แผนกคริสตศาสนธรรม อัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ

CATECHETICAL CENTER OF BANGKOK ARCHDIOCESE

thzh-CNenfritjako

ข้อคิดข้อรำพึง

อาทิตย์พระทรมานของพระเยซูคริสตเจ้า (แห่ใบลาน) ปี C

Palm Sunday

“พวกเด็กชาวฮีบรู ถือกิ่งมะกอกไปรับเสด็จพระคริสตเจ้า”

เราเข้าสู่สัปดาห์ศักดิ์สิทธิ์แล้ว  และเริ่มต้นอย่างยิ่งใหญ่  คือการแห่แหนมารับเสด็จพระเยซูเจ้าเข้ากรุงเยรูซาเล็มอย่างสง่า  เราจะเห็นภาพของผู้คนมากมายเอาเสื้อคลุมของตนปูลงตามหนทางให้พระองค์เสด็จผ่านไป

 เราจงร้องสรรเสริญพระเจ้าด้วยความชื่นชมยินดี  ร่วมเสียงเป็นหนึ่งเดียวกับประชาชนทั้งหลายว่าดังนี้

 “ขอให้พระมหากษัตริย์ ผู้เสด็จมาในพระนามของพระเจ้าทรงพระเจริญ สันติสุขจงมีในสวรรค์และสิริรุ่งโรจน์ในที่สูงสุด”

 พี่น้องครับ ถ้าเราไม่โห่ร้องสรรเสริญพระเยซูเจ้าในช่วงเวลานี้ เราจะขายขี้หน้าพวกเด็กชาวฮีบรู เพราะพวกเขาถือกิ่งมะกอกไปรับเสด็จพระคริสตเจ้า พลางส่งเสียงโห่ร้องว่า “โฮซันนา พระเจ้าสูงสุด”

 แม้ว่า ถ้าประชาชนและเด็กๆ จะไม่ส่งเสียงร้องสรรเสริญ บรรดาก้อนหินจะส่งเสียงร้องแทน    นี่เป็นพระเยซูเจ้าเองที่ตรัสไว้

 ดังนั้น ให้เราโมทนาคุณพระเจ้าสิ้นสุดจิตใจ เพราะเวลานั้นสำหรับพระองค์มาถึงแล้ว

 ถึงแม้ว่า เหตุการณ์ที่กำลังจะดำเนินต่อไป หลังจากเสียงแซ่ซ้องสรรเสริญจบลง จะเป็นเรื่องที่น่าเศร้าที่สุด จะเป็นโศกนาฏกรรมที่เราจะเห็นการเปลี่ยนไปของฝูงชน ที่พากันมาตะโกนว่า “เอามันไปตรึงกางเขน...ขอให้เลือดของมันตกเหนือเรา  และลูกหลานของเราเถิด” 

และเหตุการณ์นั้นก็เกิดขึ้นจริงๆ พวกเขากล่าวหาใส่ร้ายพระองค์ ทรงถูกจับกุมคุมขัง ถูกเฆี่ยนตี ถูกสบประมาท ถูกปฏิเสธทั้งจากคนอื่นๆ และรวมถึงสานุศิษย์  ทุกคนพากันทิ้งพระองค์ไปหมด  ทรงอดทนอย่างเดียวดายอ้างว้าง  ทรงเศร้าพระทัยในความใจแข็งกระด้างของมวลมนุษย์  ทรงถูกสวมมงกุฎหนาม   ถูกล้อเลียนเป็นตัวตลก  ถูกถ่มน้ำลายรด  ถูกจับแบกกางเขนไปบนเนินเขาหัวกะโหลก  ถูกตอกตะปูที่       พระหัตถ์  ถูกยกขึ้นบนไม้กางเขน  และสิ้นพระชนม์บนไม้กางเขน

แต่ท่ามกลางเหตุน่าเศร้าเช่นนี้ พระเยซูเจ้าได้ทรงตั้งศีลมหาสนิท  และตรัสให้บรรดาสาวกกระทำการนี้เพื่อเป็นที่ระลึกถึงสิ่งที่ทรงกระทำ  พระเยซูเจ้าได้ทรงมอบพระมารดาของพระองค์ ให้เป็นมารดาของเราทั้งหลาย และให้เราทั้งหลายเป็นลูกของพระนาง ที่สำคัญที่สุดคือเราทราบว่าพระองค์สิ้นพระชนม์เพื่อไถ่บาปของเรา  พระองค์ทรงรับแบกบาปทั้งหมดของเราไว้  และขจัดมันให้สิ้นไปโดยชัยชนะแห่งการกลับฟื้นคืนพระชนมชีพ

ถ้าเรื่องพระทรมานและการสิ้นพระชนม์ของพระองค์นำความโศกเศร้ามาให้กับเรามากมายเท่าไร การกลับคืนพระชนมชีพของพระองค์ก็จะนำเราให้สัมผัสกับความรุ่งโรจน์จนหาที่เปรียบไม่ได้

เดี๋ยวนี้ คนชอบพูดชอบชมว่าคนเรามีออร่า ซึ่งน่าจะแปลว่ามีรัศมี เปล่งบารมี ก็ขอบอกว่าจากการกลับคืนพระชนมชีพของพระเยซูเจ้า พระเจ้าทรงประทานพระสิริรุ่งโรจน์แด่พระบุตรของพระองค์        อย่างเต็มที่ ทำให้เราทุกคนได้รับส่วนแบ่งในพระบารมีของพระองค์ ทำให้เรามี ออร่า เต็มใบหน้าของเรา

(คุณพ่อ วิชา  หิรัญญการ เขียนลงสารวัดพระกุมารเยซู เมื่อวันที่ 28 มีนาคม 2010)