แผนกคริสตศาสนธรรม อัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ

CATECHETICAL CENTER OF BANGKOK ARCHDIOCESE

thzh-CNenfritjako

4c4130a316f1f3aef77d7ddba675cc58

บรรดาอัครสาวก และผู้สืบทอดเจตนารมณ์
    คนอีกกลุ่มหนึ่งที่ช่วยพระศาสนจักรให้ดำรงรักษาและถ่ายทอดข่าวประเสริฐของพระเยซูอย่างถูกต้องแก่ทุกคน จนถึงสุดปลายแผ่นดินโลก คนเหล่านั้นคือบรรดาอัครสาวกที่พระเยซูทรงใช้ไป รวมถึงบรรดาผู้สืบทอดเจตนารมณ์ของอัครสาวกเหล่านั้น องค์พระเยซูไม่ได้ทรงเขียนหนังสือด้วยพระองค์เอง แต่ทรงเรียกพวกศิษย์ให้มารวมกันอยู่ใกล้ชิดพระองค์เพื่อถ่ายทอดคำสอนของพระองค์ แก่ผู้คนในยุคต่อไป และเพื่อให้เป็นพยานถึงชีวิตความตายและการกลับคืนชีพของพระองค์ หลังจากความตายและการกลับคืนชีพ พระเยซูทรงใช้พวกเขาเหล่านั้นไปทั่วโลกในฐานะตัวแทนของพระองค์ “พระบิดาทรงส่งเรามาฉันใด เราก็ส่งท่านทั้งหลายไปฉันนั้น” (ยอห์น 20:21) “ผู้ใดฟังท่าน ผู้นั้นฟังเรา” (ลูกา 10:16) พระเยซูทรงทั่งให้อัครสาวกเหล่านี้ออกไปสั่งสอนประชาชาติให้มาเป็นศิษย์ของพระองค์ (มัทธิว 28:19) และหลังจากได้รับมอบหมายหน้าที่จากพระเยซูผู้ทรงกลับคืนชีพ อัครสาวกทั้ง 12 คน โดยเฉพาะผู้ที่พระเยซูทรงเรียกเป็นพิเศษภายหลังการทรงกลับคืนชีพ อย่างเปาโลก็ออกไปสั่งสอนทั่วโลก พวกเขาประกาศข่าวประเสริฐแก่ทุกคนในฐานะที่เป็นพระวาจาของพระเจ้า ไม่ใช่ในฐานะที่เป็น “คำพูดของมนุษย์” (1เธสะโลนิกา 2:13)

เมื่อเกิดกลุ่มของสัตบุรุษพวกเขาก็เลี้ยงดูสั่งสอนและนำคนเหล่านั้นให้เดินบนหนทางของความรอดพ้นเหมือนอย่างผู้เลี้ยงแกะดูแลแกะของตน (ยอห์น 21:15-17) หน้าที่ของอัครสาวกตามที่พระเยซูทรงมอบหมายนั้น เป็นหน้าที่และคุณสมบัติแท้ของพระศาสนจักรที่จะต้องทำสืบต่อไปจนถึงสุดปลายแผ่นดินโลก อัครสาวกจึงได้พยายามคัดสรรแต่งตั้งเฉพาะสำหรับผู้สืบทอดงานของอัครสาวก แต่ต่อมาในศตวรรษที่ 2 พระศาสนจักรสถาปนาตำแหน่ง พระสังฆราช (Episcopos) และผู้ช่วยพระสังฆราช คือ พระสงฆ์
    บุคคลเหล่านี้ประกาศข่าวประเสริฐของพระคริสต์แก่ทุกคนในฐานะชุมพาบาล ให้สัตบุรุษเป็นหนึ่งเดียวกัน และสั่งสอนพร้อมทั้งนำพวกเขาให้ทำพิธี “กินเลี้ยงอาหารค่ำขององค์พระผู้เป็นเจ้า” (1โครินธ์ 11:20) ตามที่พระเยซูทรงมอบหมาย พวกเขาให้ศีลศักดิ์สิทธิ์แก่สัตบุรุษ และตามพระคัมภีร์ บรรดาผู้ร่วมงานและผู้สืบทอดตำแหน่งของอัครสาวกเหล่านี้จะได้รับการปกมือเพื่อแต่งตั้งด้วย (2ทิโมธี 1:6) นั่นหมายความว่า ด้วยการปกมือนั้นพวกเขาได้รับมอบภาระหน้าที่และคำสวดภาวนาของอัครสาวก และขณะเดียวกันก็รับพระคุณของพระจิตพระผู้ช่วยในภาระหน้าที่เหล่านั้นด้วย แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าพระสังฆราชหรือพระสงฆ์ทั้งหลายเป็นผู้ปราศจากจากจุดอ่อนหรือจุดบกพร่อง เพราะจากประวัติศาสตร์ที่ผ่านมา เราได้เรียนรู้กันเสมอว่าพระสังฆราชหรือพระสงฆ์ไม่ใช่ผู้วิเศษหรือซุปเปอร์แมน แต่เป็นเพียงผู้ที่พระเยซูทรงมอบหมายพระวาจาและพระทัยของพระองค์ ตลอดจนศีลมหาสนิทและศีลอภัยบาปไว้ พวกเขาเป็นผู้ที่นำพระวาจาและพระทัยของพระเยซู รวมทั้งศีลมหาสนิทและศีลอภัยบาปของพระองค์ไปให้ผู้คนมากมายจนถึงสุดปลายแผ่นดินโลก โดยการรับใช้เช่นนี้ พวกเขาช่วยให้ทุกคนได้พบพระเยซูคริสต์ และได้เข้าใจว่าความรอดพ้นคือพระคุณของพระคริสต์ ในบรรดาผู้นำพระศาสนจักรตามคำมอบหมายของพระเยซูนั้น อัครสาวกเปโตรและผู้สืบทอดตำแหน่งต่อจากท่าน เป็นผู้มีภาระหน้าที่เป็นพิเศษกว่าคนอื่นตรงที่พระเยซูทรงแต่งตั้งเปโตรเป็นรากฐานของพระศาสนจักร ทั้งทรงมอบกุญแจอาณาจักรสวรรค์ และทรงสัญญากับเปโตรว่า ทุกสิ่งที่ท่านจะผูกบนแผ่นดินนี้จะผูกไว้ในสวรรค์ ทุกสิ่งที่ท่านจะแก้ในแผ่นดินนี้ก็จะแก้ในสวรรค์ด้วย (มัทธิว 16:18-19) หลังจากทรงกลับคืนชีพ พระเยซูทรงสั่งให้เปโตรเลี้ยงแกะของตนเองด้วย (ยอห์น 21:15-17) วันที่สมโภชพระจิตเจ้า เปโตรในฐานะผู้แทนของอัครสาวกได้ประกาศข่าวประเสริฐเรื่องการกลับคืนชีพของพระเยซู (กิจการอัครสาวก 2:14-36) หลังจากการทำพันธกิจด้วยความกระตือรือร้นนับเป็นสิบๆ ปี เปโตรได้ถวายชีวิตแด่พระเยซูเจ้าที่กรุงโรม เหมือนศิลามั่นคงที่เป็นรากฐานรองรับตัวตึกให้ยั่งยืนตลอดไป ภาวะหน้าที่ของเปโตรผู้เป็นศิลาของพระศาสนจักรจำเป็นต้องมีผู้สานต่อตลอดไปเพื่อความสามัคคีธรรม และความเชื่อของพระศาสนจักรจะได้รับการรักษาให้มั่นคงสืบไปจนถึงวันสุดท้ายของแผ่นดินโลก เพราะฉะนั้น ชาวคริสต์จึงต้องมั่นใจว่าภาระหน้าที่ของเปโตรไม่ได้สิ้นสุดลงพร้อมกับความตายของเปโตร และผู้สืบทอดภาระหน้าที่การดำรงรักษาสามัคคีธรรมและความเชื่อในฐานะพระสันตะปาปาต่อจากเปโตร คือพระสังฆราชของเมืองที่เปโตรดำเนินชีวิตอยู่เป็นเวลาหลายปีจนถึงวาระสุดท้าย เมื่อท่านถวายชีวิตเพื่อพระเยซูผู้ทรงดูแลรักษาพวกเขาที่พระองค์ทรงใช้ไปจนถึงสุดปลายแผ่นดินโลก นอกจานี้ พระเจ้าทรงสัตย์ซื่อ ทรงดูแลพวกเขาให้รักษาพันธสัญญาใหม่ที่ทำไว้โดยผ่านทางพระเยซูให้ดำรงอยู่ในความถูกต้อง เพราะฉะนั้น เมื่อพระสังฆราชทั้งหลายทั่วโลกหรือพระสันตะปาปาผู้ทรงเป็นผู้นำของพระสังฆราชทั้งหลายประกาศด้วยเสียงหนึ่งเดียวกันต่อหน้าสาธารณชนว่า คำสอนใดเป็นความจริงที่พระเจ้าทรงเผยแสดง เราทั้งหลายก็สามารถมั่นใจได้ว่าคำสอนหรือคำประกาศนั้นถูกต้อง บางครั้งจากประวัติศาสตร์ของพระศาสนจักรที่ผ่านมา เราเห็นว่าบางครั้งบรรดาผู้นำพระศาสนจักรจำเป็นต้องประกาศยืนยันเช่นนั้น คำประกาศยืนยันเหล่านั้นไม่ได้เกิดจากการคิดนึกเอาตามใจชอบ แต่พื้นฐานคำประกาศนั้นคือการเผยแสดงของพระเจ้า เท่าที่ผ่านมามีการประกาศในลักษณะนี้ไม่บ่อยนัก จะทำเฉพาะในเหตุการณ์สำคัญอย่างยิ่ง เช่น เมื่อต้องการยุติแนวความคิดที่เป็นอันตรายคุกคามชีวิตของพระศาสนจักร และแน่นอนว่า นอกจากการประกาศยืนยันอย่างเป็นทางการเช่นนั้นแล้ว ชาวคริสต์ที่ต้องการรักษาความเป็นหนึ่งในพระศาสนจักรก็จะต้องเชื่อฟังการนำของพระสันตะปาปา พระสังฆราช และพระสงฆ์ด้วยความสัตย์ซื่อด้วย อันที่จริง สิ่งที่มีคุณค่าสำหรับสัตบุรุษมากกว่าประกาศคำสอนซึ่งไม่เกิดขึ้นบ่อยนักก็คือ เทศนาประจำวันอาทิตย์ของพระสังฆราชหรือพระสงฆ์ หลักคำสอนของคริสตัง การนำส่วนบุคคล แต่การกระทำเหล่านี้มีขีดจำกัดในด้านความรู้หรือความบกพร่องของผู้นำพระศาสนจักรด้วย แต่ทั้งๆ ที่พระเยซูทรงตักเตือนไว้แล้ว (ลูกา 20:25) พระสันตะปาปา พระสังฆราช หรือพระสงฆ์บางองค์ในยุคนั้นก็ยังคงได้ใช้ชีวิตอย่างผู้มีอำนาจหรือคนร่ำรวยในสังคม อย่างไรก็ตาม บรรดาผู้นำของพระศาสนจักรในยุคนี้ได้หันมาใส่ใจอย่างลึกซึ้งในคำสอนของเปโตรที่ว่า “ลงเลี้ยงดูฝูงแกะของพระเจ้าที่อยู่ในความดูแลของท่าน จงดูแลด้วยความเต็มใจตามพระประสงค์ของพระเจ้า มิใช่ดูแลด้วยจำใจ จงดูแลด้วยความสมัครใจ มิใช่ดูแลเพราะเห็นแก่อามิสสินจ้าง จงเป็นแบบอย่างแก่ฝูงแกะ มิใช่เป็นเหมือนเจ้านายเหนือผู้ที่อยู่ใต้ปกครอง” (1เปโตร 5:2-3) ปัจจุบันนี้พระสงฆ์ส่วนใหญ่ทั่วโลกถือว่าการเป็นพระสงฆ์ไม่ใช่เพื่อแสวงหาผลประโยชน์ ความร่ำรวยหรือตำแหน่งทางสังคมอีกต่อไปแล้ว ตรงกันข้ามพวกเขาจะต้องรับเอาไม้กางเขน “เพื่อพระอาณาจักรของพระเจ้าและความชอบธรรมของพระองค์” (มัทธิว 6:33) ดังนั้น การปฏิบัติภาระหน้าที่ของพระสงฆ์จึงไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะสำหรับคนที่พระคริสต์ทรงเรียกเช่นนี้นั้น การทรงเรียกมีคุณค่าสมควรแก่การถวายหมดทั้งชีวิตทีเดียว และเพราะพระคริสต์ทรงเรียกนี้เอง พวกเขาจึงต้อง “จับคันไถ” (ลูกา 9:62) ด้วยความกล้าและลงมือไถที่นาของพระองค์ และพระเจ้าผู้ส่งคนงาน “เก็บเกี่ยวข้าวของพระองค์” (มัทธิว 9:38) จะทรงโปรดให้ความยากลำบากของพวกเขากลายเป็นการเก็บเกี่ยวนิรันดร

สื่อการสอน เกมคำสอน เกมพระคัมภีร์ ออนไลน์

สื่อคำสอน เมื่อจะไปรับศีลอภัยบาป
สื่อคำสอน เมื่อจะไปรับศีลอภัยบาป
แผนภูมิความรู้ เมื่อจะไปรับศีลอภัยบาป 5 ขั้นตอนของการรับศีลอภัยบาป มีดังนี้ 1. ภาวนา เพื่อจะได้เตรียมตัวรับศีลอภัยบาปอย่างดี และมีความเป็นทุกข์ถึงบาปอย่างจริงใจ 2. พิจารณาบาป ทบทวนถึงบาปที่ได้กระทําผิดต่อพระเจ้า ต่อเพื่อนพี่น้อง และต่อตนเอง 3. เป็นทุกข์ถึงบาป การสํานึกผิดและการเสียใจที่ได้ทําบาป เป็นเงื่อนไขที่สําคัญที่สุดเพื่อจะได้รับการอภัยบาป 4. ไปสารภาพบาป...
สื่อการสอน คุณค่าพระวรสาร 21 ประการ
สื่อการสอน คุณค่าพระวรสาร 21 ประการ
คุณค่าพระวรสาร 21 ประการ สำหรับอัตลักษณ์การศึกษาคาทอลิก คุณค่าพระวรสาร คือ คุณค่าที่พระเยซูเจ้าสั่งสอน และเจริญชีวิตเป็นแบบอย่างแก่บรรดาสานุศิษย์และประชาชน ดังที่มีบันทึกในพระคัมภีร์ มีชื่อเรียกว่า “พระวรสาร” ซึ่งแปลว่า“ข่าวดี” คำว่า “ข่าวดี” หมายถึง ข่าวดีแห่งความรอดพ้นของมนุษย์จากทุกข์ (อิสยาห์ 61:1) (ลูกา 4:16-18)...
สื่อคำสอน เรื่องปีศักดิ์สิทธิ์ ค.ศ. 2025
สื่อคำสอน เรื่องปีศักดิ์สิทธิ์ ค.ศ. 2025
ปีศักดิ์สิทธิ์ ค.ศ. 2025 สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส ทรงออกประกาศสมณโองการกําหนดให้ปี ค.ศ. 2025 เป็นปีศักดิ์สิทธิ์ (Jubilee Year) “ความหวังนี้ไม่ทําให้เราผิดหวัง” (รม. 5:5) โดยให้ “ความหวัง” เป็นหัวใจสําคัญของการเฉลิมฉลองปีศักดิ์สิทธิ์ 2025 (24 ธันวาคม 2024...

รำพึงพระวาจาประจำวัน

วันอาทิตย์ที่ 7 สมโภชพระเยซูเจ้าเสด็จสู่สวรรค์ บทอ่านจากพระวรสารตามคำบอกเล่าของนักบุญลูกา (ลก 24:46-53) เวลานั้น พระเยซูเจ้าตรัสว่า ‘มีเขียนไว้ดังนี้ว่า พระคริสตเจ้าจะต้องรับทนทรมานและจะกลับคืนพระชนมชีพจากบรรดาผู้ตายในวันที่สาม จะต้องประกาศในพระนามของพระองค์ให้นานาชาติกลับใจเพื่อรับอภัยบาปโดยเริ่มจากกรุงเยรูซาเล็ม ท่านทั้งหลายเป็นพยานถึงเรื่องทั้งหมดนี้ ‘บัดนี้ เรากำลังจะส่งพระผู้ที่พระบิดาทรงสัญญาไว้มาเหนือท่านทั้งหลาย เพราะฉะนั้นท่านจงคอยอยู่ในกรุงจนกว่าท่านจะได้รับพระอานุภาพจากเบื้องบนปกคลุมไว้’ พระองค์ทรงนำบรรดาศิษย์ออกไปใกล้หมู่บ้านเบธานี ทรงยกพระหัตถ์ขึ้นอวยพระพร และขณะที่ทรงอวยพระพรนั้น พระองค์ทรงแยกไปจากเขา...
วันเสาร์ สัปดาห์ที่ 6 เทศกาลปัสกา (ฉลองพระนางมารีย์เสด็จเยี่ยม) บทอ่านจากพระวรสารตามคำบอกเล่าของนักบุญลูกา (ลก 1:39-56) เวลานั้น พระนางมารีย์ทรงรีบออกเดินทางไปยังเมืองหนึ่งในแถบภูเขาแคว้นยูเดีย พระนางเสด็จเข้าไปในบ้านของเศคาริยาห์และทรงทักทายนางเอลีซาเบธ เมื่อนางเอลีซาเบธได้ยินคำทักทายของพระนางมารีย์ บุตรในครรภ์ก็ดิ้น นางเอลีซาเบธได้รับพระจิตเจ้าเต็มเปี่ยม ร้องเสียงดังว่า “เธอได้รับพระพรยิ่งกว่าหญิงใดๆ และลูกของเธอก็ได้รับพระพรด้วย ทำไมหนอพระมารดาขององค์พระผู้เป็นเจ้า จึงเสด็จมาเยี่ยมข้าพเจ้า...

ประชาสัมพันธ์

ประมวลภาพกิจกรรม

คุณพ่อ Marcus Holden และคณะเซอร์ เยี่ยมเยียนแผนกฯ
คุณพ่อ Marcus Holden และคณะเซอร์ เยี่ยมเยียนแผนกฯ
"ยินดีต้อนรับ" วันศุกร์ที่ 23 พฤษภาคม 2025 แผนกคริสตศาสนธรรมอัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ ได้เปิดออฟฟิศต้อนรับ คุณพ่อ Marcus Holden และคณะเซอร์ ที่ได้มาเยี่ยมเยียนแผนกฯ คุณพ่อ Marcus Holden ทำงานอยู่ที่ประเทศอังกฤษ และช่วงนี้ท่านได้มาที่ประเทศไทย คณะเซอร์จึงได้พาคุณพ่อมาเยี่ยมและดูงานที่แผนกคำสอน โดยมีคุณพ่อทัศมะ กิจประยูร...
"คุณธรรมของแม่พระ" โรงเรียนราษฎร์บำรุงศิลป์
"คุณธรรมของแม่พระ" วันศุกร์ที่ 23 พฤษภาคม 2025 ทีมคำสอนสัญจร แผนกคริสตศาสนธรรมอัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ ได้รับเชิญให้ไปแบ่งปันและจัดกิจกรรมให้กับนักเรียนโรงเรียนราษฎร์บำรุงศิลป์ ชั้น ป.4 - ม.3 จำนวนกว่า 750 คน ในหัวข้อ "คุณธรรมของแม่พระ" ตั้งแต่เวลา 08.30 -...

คำสอนสำหรับเยาวชน YOUCAT

328. ปัจเจกชนสามารถมีส่วนร่วมในความดีส่วนรวมได้อย่างไร การทำงานเพื่อความดีส่วนรวม หมายถึง การแสดงความรับผิดชอบต่อผู้อื่น (1913-1917, 1926) ความดีส่วนรวมต้องเป็นภาระหน้าที่ของทุกคน สิ่งนี้เกิดขึ้นประการแรกเมื่อมนุษย์เข้าไปเกี่ยวข้องโดยเฉพาะอย่างยิ่งพื้นที่โดยรอบของพวกเขา เช่น...
327. จะส่งเสริมความดีส่วนรวมได้อย่างไร การดำเนินตามความดีส่วนรวมคือ ที่ใดก็ตามที่สิทธิขั้นพื้นฐานของบุคคลได้รับการเคารพ และมนุษย์สามารถพัฒนาสติปัญญาและศักยภาพทางศาสนาของพวกเขา ความดีส่วนรวมยังหมายความว่ามนุษย์สามารถมีชีวิตอยู่ในสังคมได้อย่างมีอิสรภาพ มีความสงบสุข และความปลอดภัย ในยุคโลกาภิวัตร ความดีส่วนรวมต้องเรียนรู้ที่จะมองปัญหาจากทั่วโลกและยอมรับสิทธิและหน้าที่ของมวลมนุษยชาติ...

กิจกรรมพระคัมภีร์

คำถามที่เด็กๆ อยากรู้เกี่ยวกับพระเจ้า

ชื่อและภาพของพระศาสนจักร
CCC for Kids (คำสอนพระศาสนจักรคาทอลิกสำหรับเด็ก) # วันที่ 90 # วรรค 1 พระศาสนจักรในแผนการของพระเจ้า I. ชื่อและภาพของพระศาสนจักร (751-757) พระศาสนจักรเป็นคำที่มีความหมายพิเศษมากๆ...
ข้าพเจ้าเชื่อพระศาสนจักรศักดิ์สิทธิ์สากล
CCC for Kids (คำสอนพระศาสนจักรคาทอลิกสำหรับเด็ก) # วันที่ 89 # ตอนที่ 9 “ข้าพเจ้าเชื่อพระศาสนจักรศักดิ์สิทธิ์สากล” (748-750) เรื่องนี้พูดถึงความเชื่อเกี่ยวกับพระศาสนจักร ซึ่งเป็นชุมชนของคริสตชน โดยเปรียบเทียบพระศาสนจักรเหมือนดวงจันทร์ที่สะท้อนแสงจากดวงอาทิตย์...

ประวัตินักบุญ

31 พฤษภาคม ฉลองพระนางมารีย์เสด็จเยี่ยมเยียน
31 พฤษภาคม ฉลองพระนางมารีย์เสด็จเยี่ยมเยียน (Visitation of the Blessed Virgin Mary, feast) วันฉลองนี้ ระลึกถึงการเสด็จเยี่ยมของพระนางมารีย์พรหมจารี ผู้ทรงครรภ์พระกุมารน้อยเยซู เสด็จเยี่ยมญาติของเธอ นางเอลีซาเบธ ซึ่งตั้งครรภ์...
13 พฤษภาคม พระนางมารีย์พรหมจารีแห่งฟาติมา
13 พฤษภาคม พระนางมารีย์พรหมจารีแห่งฟาติมา (Our Lady of Fatima) เมื่อวันที่ 13 พฤษภาคม ค.ศ.1917 ซึ่งอยู่ในช่วงปีที่ 3 ของสงครามโลกครั้งที่ 1 (ซึ่งสงครามโลกครั้งนี้คร่าชีวิตผู้คนไปถึงแปดล้านคน)...

E-Book แผนกคริสตศาสนธรรม อัคสังฆมณฑลกรุงเทพฯ

Don't be afraid

Facebook CCBKK

CCBKK Channel

youtube1

Kamson TikTok

tiktok

พระคัมภีร์คาทอลิก

WOPTMR80W7YC0H90QTK7LZC1E1L2WM

บทเพลงศักดิ์สิทธิ์

angels-5b

บทอ่านและบทมิสซา

ordomissae

วันละหนึ่งนาทีกับนักบุญโยเซฟ

St.Joseph 2021

คำสอนพระศาสนจักรคาทอลิก

ccc thai web

คู่มือแนะแนวในการสอนคำสอน

ปก คู่มือแนะแนว

คู่มือเตรียมรับศีลมหาสนิท แบบที่ 1-2

ปก แบบที่ 2 01

ครอบครัว บ่อเกิดแห่งความเชื่อ

F cover fmaily

สถิติเยี่ยมชม (22-2-2012)

วันนี้
เมื่อวานนี้
สัปดาห์นี้
เดือนนี้
เดือนที่แล้ว
ทั้งหมด
42185
45794
233290
863923
944464
43316237
Your IP: 13.59.55.237
2025-05-31 20:35

สถานะการเยี่ยมชม

มี 718 ผู้มาเยือน และ ไม่มีสมาชิกออนไลน์ ออนไลน์