พระบัญญัติของพระเจ้า
    ในพระวรสารเขียนไว้ว่า พระเยซูเจ้าสอนว่า พระบัญญัติของพระเจ้านั้นตั้งอยู่ในความรัก หากว่าเรารักพระเจ้ารักเพื่อมนุษย์อย่างถูกต้อง เราถือตามพระบัญญัติทุกประการ แต่โปรดอย่าเข้าใจว่าไม่จำเป็นต้องรู้พระบัญญัติซึ่งพระเจ้าให้มนุษย์รักและถือตามเพื่อจะได้มีความรักอย่างถูกต้อง หลายครั้งมนุษย์เราไม่ทราบว่าต้องทำอะไรดี อะไรถูก พระบัญญัตินั้นให้การแนะนำที่ถูกต้อง พระบัญญัติมี 10 ประการ และใน 10 ประการนี้ สามประการแรกทำให้เรารู้จักหลักแห่งความรักพระ และอีกเจ็ดประการให้คำแนะนำเพื่อจะรักตนเองและเพื่อนมนุษย์อย่างถูกต้อง ต่อไปนี้จะทำความเข้าใจพระบัญญัติทีละข้อ เพื่ออธิบายความหมายแต่ละข้อ และเข้าใจว่าพระเจ้าต้องการอะไรจากเราแต่ละคนในสภาพที่แตกต่างกันและกรณีแวดล้อมไม่เหมือนกัน

ก่อนที่จะเริ่มพระบัญญัติ ในพระคัมภีร์มีเขียนไว้ว่า ใครเป็นผู้บัญญัติและผู้นั้นมีสิทธิที่จะบังคับบัญชาและแนะนำเราเพราะเป็นเจ้านายสูงสุด เริ่มดังนี้ “เราคือพระเจ้าของเจ้า” ดังนั้นเรารู้ว่าบัญญัตินั้นมีความสำคัญเท่าใดและทำไมจึงบังคับได้ เพราะพระองค์ผู้บัญญัตินั้นคือพระเจ้านั้นเอง พระบัญญัติของพระเจ้าเป็นคำสั่งของพระองค์ที่มนุษย์ต้องถือตาม เพื่อจะประพฤติให้เหมาะสมกับธรรมชาติของตนแล้วจะสำเร็จตามพระบัญญัตินั้น ทำให้เราเป็นมนุษย์แท้และบรรลุถึงยอดแห่งธรรมชาติ คือคนที่ถือพระบัญญัติอย่างถูกต้องและอย่างดีที่สุด นั้นแหละเป็นยอดมนุษย์คนหนึ่ง พระเจ้าต้องการให้มนุษย์ทุกคนถือตามพระบัญญัติทุประการ และเนื่องด้วยพระองค์รู้จักธรรมชาติอย่างดีที่สุดไม่ได้สั่งอะไรที่มนุษย์ทุกคนจะถือตามไม่ได้ กล่าวคือมนุษย์ทุกคนถือตามพระบัญญัติได้เสมอเพราะพระเจ้าจะช่วยอย่างแน่นอน การถือตามพระบัญญัตินั้นไม่ได้ทำลายความร่าเริงในใจของมนุษย์ ตรงกันข้าม กลับทำให้มนุษย์มีความสุขในการรับใช้พระองค์ นอกจากนั้นพระเจ้าเองไม่ได้ให้พระบัญญัตินั้นเพื่อทรมานใจมนุษย์แต่เพื่อให้มนุษย์มีความสุข เราคริสตชนรู้อย่างแน่นอนว่าพระบัญญัติของพระเจ้ามีหลักในธรรมชาติ ดังนั้นความจำเป็นของธรรมชาติไม่คัดค้านกับคำสั่งของพระเจ้าเลย ในกรณีที่ดูเหมือนว่าพระบัญญัติของพระเจ้าไม่คู่กับหลักธรรมชาติ แสดงว่าเราขาดความเข้าใจ บางครั้งเราเข้าใจพระบัญญัติของพระเจ้าอย่างไม่ถูกต้อง หรือบางกรณีเราไม่รู้จักธรรมชาติอย่างถูกต้อง คนที่ไม่ยอมถือพระบัญญัติของพระเจ้าและไม่ทำตาม หรือทำอะไรที่พระบัญญัติห้ามนั้น ต้องถือว่ากบฏต่อพระเจ้า เรียกว่าทำบาป และแน่นอนเนื่องด้วยพระเจ้าต้องการแต่ความดีของมนุษย์ การกระทำผิดต่อพระบัญญัติจึงเป็นการทำลายความดีของตนซึ่งเรียกว่าบาป (สดด 18:8-11)

ที่มา: หนังสือความสว่างที่แท้จริง ซึ่งนำไปสู่ความรอด เล่ม 3