“ประตูสู่ความเชื่อ” (Doorway to Faith)
วันที่ 98
การอธิษฐานภาวนาและพิธีกรรม (CCC ข้อ 1073)
‘การภาวนาสามารถก้าวหน้าไปได้... จนถึงขั้นที่ทำให้บุคคลทั้งครบถูกครอบครองจากพระเจ้าผู้เป็นที่รัก รับรู้ถึงการสัมผัสของพระจิตเจ้า ได้พักผ่อนในพระทัยของพระบิดาเจ้าด้วยความรู้สึกดั่งบุตร’ (พระสมณลิขิต เริ่มต้นสหัสวรรษใหม่ ข้อ 32)
โดยหลักแล้วการภาวนาของคริสตชนคือการมีส่วนร่วมในการอธิษฐานภาวนาของพระคริสตเจ้าต่อพระบิดาเจ้า เป็นการมีส่วนร่วมในรูปแบบเดียวกับความสัมพันธ์ฉันบุตรของพระเยซูเจ้าต่อพระบิดา โดยทั่วไปแล้วสิ่งที่เป็นจริงสำหรับการภาวนาก็เป็นสิ่งที่เป็นจริงสำหรับพิธีกรรมด้วย
ประเด็นนี้หนังสือคำสอนกล่าวว่าพิธีกรรมเป็นต้นกำเนิดและเป็นจุดจบของทุกการอธิษฐานภาวนา การที่เป็นต้นกำเนิดเพราะการภาวนาส่วนตัวนั้นก็เป็นเสียงสะท้อนจากการอธิษฐานภาวนาของพระคริสตเจ้าต่อพระบิดาในพิธีกรรม และเป็นจุดจบเพราะพระจิตเจ้าผู้ทรงสอนและขับเคลื่อนเราให้อธิษฐานภาวนาในพระคริสตเจ้า ทรงนำเราไปสู่พิธีกรรมในท้ายที่สุดนั่นเอง (Youcat 102)
เป้าหมายของข้าพเจ้าในการอธิษฐานภาวนาส่วนตัวและในการร่วมพิธีกรรมก็คือ การร่วมแบ่งปันความรักของพระเยซูเจ้าและการนมัสการพระบิดาเจ้า ดังนั้น ในวันนี้ข้าพเจ้าจึงภาวนาว่า “ข้าแต่พระบิดาของข้าพเจ้าทั้งหลาย พระองค์สถิตในสวรรค์...”
.
(Archbishop Bernard Longley, Doorway to Faith: Unlocking the Mystery of Faith. A Journey of Prayer Through the Catechism of the Catholic Church, London , Alive Publishing Ltd., 2014.)
.
โดยแผนกคริสตศาสนธรรมอัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ