เป้าหมายของการสอนคำสอนมีแสดงไว้ในการประกาศยืนยันความเชื่อในพระเป็นเจ้าเดียว คือพระบิดา พระบุตรและพระจิต
82 การสอนคำสอนเป็นรูปแบบเฉพาะของศาสนบริการด้านพระวาจาที่ช่วยให้การกลับใจขั้นเริ่มแรกพัฒนาจนสมบูรณ์ เพื่อทำให้การกลับใจนั้นกลายเป็นการยืนยันความเชื่อ เกิดผลชัดเจนและมีชีวิตชีวา “การสอนคำสอน มีต้นกำเนิดอยู่ในการยืนยันความเชื่อ และนำไปสู่การยืนยันความเชื่อ” (MPD 8; CCC 185-197)
การประกาศยืนยันความเชื่อ อันมีรากฐานอยู่ในศีลล้างบาปนั้น (อ้างถึง CCC 189) มีลักษณะพระตรีเอกภาพอย่างเด่นชัด พระศาสนจักรโปรดศีลล้างบาป “ในนามของพระบิดา พระบุตร และพระจิต” (มธ 28:19 อ้างถึง CCC 180-190,197) นั่นคือ พระตรีเอกภาพผู้ที่คริสตชนมอบชีวิตให้ดูแล การสอนคำสอนขั้นนำเข้าสู่ชีวิตคริสตชน -ทั้งก่อนและหลังรับศีลล้างบาป- ช่วยเตรียมให้เรารับรองความเชื่อนี้ด้วยความมั่นใจ การสอนคำสอนแบบต่อเนื่องจะช่วยพัฒนาให้การประกาศยืนยันความเชื่อสมบูรณ์ มันเป็นเรื่องสำคัญที่การสอนคำสอนควรรวมการยืนยันความเชื่อทางคริสตวิทยา “พระเยซูทรงเป็นองค์พระผู้เป็นเจ้า” กับการยืนยันความเชื่อเกี่ยวกับพระตรีเอกภาพ “ข้าพเจ้าเชื่อถึงพระบิดา พระบุตรและพระจิต” ไว้เป็นอย่างดี จนไม่มีการแบ่งการแสดงความเชื่อของคริสตชนเป็นสองรูปแบบ ผู้ที่กลับใจมาเชื่อในองค์พระเยซูคริสต์ และยอมรับพระองค์เป็นพระเป็นเจ้า ผ่านทางการประกาศพระวรสารขั้นต้น และได้รับการช่วยเหลือทางการสอนคำสอน ย่อมจะยืนยันความเชื่อในพระตรีเอกภาพอย่างชัดเจน
ในการยืนยันความเชื่อถึงพระเป็นเจ้าหนึ่งเดียว คริสตชนจะต้องปฏิเสธสิ่งอำนวยความสุขทุกประการจากทุกคนอย่างสิ้นเชิง เช่น “อำนาจ ความพึงพอใจ เชื้อชาติ บรรพบุรุษ ประเทศ ทรัพย์สมบัติ...” (อ้างถึง CCC 2113) และด้วยเหตุนี้ จึงรอดพ้นจากการเป็นทาสของทุกๆ สิ่งที่เขาชื่นชม เป็นการประกาศความตั้งใจที่จะมารับใช้พระเจ้าและมนุษย์อย่างไม่มีข้อจำกัดใดๆ ในการประกาศความเชื่อถึงพระตรีเอกภาพ ซึ่งเป็นการร่วมกันของบุคคลต่างๆ ศิษย์ของพระเยซูคริสต์แสดงให้เห็นทันทีว่าการรักพระเป็นเจ้าและเพื่อนมนุษย์เป็นหลักการที่ส่งผลต่อชีวิตและการกระทำของเขา
83 การยืนยันความเชื่อจะสมบูรณ์แบบได้ก็ต่อเมื่ออ้างอิงกับ พระศาสนจักรเท่านั้น ผู้รับศีลล้างบาปทุกคนประกาศ “บทข้าพเจ้าเชื่อ” เป็นรายบุคคล เพราะไม่มีกิจการใดที่สามารถแสดงเป็นรายบุคคลได้ดีกว่านี้ อย่างไรก็ตาม พวกเขาสวดบทข้าพเจ้าเชื่อ ในพระศาสนจักรและผ่านทางพระศาสนจักร เพราะว่าพวกเขาทำในฐานะสมาชิกของพระศาสนจักร ข้าพเจ้าเชื่อและเราเชื่อ ( Credo and Credimus ) สื่อความหมายถึงกัน (อ้างถึง CCC 166-167, CCC196) ในการหลอมรวมการยืนยันความเชื่อของเขากับความเชื่อของพระศาสนจักร คริสตชนก็ถูกรวมเข้าในพันธกิจของพระศาสนจักร คือเป็น “ศีลศักดิ์สิทธิ์สากลแห่งการช่วยให้รอดพ้น” เพื่อชีวิตของมวลมนุษย์ ผู้ที่ประกาศยืนยันความเชื่อ ก็ต้องรับผิดชอบต่อการเบียดเบียนที่เกิดขึ้นไม่บ่อยนัก ในประวัติคริสตศาสนา บรรดามรณสักขีทั้งหลายคือผู้ประกาศและพยานความเชื่อชั้นเลิศ (อ้างถึง RM 45)