การบังเกิดของพระเยซู
ไม่มีการบันทึกวันเดือนปีที่แน่ชัดที่พระเยซูทรงบังเกิดมา วันที่ 25 ธันวาคมนั้น ถูกกำหนดขึ้นภายหลัง (เพื่อให้มีการเฉลิมฉลอง ซึ่งสำหรับชาวคริสต์มีความหมายมากกว่าการระลึกถึง เพราะเป็นการมีส่วนร่วมในภารกิจการไถ่บาปของพระเยซูซึ่งเริ่มต้นจากการกำเนิดของพระองค์) สำหรับปีกำเนิดคงไม่ใช่ปีที่ 1 ของศตวรรษที่ 1 เพราะมีการนับปฏิทินผิด หลักฐานต่างๆ ทำให้เชื่อว่าน่าจะเป็นปีที่ 3 หรือ 4 ก่อน ค.ศ. มากกว่า
รายละเอียดเกี่ยวกับการบังเกิดและปฐมวัยของพระเยซูมีบันทึกไว้ในพระวรสาร (The Gospels) เพียงสองเล่มเท่านั้น มัทธิว เริ่มต้นด้วยการโยงเชื้อสายบรรพบุรุษมาจากอับราฮัมเลยทีเดียว เพื่อแสดงให้เห็นว่าพระเยซูทรงสืบตระกูลจากบิดาของชนชาติอิสราเอลและกษัตริย์ดาวิด จากนั้นจึงเล่าเรื่องการบังเกิดมาของพระเยซูจากพระนางมารีย์ ซึ่งทรงครรภ์ด้วยอำนาจของพระเจ้า พวกโหราจารย์จากทิศต่างๆ พากันไปเฝ้าโดยเชื่อว่าเป็นกษัตริย์องค์ใหม่ของชาวอิสราเอล กษัตริย์เฮโรดทรงเกรงคนจะแย่งชิงบัลลังก์จึงสั่งให้ประหารทารกที่เบธเลเฮม ซึ่งเป็นที่ที่พระเยซูทรงบังเกิด มัทธิวเขียนพระวรสารฉบับนี้สำหรับชาวอิสราเอลที่ยอมรับพระเยซูภายหลัง จึงเน้นเรื่องราวที่แสดงถึงความยิ่งใหญ่ของพระเยซูผู้ทรงเป็น “กษัตริย์” องค์ใหม่
ลูกา เล่าเรื่องการบังเกิดของพระเยซูโดยให้รายละเอียดที่มีลักษณะ “สามัญชน” มากกว่า เริ่มด้วยการทำนายต่างๆ รายละเอียดเกี่ยวกับพระนางมารีย์ การไปเยี่ยมญาติ การบังเกิดในถ้ำเลี้ยงสัตว์ มีทูตสวรรค์ร้องเพลงและคนเลี้ยงแกะพากันไปนมัสการ
เนื่องจากคัมภีร์ไบเบิลไม่ใช่หนังสือประวัติศาสตร์ในความหมายทางวิชาในปัจจุบัน แต่เป็นบันทึกประสบการณ์ความเชื่อนับแต่สมัยของโมเสสเป็นต้นมา จนถึงบรรดาสาวกของพระเยซู เรื่อง-ราวต่างๆ ที่เล่าเกี่ยวกับการบังเกิดและปฐมวัยของพระเยซูจึงต้องได้รับการตีความ “สาสน์” (Message) ที่เป็น “แก่น” ของเรื่องนี้ คือ การบังเกิดมาของพระเยซู บุตรของพระเจ้าและพระ-เมสสิยาห์ ตามที่บรรดาประกาศกได้ประกาศและทำนายไว้ เป็น “อุบัติการณ์” (Event) ที่สำคัญที่สุดในประวัติศาสตร์ความรอด รายละเอียดอื่น ๆ เป็นองค์ประกอบเพื่อให้ “รู้แจ้ง” ในอุบัติการณ์นี้