พระเยซูคริสตเจ้าเป็นสื่อกลางและความสมบูรณ์แห่งการเปิดเผย
40 พระเป็นเจ้าค่อยๆ เปิดเผยพระองค์เองให้มนุษย์รู้จัก โดยทางประกาศกต่างๆ และเหตุการณ์ช่วยให้รอดทั้งหลาย จนกระทั่งถึงระดับสมบูรณ์ครบถ้วน คือ พระองค์ทรงเปิดเผยพระองค์เองด้วยการส่งพระบุตรของพระองค์ลงมา (อ้างถึง ฮบ 1:1-2)
“พระเยซูคริสตเจ้าทรงทำให้การเปิดเผยสมบูรณ์และสำเร็จไป โดยการประทับอยู่กับมนุษย์และแสดงพระองค์ให้เป็นที่รู้จักโดยอาศัยพระวาจาและกิจการต่างๆ หมายสำคัญและอัศจรรย์อันน่าพิศวงต่างๆ เฉพาะอย่างยิ่งโดยการสิ้นพระชนม์และการกลับคืนพระชนมชีพในสิริโรจนาการ และที่สุดโดยการส่งพระจิตแห่งความจริงมา” (DV 4)
พระเยซูคริสตเจ้ามิใช่เพียงแต่เป็นประกาศกยิ่งใหญ่ที่สุด เท่านั้น ยังทรงเป็นพระบุตรแต่นิรันดร์กาลของพระเป็นเจ้า ผู้ทรงอวตารลงมาเป็นมนุษย์ ดังนั้น พระองค์ทรงเป็นเหตุการณ์ขั้นท้ายสุดซึ่งเป็นที่บรรจบของบรรดาเหตุการณ์ทั้งหลายที่ครอบคลุมประวัติศาสตร์แห่งการช่วยให้รอด (อ้างถึง ลก 24:27) พระองค์ทรงเป็น “พระวจนาตถ์องค์เดียวของพระบิดาที่ดีสมบูรณ์และหาใครเทียบเท่ามิได้” โดยแท้จริง (CCC 65)
41 ศาสนบริการด้านพระวาจาต้องให้ความเด่นชัดกับลักษณะเฉพาะอันน่าพิศวง ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของรูปแบบการเปิดเผย คือ พระบุตรของพระเป็นเจ้าเสด็จเข้ามาในประวัติศาสตร์มนุษย์ ทรงรับเอากายมนุษย์และทรงรับความตาย และทรงทำให้พันธสัญญาใหม่ระหว่างมนุษย์กับพระเป็นเจ้าตามที่กำหนดไว้สำเร็จไป เป็นภาระหน้าที่ของการสอนคำสอนที่จะแสดงให้เห็นว่าพระเยซูคริสต์เป็นใคร ชีวิตและเมตตากิจของพระองค์มีอะไรบ้าง และแสดงให้เห็นถึง ความเชื่อคริสตชนของผู้ติดตามเป็นศิษย์ของพระองค์ (อ้างถึง CT 5 ; CCC 520,2053) เพราะฉะนั้น ศาสนบริการด้านพระวาจาต้องยึดพระวรสารซึ่ง “คือ หัวใจของพระคัมภีร์ทุกเล่ม” ไว้เป็นหลักเสมอ “เพราะพระวรสารทุกเล่มเป็นแหล่งข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับชีวิตและการสอนของพระวจนาตถ์ผู้รับเอากาย ทรงเป็นผู้ช่วยให้รอดพ้นของเรา” ( CCC 125 ซึ่งอ้างถึง DV 18)
ข้อความจริงที่ว่า พระเยซูคริสต์ทรงเป็นสภาพสูงสุดของการเปิดเผย เป็นพื้นฐานของ “การมีพระคริสต์เป็นศูนย์กลาง” ในการสอนคำสอน (CT 5) นั้นหมายความว่า พระธรรมล้ำลึกเกี่ยวกับพระคริสต์ในข่าวสารที่ถูกเปิดเผย มิได้เป็นเพียงองค์ประกอบของเรื่องใดอีก แต่เป็นศูนย์กลางซึ่งมีองค์ประกอบอื่นๆ ร่วมเป็นโครงสร้างและได้รับการอธิบาย