ยน 15:12-17…
12นี่คือบทบัญญัติของเรา
ให้ท่านทั้งหลายรักกัน
เหมือนดังที่เรารักท่าน
13ไม่มีใครมีความรักยิ่งใหญ่
กว่าการสละชีวิตของตนเพื่อมิตรสหาย
14ท่านทั้งหลายเป็นมิตรสหายของเรา
ถ้าท่านทำตามที่เราสั่งท่าน
15เราไม่เรียกท่านว่าเป็นผู้รับใช้อีกต่อไป
เพราะผู้รับใช้ไม่รู้ว่านายของตนทำอะไร
เราเรียกท่านเป็นมิตรสหาย
เพราะเราแจ้งให้ท่านรู้ทุกสิ่งที่เราได้ยินมาจากพระบิดาของเรา
16มิใช่ท่านทั้งหลายได้เลือกเรา
แต่เราได้เลือกท่าน
มอบภารกิจให้ท่านไปทำจนเกิดผล
และผลของท่านจะคงอยู่
เพื่อว่าท่านจะขอสิ่งใดจากพระบิดาในนามของเรา
พระบิดาจะประทานแก่ท่าน
17เราสั่งท่านทั้งหลายดังนี้ว่า
ท่านทั้งหลายจงรักกัน”
อรรถาธิบายและไตร่ตรอง
• พี่น้องที่รัก วันธรรมดาอาทิตย์ที่ 5 เทศกาลปัสกา เราได้อ่านพระวรสารนักบุญยอห์นบทที่ 15 มาอย่างต่อเนื่อง จนถึงวันนี้ พ่อได้เน้นเสมอมาว่า เราต้องเป็นกิ่งที่ติดกับลำต้น พรเยซูเจ้าตรัสชัดเจนว่า พระองค์เป็นลำต้น เราทุกคนเป็นกิ่งก้าน และจำเป็นที่ต้องดำรงอยู่ในพระองค์ กิ่งที่ไม่ติดกับลำต้น ไม่อาจมีชีวิต คือต้องเหี่ยวแห้งและเฉาตายไปอย่างแน่นอน...
• พ่อได้เน้นมาตลอดทุกวันเรื่อง “การดำรงอยู่ในพระองค์”
• ก็มีพี่น้องถามพ่อว่า “ดำรงอยู่ในพระองค์ต้องเป็นอย่างไร การภาวนา การแก้บาปรับศีล การสวดสายประคำถือว่า เป็นการดำรงอยู่ในพระองค์พอไหม”
• เมื่อวานพ่อได้ให้คำตอบจากพระคัมภีร์ จากพระวาจาของพระเจ้าเอง... การดำรงอยู่ในพระองค์คือการถือพระบัญญัติแห่งความรักของพระเจ้า... เมื่อวานพ่อได้ย้ำข้อนี้
• พระวาจาวันนี้พาเราให้ต้องไปถึงแก่นที่ลึกลงไปอีก เพราะการดำรงอยู่ในพระองค์ คือ การถือบัญญัติของพระองค์.... พระองค์ตรัสชัดแสนชัด.. เพราะการดำรงอยู่ในพระองค์ คือ การดำรงอยู่ในความรักของพระเจ้า
o “นี่คือบัญญัติของเรา ให้ท่านทั้งหลายรักกันและกันเหมือนดังที่เรารักท่าน” ความรักทำให้เราดำรงอยู่ในกันและกัน ความรักทำให้เราสามารถดำรงอยู่ในความรักจริงๆ บัญญัติแห่งความรักนี่ถือว่าเป็นบัญญัติที่เป็นธรรมชาติมากที่สุดเลยใช่ไหม ครับ... มีใครไม่มีความรัก มีใครไม่เคยรัก มีใครไม่เคยถูกรัก... สรุปว่า... การที่เรามีความรักต่อกันและกัน คือการถือบัญญัติของพระเจ้า และเป็น “ธรรมชาติ” ที่สุดของเราเลยครับ
o “ไม่มีใครมีความรักยิ่งใหญ่ กว่าการสละชีวิตของตนเพื่อมิตรสหาย ท่านทั้งหลายเป็นมิตรสหายของเรา ถ้าท่านทำตามที่เราสั่งท่าน” บัญญัติแห่งความรักยิ่งใหญ่ที่สุดที่การสละชีวิต พ่อคิดว่า ความรักแท้ ทำให้คนเรายอมเลิกนึกถึงตนเอง คิดถึงคนที่เรารักเสมอ ยอมสละชีวิตเพื่อคนรักได้... พระเยซูเจ้าทรงกระทำเช่นนั้น พระองค์ทรงยอมสละชีวิต บนไม้กางเขน เพราะอะไร... ถ้าไม่ใช่ “เพราะทรงรักเรา” นี่คือคำสอนที่มากกว่าคำสอน แต่เป็น แบอย่างแห่งคำสอนและชีวิตของเราจริงๆ
o พ่อเน้นเสมอว่า คริสตชนต้องมีแต่รัก รัก รัก... ครับ นั่นคือความจริงของความรักสำหรับเราทุกคนเสมอไป... รัก ทำให้เราเป็นมิตรสนิทกับพระเยซู เป็นลูกของพระเจ้า ความรักทำให้เกิดมิตรภาพระหว่างเรากับพระเจ้า เป็นมิตรภาพถาวรเสมอไปกับพระเจ้าของเรา.... พ่อมั่นใจ และยากยืนยันให้มั่นใจว่า เราคริสตชนจำเป็นต้องมีความรักเสมอนะครับ อย่าขาดความเป็นคริสตชน อย่าขาดสายสมัพันธ์กับพระเจ้าโดยขาดความรักต่อพระเจ้าเลยนะครับ อย่าได้ขาดหรือตัดตนเองจากลำต้นทรงชีวิตนี้เลยนะครับ
• พ่อว่าพ่อไม่ได้ฟลุคหรือบังเอิญ ที่พ่อเป็นคริสตชน พ่อไม่ได้บังเอิญเป็นคริสตชน และพี่น้องทุกท่านก็มิได้บังเอิญครับ... พระเจ้าทรงรักเรา ทรงเลือกเราให้รักมากกว่าคนอื่น เพื่อประกาศความรักของพระเจ้า ประกาศความเป็นศิษย์ของพระองค์ครับ...
• “มิใช่ท่านทั้งหลายได้เลือกเรา แต่เราได้เลือกท่าน มอบภารกิจให้ท่านไปทำจนเกิดผล และผลของท่านจะคงอยู่ เพื่อว่าท่านจะขอสิ่งใดจากพระบิดาในนามของเรา พระบิดาจะประทานแก่ท่าน เราสั่งท่านทั้งหลายดังนี้ว่า ท่านทั้งหลายจงรักกัน”
o อ่านประโยคนี้ดีและประกาศด้วยความมั่นใจครับ... พี่น้องที่รักครับ
o พระองคทรงเลือกเราแน่นอน
o ทรงมอบภารกิจให้เรา “รัก” ดังเช่นพระองค์ ความรักนี้เป็นธรรมชาติของเรา ขาดไม่ได้ และก็เป็น ภารกิจแท้ของความเป็นคริสตชนด้วยครับ
o และพระองค์สัญญาครับ ถ้าเราขออะไรจากพระบิดา เพราะทรงเป็นพระบิดา และเพราะเรารักพระเจ้า พระบิดาจะประทานให้ครับ... พระเจ้าเป็นความรัก การขอพระเจ้าคือการขอความรักเสมอไปจากพระองค์ด้วยครับ
o และพระองค์กำชับชัดอีกครั้ง สบายใจได้ เพื่อดำรงอยู่ในพระองค์ ชัดๆอีกทีนะ... “ท่านทั้งหลายจงรักกันและกัน”
o ไปครับ ไปปฏิบัติ ไปรักกันด้วยใจจริง และเราจะเป็นศิษย์แท้ของพระองค์ เราจะเป็นบุตรของพระเจ้า เรจะเป็นมิตรนิรันดร์กับพระเจ้า... และเราจะเป็นพี่น้องกันจริงๆเสมอไป... ขอพระเจ้าอวยพรครับ