เทศกาลปัสกา
ในเทศกาลนี้ เราฉลองการกลับคืนชีพของพระเยซู ซึ่งเป็นจุดกลางและหัวข้อสำคัญที่สุดแห่งความเชื่อของคริสตชน พิธีสำคัญพิธีหนึ่งที่เราทำกันในคืนก่อนวันปัสกา คือ การโปรดศีลล้างบาปให้แก่คริสตชนใหม่ และเป็นการรื้อฟื้นการปฏิญาณแห่งศีลล้างบาปของเราพวกเราส่วนมากได้รับศีลล้างบาปเวลาที่ยังเป็นเด็ก ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ยังไม่รู้ตัว และโดยไม่มีส่วนตั้งใจที่จะเลือกพระเยซูเป็นพระเจ้าของเรา ดังนั้น จึงเป็นของธรรมดาเมื่อเวลาเราเป็นผู้ใหญ่ก็อาจจะคิดว่า “ทำไมฉันจึงเป็นคริสตชน และทำไมฉันจึงต้องเลือกแนวทางดำเนินชีวิตแบบพระเยซู” คืนวันปัสกานี้เป็นโอกาสดีที่สุดที่จะรื้อฟื้นความเชื่อของเราใหม่ในพระเยซู และปฏิญาณว่าเราจะร่วมกับพระองค์ในการดำเนินชีวิตตามแบบฉบับของพระวรสาร
คำว่า “ปัสกา” ในภาษาไทยทับศัพท์ภาษาฮีบรู “PESACH” ซึ่งเป็นเทศกาลของชาวฮีบรูที่จะระลึกถึงเวลาที่พระเจ้าได้กอบกู้เขาจากสภาพการเป็นทาส และพาเขาจากอียิปต์ไปสู่แผ่นดินใหม่ พระเยซูได้สิ้นพระชนม์ในตอนบ่ายวันศุกร์ก่อนที่จะฉลองวันปัสกาของชาวยิวหนึ่งวัน และกลับคืนชีพในวันอาทิตย์วันแรกของสัปดาห์ เป็นการเปิดยุคใหม่สำหรับมนุษย์ทุกคน และเป็นการแสดงว่า พระเยซู เป็นผู้นำของ “มนุษย์ใหม่” ชาวยิวยังฉลองวันปัสการะลึกถึงเหตุการณ์ที่ได้เกิดขึ้นที่อียิปต์เมื่อสามพันกว่าปีแล้ว และกำลังรอคอยพระเมสสิยาห์อยู่ สำหรับเราคริสตชน พระเยซูเป็นพระคริสต์ พระบุตรของพระเจ้าผู้กอบกู้เรา เป็นจุดหมายปลายทางแห่งวิวัฒนาการของมนุษย์ชาติ
เทศกาลปัสกานี้เริ่มตั้งแต่วันอาทิตย์ปัสกาถึงวันสมโภชพระจิตเจ้า ซึ่งเป็น 7 อาทิตย์หลังวันอาทิตย์ปัสกาพอดี วันสมโภชพระจิตเจ้านี้ ในภาษาโบราณเรียกว่า วันเปนเตกอสเต ซึ่งเป็นคำภาษากรีกแปลว่า “ที่ห้าสิบ” เพราะเป็นวันฉลองของชาวยิวอีกวันหนึ่งหลังวันปัสกา 50 วัน ในโอกาสนี้ เขาถวายผลแรกของฤดูเก็บเกี่ยวข้าวแก่พระเจ้าเพื่อขอบพระคุณพระเจ้า เพราะแผ่นดินที่พระองค์ทรงมอบให้แก่พวกเขาตามที่พระองค์ได้ทรงสัญญาไว้ ตามที่ลูกาเล่าในหนังสือ กิจการอัครสาวกนั้น เป็นวันนั้นเองที่พระจิตเจ้าได้เสด็จลงมาเหนืออัครสาวก (กจ 2 : 1) ประทานสติปัญญาให้เข้าใจเรื่องราวของพระเยซูเจ้า และประทานกำลังใจเพื่อเขาจะได้กล้าเป็นประจักษ์พยานประกาศข่าวดีถึงพระองค์ วันสมโภชพระจิตเจ้าเป็นวันสุดท้ายของเทศกาลมหาพรตและปัสกานี้
วันอาทิตย์ทุกสัปดาห์เป็นวันที่เราระลึกถึงการกลับคืนชีพของพระเยซู เช่นนี้จึงเป็นวันระลึกถึงวันปัสกา วันอาทิตย์จึงเป็นโอกาสที่ดีที่สุดที่เราจะฟื้นฟูความสัมพันธ์กับพระเยซูผู้ทรงชีวิตและกับพี่น้อง เพื่อเราจะได้เป็นพยานถึงพระองค์ด้วยความรัก การเสียสละ และความรับผิดชอบต่อสังคมในชีวิตประจำวันของเรา ทั้งด้วยคำพูดและด้วยการกระทำ โดยนัยนี้เองที่การฉลองเทศกาลมหาพรตและเทศกาลปัสกาจะมีความหมายในชีวิตของเราอย่างแท้จริง
หนังสือ ปัสกากับคริสตชน
บาทหลวง มิเกล กาไรซาบาล, SJ.