16 กรกฏาคม แม่พระ แห่งภูเขาคาร์แมล
พระคัมภีร์ได้ขับร้องชมความสวยงามของภูเขาคาร์แมล และบนภูเขาคาร์แมลนี้เองที่ท่านประกาศกเอลียาห์ได้ป้องกันความเชื่อในพระเจ้าผู้ทรงชีวิตของชนชาติอิสราแอล
ในศตวรรษที่ 12 มีฤาษีบางรูปได้มาจำศีลภาวนาบนภูเขานี้และเป็นพวกฤาษีนี้เองที่คงจะได้ตั้งคณะคาร์เมไลท์ซึ่งมีจุดประสงค์ในการเพ่งฌานและให้อยู่ภายใต้ความอุปถัมภ์ของพระนางมารีย์ พระมารดาพระเจ้า
อย่างไรก็ตามการฉลองในวันนี้ตามที่มีการบันทึกไว้ในคณะคาร์เมไลท์ เตือนเราให้ระลึกถึงวัน ที่อธิการใหญ่คนแรกของคณะ คือนักบุญซีมอน สต๊อก ได้รับ “สายแทนจำพวก” พร้อมกับคำมั่นสัญญาที่จะได้รับความรอดนิรันดร์ จากพระหัตถ์ของพระมารดาเอง
พระนางมารีย์ผู้ปฏิสนธิอันนิรมลที่ได้ประจักษ์มาที่ลูร์ดก็ได้ทรงเลือกเอาวันที่ 16 กรกฎาคมเป็นวันสุดท้ายที่จะกล่าวอำลา (นักบุญ) แบร์นาแด๊ท
พระนางมารีย์ทรงเป็นอุดมการณ์อันบริสุทธิ์ที่สุดของชีวิตนักบวช
นักบุญ ซีโมน สต็อค ภาพสื่อถึงท่าน : พระคาเมไลท์ถือสายจำพวก, พระคาเมไลท์ ได้รับเสื้อจำพวกจากแม่พระ, พระคาเมไลท์กำลังสวดภาวนา ให้ดวงวิญญาณในไฟชำระที่โอบล้อม, ผู้อาวุโสในเครื่องแบบพระคาเมไลท์ กำลังทำวัตรสวดภาวนา
เสื้อจำพวกแม่พระคาร์เมล
เสื้อจำพวก คือเสื้อของคณะนักบวช ในอดีตเรียกว่า จำพวกนักบวช ต่อมาย่อขนาดให้เล็กลง สำหรับฆราวาสใช้ เสื้อจำพวกนี้ที่จริงมิใช่เครื่องแบบของนักบวช แต่เป็นส่วนหนึ่งของเครื่องแบบ คือส่วนที่สวมทับลงบนเครื่องแบบของนักบวชขณะที่ทำงาน จะเรียกว่าเสื้อกันเปี้อนคงไม่ผิด รูปร่างเป็นผ้าแคบๆ กว้างขนาดไหล่และยาวเกือบถึงพื้น มีช่องกลมตรงกลางสำหรับสวมลงทางศีรษะ และปล่อยชายทั้งสองให้ตกไปข้างหน้าและข้างหลัง คล้ายกับชุดซิสเตอร์ที่อารามคาร์เมลสวมเวลาเข้าโบสถ์
คาร์เมลเป็นชื่อภูเขาเล็กๆ ริมทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ตอนกลางของประเทศอิสราเอล ระหว่างนาซาเร็ธที่อยู่ทางเหนือและเยรูซาเลมที่ทางใต้ ภูเขาคาร์เมลมีชื่อเสียงมานานตั้งแต่สมัยพระคัมภีร์ภาคพันธสัญญาเดิมแล้ว เพราะเป็นที่พำนักของท่านประกาศกเอลียาห์ และทุกวันนี้ยังมีถ้ำเก่าแก่เล็กๆ บนภูเขาคาร์เมลนี้ ซึ่งสันนิษฐานว่าเป็นที่อยู่ของประกาศกเอลียาห์ในสมัยกระโน้น และมีอารามนักบวชคาร์เมลทั้งชายและหญิงใกล้ๆ กับถ้ำนี้ด้วย
ในศตวรรษที่ 13 มีการเริ่มตั้งคณะชั้นสามของคณะฤษีต่างๆ พวกที่อยู่ในคณะนี้คือฆราวาสที่เสื่อมใสในคณะฤษีคณะใดคณะหนึ่ง จึงมารวมกันภายใต้การดูแลขอฤษี มีระเบียบวินัยที่ไม่ขัดกับการเจริญชีวิตของฆราวาส และฤษีก็มักจะอนุญาตให้ฆราวาสพวกนี้สวมเสื้อแบบของคณะของตน แต่เป็นแบบที่ย่อที่สุดจากเสื้อทำงานหรือเสื้อกันเปื้อน โดยทำเป็นแผ่นสี่เหลี่ยม 2 แผ่นต่อกันด้วยเชือก สำหรับสวมเข้าทางศรีษะและปล่อยให้ห้อยลงมา ข้างหน้าแผ่นหนึ่ง ข้างหลังอีกแผ่นหนึ่ง ใช้ผ้าสีเดียวกันกับเสื้อของฤาษี
ในศตวรรษที่ 16 เสื้อจำพวกของคณะชั้นสามของคาร์เมลนี้ลดขนาดลงมาอีก จนเหลือเป็นผ้าเล็กๆ 2 แผ่น มีเนื้อที่ประมาณ 2 ตารางนิ้ว มีเชือกต่อให้ติดกัน สำหรับคล้องทางศรีษะได้ แต่เนื่องด้วยการใช้เสื้อจำพวกไม่สะดวกแม้จะเป็นแบบย่อให้เล็กลงแล้วก็ตาม เพราะติดเหงื่อไคลทำให้ดูไม่สะอาด เมื่อวันที่ 16 ธันวาคม 1910 พระสันตะปาปาจึงทรงอนุญาตให้ใช้เหรียญจำพวกแทนเสื้อจำพวกได้ โดยมีเงื่อนไขว่าเหรียญนั้นด้านหนึ่งเป็นรูปแม่พระ และเหรียญแทนจำพวกนี้เหรียญเดียว ใช้แทนเสื้อจำพวกของหลายคณะได้ เพราะเหรียญแทนจำพวกนี้จะต้องได้รับการเสกเหมือนกับเสื้อแทนจำพวกด้วย
การสวมเสื้อแทนจำพวกเป็นเครื่องหมายว่า ได้รับเข้าเป็นส่วนหนึ่งของคณะฤษีหรือนักบวช ทำให้ผู้สวมได้มีส่วนแบ่งในคำภาวนา, กิจกรรมต่างๆ ตลอดจนจิตตารมณ์ของคณะ ตามหลักของสหพันธ์นักบุญ และมีการรับรองเป็นทางการจากพระศาสนจักรด้วย จึงเป็นที่นิยมกันทั่วไปอย่างรวดเร็ว
ในศตวรรษที่ 14 ยอห์น ไวคลิฟ ตำหนิพวกฤษีบางท่านที่โฆษณาอ้างว่า ใครสวมเสื้อของคณะตนแล้วจะไม่มีตกนรก และเรื่องนี้ก็ลามไปถึงเสื้อจำพวก ของฆราวาสด้วย และเป็นต้นเสื้อแทนจำพวกของคณะคาร์เมล ทั้งนี้เพราะมีเรื่องเล่าว่า เมื่อ ค.ศ. 1251 แม่พระได้ทรงประจักษ์แก่นักบุญซีมอน สต็อก ฤษีคณะคาร์เมลชาวอังกฤษ และสัญญาว่า ผู้ถือเสื้อแทนจำพวกนี้จนวันตายจะไม่ตกนรก และในวันเสาร์แรกนับจากวันตาย แม่พระจะนำเขาเข้าสวรรค์. ความจริงเรื่องนี้เป็นเรื่องถกเถียงกันว่าจะเป็นเรื่องที่แท้จริงหรือแต่งขึ้นภายหลั ง เพราะดูเหมือนว่าฤษีคณะคาร์เมลจะไม่รู้เรื่องนี้เลย ในศตวรรษที่ 13 เพราะไม่ปรากฏอยู่ในเอกสารของคณะเลย
เกี่ยวกับคำสัญญาของแม่พระ เราก็น่าจะศึกษาพิจารณาตามหลักแห่งความเชื่อ ที่ว่า แม่พระพูดถึงเรื่องสวมเสื้อจำพวกนี้ ก็ต้องเข้าใจให้ดีว่าไม่ใช่สวมเฉยๆ เหมือนเราสวมเสื้อผ้าธรรมดา โดยไม่คำนึงถึงความประพฤติของบุคคลที่สวมนั้น หากคิดเช่นนี้ก็เหมือนเครื่องลาง ซึ่งเป็นสิ่งต้องห้ามสำหรับคริสตชน การที่คนใช้เสื้อแทนจำพวกพ้นจากนรกนั้น ขึ้นอยู่กับความประพฤติของเขาต่างหาก เสื้อจำพวกเป็นเพียงเครื่องแสดงภายนอกเท่านั้น
ส่วนการช่วยให้ขึ้นสวรรค์ในวันเสาร์แรกนั้น เป็นการอ้างถึงเอกสารของพระสันตะปาปายวงที่ 22 ซึ่งในปัจจุบันนักศึกษาเทวศาสตร์ถือว่าเป็นของปลอม ชาวคาทอลิกเชื่อว่า แม่พระผู้มีพระทัยเมตตาเยี่ยงมารดา จะยินดีช่วยวิญญาณซึ่งเคยเป็นข้ารับใช้ผู้ซื่อสัตย์ขณะชีวิตอยู่ในโลกนี้ ให้เขาขึ้นสวรรค์ในวันเสาร์แรกก็ได้ เพราะวันเสาร์เป็นวันที่เราชาวคริสตชนถวายแด่แม่พระเป็นพิเศษ
จาก...พลมารีสาร กรกฎาคม'93 ( เว็บไซต์ www.newmana.com )