หอบาเบล
ปฐม 11:1-9
ตั้งแต่อาทิตย์ที่ผ่านมาจนถึงวันนี้ เราฟังเรื่องราวจากปฐมกาลมา 4 เรื่องแล้ว คือ เรื่องของอาดัมกับเอวา คาอินกับอาแบล โนอาห์ และหลังสุด คือเรื่องของหอบาเบล ทั้ง 4 เรื่องล้วนเกี่ยวกับบาปของมนุษย์
แน่นอนที่ว่าพระเจ้าทรงลงโทษมนุษย์เพราะบาป แต่ขณะที่ทรงลงโทษก็ประทานพระคุณและพระพรแก่มนุษย์ด้วย เห็นได้จากเมื่อทรงลงโทษอาดัมกับเอวาก็ประทานหนังสัตว์ปกปิดร่างกายเปลือยเปล่าของพวกเขา เมื่อทรงลงโทษคาอินหลังจากเขาฆ่าอาแบลก็ทรงทำเครื่องหมายคาอินเพื่อไม่ให้ใครฆ่า ต่อมาเมื่อโลกเต็มด้วยบาปและทรงทำให้ฝนตกทำลายล้างมนุษยชาติ ก็ทรงคุ้มครองโนอาห์กับครอบครัวไว้ ทำให้มนุษยชาติรอดพ้นจากการถูกทำลาย สืบทอดเผ่าพันธุ์ต่อไปได้อีก แต่สำหรับเรื่องของหอบาเบล หลังจากพระเจ้าทรงลงโทษมนุษย์ให้กระจัดกระจายไปด้วยภาษาต่างๆ กัน เราไม่เห็นว่าพระเจ้าทรงทำอะไรที่เป็นคุณต่อมนุษย์ในตอนนั้นเลย กว่าจะทรงให้มนุษย์รอดพ้นจากบาปของหอบาเบล มนุษย์ต้องรอคอยเป็นเวลานานมาก นั่นคือต้องรอคอยจนถึงวันสมโภชพระจิตเจ้านั้นเอง
หลังจากพบพระเยซูผู้ทรงกลับคืนชีพและได้รับพระจิตเจ้าเต็มเปี่ยมแล้ว บรรดาอัครสาวกจึงเริ่มพูดภาษาตามที่พระจิตเจ้าประทาน ในที่ที่พวกเขารวมตัวกันอยู่นั้นมีคนมากมายหลายประเทศต่างๆ กันแต่ละคนต่างก็ได้ยินภาษาของตนเอง วันสมโภชพระจิตเจ้านั้นเองคือวันที่พระเจ้าทรงช่วยมนุษย์ให้รอดพ้นจากบาปของหอบาเบล อำนาจของพระจิตเจ้าทำให้คนที่พูดภาษาต่างๆ มีจิตใจเป็นหนึ่งเดียวกัน
อันที่จริงภาษาเป็นเพียงวิธีการสื่อสารอย่างหนึ่งเท่านั้น ภาษาพูดเพียงอย่างเดียวไม่สามารถถ่ายทอดความรู้สึกของแม่ที่มีต่อลูกให้ครบบริบูรณ์ได้ แม่ที่อยากให้รู้สึกถึงความรักของตนเองอย่างสมบูรณ์ต้องให้ความอบอุ่น ต้องกอด ต้องอุ้ม ต้องยิ้มกับลูกด้วย ไม่ใช่แค่พูดว่ารักลูกเท่านั้น
คนที่เคยร่วมพิธีมิสซาในต่างประเทศ แม้ว่าเขาจะไม่เข้าใจภาษาของประเทศนั้นเลย เขายังสัมผัสได้ถึงความยินดีของพระจิตเจ้า เช่นเดียวกันกับคนต่างประเทศที่มาเมืองไทยแม้ว่าจะไม่รู้ไม่เข้าใจภาษาไทยเลย เมื่อร่วมพิธีมิสซาเขาก็สามารถรับความยินดีของพระจิตเจ้าได้ เพราะในที่ประชุมนั้นเต็มไปด้วยฤทธิ์อำนาจของพระจิตเจ้า
การถ่ายทอดความเชื่อ ความรักและพันธกิจเป็นกิจการและฤทธิ์อำนาจของพระจิตเจ้า ภาษาของมนุษย์ไม่เพียงพอที่จะถ่ายทอดเรื่องเหล่านี้ให้สมบูรณ์ได้ นอกจากนี้ภาษามนุษย์ ก็ไม่สามารถถ่ายทอดพระวาจาหรือข่าวดีของพระเจ้าให้ครบบริบูรณ์ได้เช่นกัน ดังนั้นถ้าเราทำ พันธกิจด้วยกิจการ หรือภาษาของมนุษย์ โดยปราศจากกิจการของพระจิตเจ้าแล้วแน่นอนว่ามนุษย์เราจะสับสนวุ่นวาย อาจเกิดความเข้าใจผิด ความอิจฉาริษยา และการต่อสู้กันได้ดังที่เกิดมาแล้วกับหอบาเบล ดังนั้นไม่ว่าเราจะทำอะไรก็ตามต้องไม่ลืมที่จะมอบสิ่งไว้ในฤทธิ์อำนาจของพระจิตเจ้า