วันอังคารสัปดาห์ที่ 22 (ปีคู่)
บทอ่านจากพระวรสารตามคำบอกเล่าของนักบุญลูกา(ลก 4:31-37)
เวลานั้น พระเยซูเจ้าเสด็จลงไปยังเมืองคาเปอรนาอุม เมืองหนึ่งในแคว้นกาลิลี ทรงสั่งสอนประชาชนในวันสับบาโต คำสั่งสอนของพระองค์ทำให้ผู้ฟังประทับใจอย่างมาก เพราะพระวาจาของพระองค์ทรงไว้ซึ่งอำนาจ
ในศาลาธรรม ชายคนหนึ่งถูกจิตของปีศาจร้ายสิง ร้องตะโกนเสียงดังว่า “ท่านมายุ่งกับพวกเราทำไม เยซูชาวนาซาเร็ธ ท่านมาทำลายพวกเราใช่ไหม ฉันรู้ว่าท่านเป็นใคร ท่านคือองค์ผู้ศักดิ์สิทธิ์ของพระเจ้า” พระเยซูเจ้าทรงดุปีศาจและทรงสั่งว่า “จงเงียบ ออกไปจากผู้นี้” ปีศาจผลักชายนั้นล้มลงต่อหน้าทุกคน แล้วออกไปจากเขาโดยมิได้ทำร้ายแต่ประการใด ทุกคนต่างประหลาดใจมากและถามกันว่า “วาจานี้คือสิ่งใด จึงมีอำนาจและอานุภาพบังคับปีศาจร้าย และมันก็ออกไป” กิตติศัพท์ของพระองค์เลื่องลือไปทั่วทุกแห่งในบริเวณนั้น
ลก 4:31-37 พระคริสตเจ้าทรงเทศน์สอนอย่างผู้มีอำนาจ แม้กระทั่งเหนือพวกจิตที่ไม่บริสุทธิ์ด้วย
คำสอนพระศาสนจักรคาทอลิก CCC ข้อ 1441พระเจ้าเท่านั้นทรงอภัยบาปได้ พระเยซูเจ้าทรงเป็นพระบุตรของพระเจ้า พระองค์จึงตรัสถึงพระองค์เองว่า “บุตรแห่งมนุษย์มีอำนาจอภัยบาปได้บนแผ่นดิน” (มก 2:10) และทรงใช้อำนาจนี้ของพระเจ้า “บาปของท่านได้รับการอภัยแล้ว” (มก 2:5) ยิ่งกว่านั้น พระองค์เองทรงใช้อำนาจพระเจ้าของพระองค์ ประทานอำนาจนี้แก่มนุษย์ เพื่อจะได้ใช้อำนาจนี้ในพระนามของพระองค์
CCC ข้อ 2034 สมเด็จพระสันตะปาปาและบรรดาพระสังฆราช ในฐานะ “ผู้สอนทางการหรือได้รับมอบหมายอำนาจของพระคริสตเจ้า […] ย่อมเทศน์สอนประชากรที่พระเจ้าทรงมอบไว้ให้ปกครองดูแลรู้จักความเชื่อที่ได้รับมอบไว้ให้เชื่อและนำไปปฏิบัติใช้ในการดำเนินชีวิต” อำนาจสอนสามัญและครอบคลุมทั่วพระศาสนจักรของสมเด็จพระสันตะปาปาและพระสังฆราชที่มีความสัมพันธ์กับพระองค์ย่อมสอนบรรดาผู้มีความเชื่อถึงความจริงที่ต้องเชื่อ ความรักที่ต้องปฏิบัติ และความสุขแท้ที่ต้องหวัง
(จากหนังสือ THE DIDACHE BIBLE with commentaries based on the Catechism of the Catholic Church, Ignatius Bible Edition)