไปถึงพระบิดาได้ในพระจิต” (GCD (1971) 41, อ้างถึง อฟ 2:18)  “ถ้าการสอนคำสอนขาดองค์ประกอบทั้งสามนี้หรือปฏิเสธความสัมพันธ์อันแนบแน่นขององค์ประกอบทั้งสามนี้  สารคริสตชนก็ขาดลักษณะเฉพาะของตนไป” (อ้างถึง GCD (1971) 41)
    - หลังการติดตามเรียนรู้วิธีการสอนของพระเยซูในการเปิดเผยของพระบิดา  ของพระองค์เองในฐานะบุตร  และของพระจิตเจ้า  การสอนคำสอนแสดงให้เห็นถึงการมีชีวิตที่ใกล้ชิดกับพระเป็นเจ้ามากที่สุด เริ่มต้นด้วยงานไถ่กู้ให้รอดของพระองค์ เพื่อประโยชน์ของ มนุษยชาติ (อ้างถึง CCC 258,236 และ 259)  ผลงานต่างๆของพระเป็นเจ้าเผยแสดงให้ทราบว่าพระองค์คือใคร และพระธรรมล้ำลึกของธรรมชาติภายในของพระองค์ก็นำพาให้เราเข้าใจผลงานทุกชิ้นของพระองค์  ซึ่งเปรียบได้กับความสัมพันธ์ของมนุษย์ คือมนุษย์เปิดเผยตนเองโดยการกระทำของเขา  และยิ่งเรารู้จักพวกเขาลึกซึ้งมากเท่าใด  เราก็จะยิ่งเข้าใจสิ่งที่พวกเขาทำได้ดีขึ้น (อ้างถึง CCC 236)
    - การนำเสนอธรรมชาติในส่วนลึกสุดของพระเป็นเจ้าที่พระเยซูเจ้าทรงเปิดเผยให้รู้คือ พระธรรมล้ำลึกแห่งการเป็นหนึ่งเดียว  แต่เป็นสามพระบุคคล  มีความหมายที่จำเป็นสำหรับชีวิตเพื่อการดำเนินชีวิตของมนุษย์  การยืนยันความเชื่อในพระเป็นเจ้าหนึ่งเดียว  หมายความว่า “มนุษย์ไม่ควรยอมมอบอิสรภาพส่วนบุคคลของเขาให้กับอำนาจแห่งโลกีย์วิสัยใดๆ โดยสิ้นเชิง” (CCC 450)  ทั้งยังมีความหมายอีกว่า มนุษยชาติที่ได้รับการสร้างขี้นมา ตามฉายาลักษณ์และความคล้ายคลึงกับพระเป็นเจ้า  เป็น “กลุ่มหนึ่งของบุคคลต่างๆ” ซึ่งมีความรู้สึกอันแรงกล้าว่าจะต้องมาเป็นสังคมที่มีภราดรภาพ  ประกอบด้วยบุตรชายและบุตรหญิงทั้งหลายของพระบิดาเดียวกันและศักดิ์ศรีความเป็นบุคคลเท่ากัน (อ้างถึง CCC 1878; CCC1702. SRS ใช้รูปแบบคำของการรวมเป็นหนึ่งเดียว อ้างถึงเรื่องนี้ CCC 2845 เรียก “กลุ่มที่มีความสัมพันธ์อันพิเศษแห่งพระตรีเอกภาพ” ว่า “บ่อเกิดและหลักเกณฑ์ของความจริงในทุกๆ ความสัมพันธ์ทางสายโลหิต” )  ความหมายเกี่ยวกับสังคมและมนุษย์ที่ได้จากแนวคิดของคริสตชนในเรื่องพระเป็นเจ้านั้นยิ่งใหญ่  พระศาสนจักรซึ่งได้ยอมรับความเชื่อถึงพระตรีเอกภาพและประกาศความเชื่อนั้นแก่โลก  เข้าใจว่าตนเป็นเสมือน “มนุษยชาติกลุ่มหนึ่งที่ถูกรวบรวมเข้าเป็นหนึ่งเดียวกับพระบิดา พระบุตร และพระจิต” (LG 4b)