บทที่ 9 คุณลักษณะของการภาวนาที่แท้จริง
พระเยซูเจ้าพระอาจารย์ของเราทรงภาวนาบ่อยๆ ในฐานะที่เป็นพระเป็นเจ้า พระองค์ไม่จำเป็นจะต้องภาวนา เพราะพระองค์ทรงฤทธิ์ทุกประการ แต่ในฐานะที่เป็นมนุษย์ พระองค์มีพระประสงค์จะภาวนาเพื่อเรา พระองค์ได้ทรงบังเกิดเป็นมนุษย์ก็เพื่อจะได้กอบกู้เรา ให้พ้นจากการเป็นทาสของปีศาจ และนำเรากลับไปหาพระบิดาเจ้าสวรรค์ ตั้งแต่ทรงสมภพจนสิ้นพระชนม์บนไม้กางเขน พระองค์ได้ทรงใช้ธรรมชาติมนุษย์ของพระองค์เพื่อไถ่กู้มนุษยชาติ การภาวนาเป็นวิธีหนึ่งที่พระองค์ได้ทรงใช้เพื่อระงับดับพระพิโรธของพระบิดาเจ้า และเพื่อให้พระองค์ทรงโปรดปรานและประทานพระหรรษทานให้แก่มนุษยชาติ สาเหตุประการที่สองที่พระองค์ภาวนาก็คือ เพื่อจะได้วางแบบฉบับให้แก่เรา เพราะเราจำเป็นต้องภาวนาถึงพระเป็นเจ้าเพื่อนมัสการ สรรเสริญ ขอบพระคุณ ขอสมาโทษ และขอพระหรรษทานที่เราต้องการจากพระองค์ ตัวอย่างอันดีงามของพระองค์บังเกิดผล เพราะเมื่อบรรดาสานุศิษย์ได้สังเกตว่า พระองค์ได้ทรงภาวนาด้วยความเลื่อมใสศรัทธาและร้อนรน พวกเขาก็อยากเอาแบบฉบับของพระองค์ และได้ขอให้พระองค์ทรงสอนให้พวกเขาภาวนา พระองค์จึงได้ทรงสอนให้เขาภาวนาบท “ข้าแต่พระบิดาของข้าพเจ้าทั้งหลาย”
มิใช่แต่แบบฉบับแห่งการภาวนาและบทภาวนาที่พระองค์ได้ทรงแต่งไว้เพื่อให้พวกเขารู้จักภาวนาเท่านั้น พระองค์ยังได้สอนพวกเขามากมายเกี่ยวกับการภาวนา เป็นต้นคุณลักษณะต่างๆ ที่จำเป็นของคำภาวนา อุปมาทั้งสี่เรื่องนี้เป็นพระองค์เองที่ได้ตรัสสอนเพื่อให้เรารู้จักภาวนา อุปมาเรื่องบิดากับบุตร ต้องการสอนเราว่า เราจำจะต้องมีความไว้วางใจในฐานะเป็นบุคคลต่อพระเป็นเจ้า ส่วนเรื่องที่สอง พระองค์ทรงสอนให้เราภาวนาด้วยความพากเพียรโดยไม่หยุดหย่อน แม้ว่าดูเหมือนว่าพระเป็นเจ้าจะไม่ทรงใยดีกับคำภาวนาของเรา เมื่อเราวิงวอนขอความช่วยเหลือทั้งฝ่ายกายหรือฝ่ายวิญญาณก็ตาม และในอุปมาเรื่องต่อไป พระองค์ยังได้ทรงสอนเราว่า เราจะต้องภาวนาให้ทุกๆ คน แม้เขาจะเป็นศัตรูของเราก็ตาม