แผนกคริสตศาสนธรรม อัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ

CATECHETICAL CENTER OF BANGKOK ARCHDIOCESE

thzh-CNenfritjako

วันจันทร์  สัปดาห์ที่ 5  เทศกาลมหาพรต

พระวรสารตามคำบอกเล่าของนักบุญยอห์น (ยน 8:1-11)                                     

เวลานั้น พระเยซูเจ้าเสด็จไปยังภูเขามะกอกเทศ เช้าตรู่วันรุ่งขึ้น พระองค์เสด็จไปในพระวิหารอีก ประชาชนเข้ามาห้อมล้อมพระองค์ พระองค์ประทับนั่ง แล้วทรงเริ่มสั่งสอน

บรรดาธรรมาจารย์และชาวฟาริสีนำหญิงคนหนึ่งเข้ามา หญิงคนนี้ถูกจับขณะล่วงประเวณี เขาให้นางยืนตรงกลาง แล้วทูลถามพระองค์ว่า “อาจารย์ หญิงคนนี้ถูกจับขณะล่วงประเวณี ในธรรมบัญญัติ โมเสสสั่งเราให้ทุ่มหินหญิงประเภทนี้จนตาย ส่วนท่านจะว่าอย่างไร” เขาถามพระองค์เช่นนี้เพื่อจับผิดพระองค์ หวังจะหาเหตุปรักปรำพระองค์ แต่พระเยซูเจ้าทรงก้มลง เอานิ้วพระหัตถ์ขีดเขียนที่พื้นดิน เมื่อคนเหล่านั้นยังทูลถามย้ำอยู่อีก พระองค์ทรงเงยพระพักตร์ขึ้น ตรัสว่า “ท่านผู้ใดไม่มีบาป จงเอาหินทุ่มนางเป็นคนแรกเถิด” แล้วทรงก้มลงขีดเขียนบนพื้นดินต่อไป เมื่อคนเหล่านั้นได้ฟังดังนี้ ก็ค่อยๆ ทยอยออกไปทีละคน เริ่มจากคนอาวุโส จนเหลือแต่พระเยซูเจ้าตามลำพังกับหญิงคนนั้น ซึ่งยังคงยืนอยู่ที่เดิม พระเยซูเจ้าทรงเงยพระพักตร์ขึ้น ตรัสกับนางว่า “นางเอ๋ย พวกนั้นไปไหนหมด ไม่มีใครลงโทษท่านเลยหรือ” หญิงคนนั้นทูลตอบว่า “ไม่มีใครเลย พระเจ้าข้า” พระเยซูเจ้าตรัสว่า “เราก็ไม่ลงโทษท่านด้วย ไปเถิด และตั้งแต่นี้ไป อย่าทำบาปอีก” 


ยน 8:1-11 บรรดาฟาริสีพยายามวางกับดักพระคริสตเจ้าด้วยคำถามเรื่องการลงโทษผู้หญิงที่ล่วงประเวณี ถ้าพระองค์สนับสนุนการทุ่มด้วยหิน ก็เท่ากับว่าพระองค์ละเมิดกฎหมายของโรมันที่ห้ามชาวยิวลงโทษประหารชีวิต แต่ถ้าพระองค์ต่อต้าน บรรดาฟาริสีจะกล่าวหาว่าพระองค์ไม่สนใจธรรมบัญญัติของโมเสสซึ่งเรียกร้องให้มีการลงโทษเช่นนี้ แต่พระคริสตเจ้าทรงย้อนถามกลับไปที่ชาวฟาริสี โดยเรียกร้องให้พวกเขามีความจริงใจเกี่ยวกับพฤติกรรมทางศีลธรรมส่วนตัวของพวกเขาเอง แม้ว่าบาปของการล่วงประเวณีนั้นร้ายแรงอยู่เสมอ แต่พระเมตตาอันไร้ขอบเขตของพระเจ้าก็เพียงพอที่จะให้อภัยแก่บาปต่างๆ เมื่อมีการกลับใจและมีความต้องการที่จะปรับปรุงตัว 

การเป็นชู้

CCC ข้อ 2381 การเป็นชู้เป็นความอยุติธรรมอย่างหนึ่ง ผู้ทำบาปนี้บกพร่องการปฏิบัติหน้าที่ของตน เขาทำลายเครื่องหมายของพันธสัญญาซึ่งได้แก่พันธะของการสมรส เขาฝ่าฝืนสิทธิของคู่สมรสและทำร้ายสถาบันการสมรส ละเมิดคำสัญญาซึ่งเป็นพื้นฐานของสถาบันนี้ เขาทำให้ความดีของการให้กำเนิดชีวิตมนุษย์ตกอยู่ในอันตรายรวมทั้งยังทำร้ายผลประโยชน์ของบุตรซึ่งต้องการความสัมพันธ์ถาวรของบิดามารดา

การล่วงประเวณีและการหย่าร้าง

CCC ข้อ 2400   การล่วงประเวณีและการหย่าร้าง การมีภรรยาหลายคนและการอยู่ด้วยกันอย่างอิสระโดยไม่แต่งงานเป็นความผิดหนักต่อศักดิ์ศรีของการสมรส


ยน 8:7-8 คำตอบของพระคริสตเจ้าไม่ได้ลดความบาปที่หญิงนั้นกระทำ แต่เป็นการชี้ให้เห็นถึงความขัดแย้งในผู้กล่าวหาของนาง พวกเขามีเจตนาที่จะทุ่มหินผู้หญิงคนนั้นตามที่กฎของโมเสสบัญญัติไว้ แต่พวกเขาก็เป็นคนบาปและเป็นผู้ละเมิดกฎทางศีลธรรมด้วย แทนที่จะกล่าวโทษ พวกเขาควรมอบความเมตตาแบบเดียวกับที่พวกเขาต้องการ  เอานิ้วพระหัตถ์ขีดเขียนที่พื้นดิน : เราเพียงสามารถสมมติฐานถึงสิ่งที่พระคริสตเจ้าทรงเขียนเท่านั้น ซึ่งมีความเชื่อมโยงกับลายพระหัตถ์ของพระเจ้าที่บันทึกลงในแผ่นหินที่บนภูเขาซีนาย (เทียบ อพย. 31:18) และคำกล่าวโทษที่เขียนไว้บนผนังพระราชวังของกษัตริย์เบลชัสซาร์ (เทียบ ดนล 5:5) 

พระหรรษทานของพระจิตเจ้า

CCC ข้อ 1589 บรรดานักบุญนักปราชญ์ต่างสำนึกว่า เพราะพระหรรษทานและบทบาทสมณะยิ่งใหญ่เช่นนี้ ทุกคนได้รับเรียกให้จำเป็นต้องเร่งกลับใจใช้ชีวิตทั้งหมดเพื่อตอบสนองพระองค์ผู้ประทานศีลนี้แต่งตั้งเขาให้เป็นศาสนบริกร นักบุญเกรโกรีชาวนาซีอันซัส ซึ่งขณะนั้นยังเป็นพระสงฆ์หนุ่ม จึงประกาศว่า “เราต้องชำระตนเองเสียก่อน แล้วจึงไปชำระผู้อื่น ต้องได้รับคำสั่งสอนเสียก่อน แล้วจึงไปสอนปรีชาญาณแก่ผู้อื่น ต้องเป็นแสงสว่างเสียก่อน แล้วจึงไปส่องสว่างผู้อื่น ต้องเข้าหาพระเจ้าเสียก่อน แล้วจึงนำผู้อื่นไปหาพระองค์ ต้องทำตนให้ศักดิ์สิทธิ์เสียก่อน แล้วจึงทำให้ผู้อื่นศักดิ์สิทธิ์ จงจูงมือ จงให้คำแนะนำที่รอบคอบ” “ข้าพเจ้ารู้ว่าเราเป็นผู้รับใช้ของใคร อยู่ที่ไหน และกำลังจะส่งไปไหน ข้าพเจ้ารู้ว่าพระเจ้าทรงสูงส่งเพียงไร มนุษย์อ่อนแอเพียงไร แต่เขาก็อาจมีพลังขึ้นอีกได้” [ดังนั้น พระสงฆ์เป็นใคร เป็น] ผู้ปกป้องความจริงซึ่งจะยืนอยู่กับบรรดาทูตสวรรค์ เขาจะถวายพระเกียรติแด่พระเจ้าพร้อมกับบรรดาอัครทูตสวรรค์ จะนำการถวายบูชาขึ้นไปยังพระแท่นบูชาสูงสุด จะปฏิบัติหน้าที่สมณะพร้อมกับพระคริสตเจ้า จะฟื้นฟูภาพลักษณ์ (ของพระเจ้าขึ้นใหม่) ในมนุษย์ จะแสดงภาพลักษณ์ (ของพระเจ้า) จะเป็นผู้สร้าง (ภาพนี้) แก่โลกเบื้องบน และยิ่งกว่านั้น ข้าพเจ้าใคร่จะกล่าวว่า เขาจะเป็นพระเจ้า และจะทำให้ผู้อื่นเป็นพระเจ้าด้วย”และนักบุญเจ้าอาวาสแห่งอาร์สยังกล่าวอีกว่า “พระสงฆ์เป็นผู้ต่องานการกอบกู้ที่นี่ในโลกนี้” […] “ถ้าผู้ใดในโลกนี้เข้าใจพระสงฆ์อย่างดี เขาคงจะตาย ไม่ใช่เพราะความกลัว แต่เพราะความรัก” […] “สมณภาพคือความรักจากพระหทัยของพระเยซูเจ้า”

การเป็นชู้

CCC ข้อ 2380 การเป็นชู้ การมีชู้ คำนี้หมายถึงความไม่ซื่อสัตย์ของคู่สมรส เมื่อสองคน ที่อย่างน้อยคนหนึ่งแต่งงานแล้ว มีเพศสัมพันธ์กัน – แม้ไม่เป็นการถาวร - เขาย่อมเป็นชู้กัน พระคริสตเจ้าทรงประณามการเป็นชู้ แม้แต่เพียงปรารถนาจะทำเท่านั้นด้วย พระบัญญัติประการที่หกและพันธสัญญาใหม่ห้ามไม่ให้เป็นชู้กันโดยเด็ดขาด บรรดาประกาศกยังกล่าวถึงความหนักของบาปประการนี้ด้วย ท่านเหล่านี้เห็นว่าการเป็นชู้เป็นภาพของการนับถือรูปเคารพ


ยน 8:11  อย่าทำบาปอีก : พระเมตตาของพระเจ้าไม่ได้เป็นการยกโทษบาป แต่เป็นการทำให้สำนึกถึงการกลับใจและการให้อภัย ประสบการณ์ของความรักของพระคริสตเจ้าเปิดโอกาสให้ก้าวไปข้างหน้าในชีวิตใหม่แห่งความศักดิ์สิทธิ์ พระเจ้าประทานพระเมตตาของพระองค์แก่ทุกคนที่เข้าไปรับศีลอภัยบาปและศีลแห่งการคืนดีเพื่อแสวงหาการอภัยบาป

ความทุกข์ถึงบาป

CCC ข้อ 1451 ในบรรดากิจกรรมของผู้รับศีลอภัยบาป กิจกรรมสำคัญที่สุดคือความทุกข์ถึงบาป ซึ่งก็คือ “ความทุกข์ใจและเกลียดชังบาปที่ได้ทำ พร้อมกับความตั้งใจจะไม่ทำอีก”

CCC ข้อ 1452 เมื่อความทุกข์ถึงบาปเกิดมาจากความรักพระเจ้าเหนือทุกสิ่งก็เรียกว่า “ความทุกข์สมบูรณ์” (ความทุกข์ที่มาจากความรัก หรือ caritatis contritio) ความทุกข์เช่นนี้ให้อภัยความผิดเล็กๆ น้อยๆ และยังทำให้ได้รับอภัยบาปหนัก ถ้ามีความตั้งใจมั่นคงว่าจะไปรับศีลอภัยบาปโดยเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ด้วย

(จากหนังสือ THE DIDACHE BIBLE with commentaries based on the Catechism of the Catholic Church, Ignatius Bible Edition)