คริสตชนกับการฉลองปัสกา
เดินรูป 14 ภาค
เทศกาลมหาพรต เป็นเทศกาลที่พวกเราคริสตชนจะต้องเอาใจใส่พระวาจาของพระเป็นเจ้า และอุทิศตนเองเพื่อการอธิษฐานภาวนาบำเพ็ญกิจเมตตาปรานีต่อเพื่อนมนุษย์ เพื่อเตรียมสมโภชปัสกาที่พระเยซูเจ้าผู้ทรงรับทรมาน สิ้นพระชนม์และกลับคืนชีพ
พูดถึงการอุทิศตนเพื่อการรำพึงภาวนา คริสตชนสามารถปฏิบัติได้หลายวิธี เป็นต้น ทางกางเขน (Way of the Cross) ที่ชาวบ้านเรียกกันว่า ”เดินรูป 14 ภาค” หรือ “มรรคาศักดิ์สิทธิ์” ซึ่งเรากระทำกันในวันศุกร์ระหว่างเทศกาลมหาพรต
คริสตชนสมัยแรกๆ นิยมการเดินรูป 14 ภาค เข้าใจว่าธรรมเนียมนี้เกิดจากการพยายามเลียนแบบแม่พระที่เดินทางไปเยี่ยมสถานที่ศักดิ์สิทธิ์บ่อยๆ หลังจากที่พระเยซูเจ้าเสด็จขึ้นสวรรค์ (ตามคำบอกเล่าของนักบุญบริจิต ที่ได้รับการไขแสดง) คริสตชนพวกนี้นิยมจาริกแสวงบุญไปตามสถานที่สำคัญต่าง ๆที่มีความสัมพันธ์ในชีวิตของพระเยซูเจ้า เช่น สวนเกทเสมนี สถานที่ตัดสินพระเยซูเจ้า ฯลฯ
เมื่อคริสตชนจำนวนมากได้ไปเยี่ยมนครศักดิ์สิทธิ์ (กรุงเยรูซาเล็ม) และเดินตามสถานที่ต่างๆ ก็ได้มีการเขียนบันทึกประสบการณ์ และไม่ช้าก็กลายเป็นประเพณีศักดิ์สิทธิ์ที่มีพระคริสตเจ้าเป็นศูนย์กลาง ต่อมามีการกำหนดเส้นทางการเดินตามสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ต่างๆ ที่มีความสัมพันธ์กับเหตุการณ์พระมหาทรมานของพระเยซูเจ้าที่จารึกไว้ในพระคัมภีร์ นอกจากนี้ พวกเขาปรารถนาที่จะระลึกถึงชีวิตทั้งครบของพระเยซูเจ้ารวมทั้งคำสั่งสอนของพระองค์
ในระหว่างสงครามครูเสด (Crusade) การเดินทางไปแผ่นดินศักดิ์สิทธิ์เป็นสิ่งอันตราย ทั้งนี้เนื่องมาจากภาวะสงครามในสมัยกลางระหว่างศตวรรษที่ 12-13 คริสตชนในยุโรปมีความศรัทธาต่อพระมหาทรมานของพระเยซูเจ้ามาก โดยเฉพาะพวกทหารผ่านศึกในสงครามครูเสดได้สร้างแบบจำลองสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่ตนได้เคยเห็นมาไว้ในบ้านของตน ในปี 1342 คณะฟรังซิสกันได้รับหน้าที่ให้ดูแลสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ในกรุงเยรูซาเล็ม ซึ่งพวกท่านถือเป็นเกียรติและหน้าที่ที่จะเผยแพร่ความศรัทธาต่อพระมหาทรมานของพระเยซูเจ้า โดยเริ่มครั้งแรกในอารามก่อน และคริสตชนก็สามารถเข้าร่วมพิธีเดินรูป 14 ภาคโดยไม่ต้องคำนึงถึงสถานะทางการเมืองในขณะนั้น
การแพร่หลายของพิธีเดินรูป 14 ภาคเกิดจากสาเหตุสำคัญ 2 ประการ คือ นักบุญเลียวนาร์ดแห่งปอร์ตมอริส ได้อุทิศชีวิตของตนเพื่อการสอนและการเดินรูป 14 ภาค ประการที่สอง สมเด็จพระสันตะปาปาได้ประกาศประทานพระคุณการุณย์แก่ผู้เข้าในพิธีเดินรูป 14 ภาค เป็นต้นปี 1731 พระสันตะปาปาเคลเมนต์ที่ 12 ทรงประกาศสนับสนุนมรรคาศักดิ์สิทธิ์ หรือ การเดินรูป 14 ภาค จึงเป็นกิจศรัทธาที่ได้รับพระคุณการุณย์อย่างมากมาย เป็นที่สังเกตว่า การเดินรูปนี้เป็นการรำพึงไปตามสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ต่างๆ ซึ่งต่อมาก็มีการใช้รูปภาพหรือรูปปั้น และที่สำคัญทุกรูปจะมีกางเขนเป็นส่วนประกอบสำคัญ ซึ่งอาจะสันนิษฐานได้ว่า ในกรุงเยรูซาเล็ม สถานที่สำคัญต่างๆ มีกางเขนเป็นเครื่องหมาย อีกประการหนึ่ง “มรรคาศักดิ์สิทธิ์” หรือ “ทางกางเขน” ปัจจุบันมักเพิ่มสถานที่ 15 พระเยซูทรงกลับคืนพระชนม์เข้าไปด้วย เพื่อทำให้เราเข้าใจปัสกาของพระเยซูเจ้าสมบูรณ์มากยิ่งขึ้น
นอกจากนี้ ทางกางเขน คือ การเดินจากสถานที่หนึ่งไปยังอีกสถานที่หนึ่ง มิใช่การนั่งและรำพึงอยู่กับที่ ยกเว้นผู้ที่ไม่สบายหรือมีปัญหาด้านสุขภาพ หรือ มีผู้เข้าร่วมมากจนไม่อาจเคลื่อนที่ได้โดยสะดวก อาศัยการรำพึงภาวนา “ทางกางเขน” หรือ พระมหาทรมานของพระเยซูเจ้าในระหว่างเทศกาลมหาพรตนี้ น่าจะช่วยให้เราเข้าใจ “ความจริงแห่งชีวิต” ของเรามากขึ้น
“จงละทิ้งบาปทั้งปวงที่เจ้าได้กระทำต่อเราเสีย จงเปลี่ยนแปลงนิสัยและแก้ไขจิตใจเสียใหม่”
หนังสือ ปัสกากับคริสตชน
บาทหลวง มิเกล กาไรซาบาล, SJ.