แผนกคริสตศาสนธรรม อัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ

CATECHETICAL CENTER OF BANGKOK ARCHDIOCESE

thzh-CNenfritjako

การทดสอบของพระเยซูเจ้า  
มาระโก 8:27-33
    เราอาจพูดได้ว่าพระเยซูเจ้าทรงทดสอบเปโตรสองครั้งด้วยกัน ครั้งแรกคือเมื่อทรงถาม เปโตรว่า “ท่านละว่าเราเป็นใคร”   และเปโตรตอบพระองค์ว่า  “พระองค์คือพระคริสตเจ้า”  คำว่าคริสต์มาจากภาษากรีกหมายถึงผู้ที่บรรดาประกาศกได้ประกาศไว้ว่าจะได้รับการเจิมตั้งให้เป็นพระผู้ช่วยเสร็จมาช่วยเหลือคนอิสราเอล  และต่อมาหลังจากทรงกลับคืนชีพพระเยซูทรงถามเปโตรว่า “ท่านรักเราไหม”  ซึ่งเปโตรก็ตอบว่า  “ใช่แล้ว พระเจ้าข้า  พระองค์ทรงทราบว่าข้าพเจ้ารักพระองค์”

    คำถามทั้งสองเป็นคำถามเพื่อทดสอบถึงความเชื่อและความรักที่เปโตรพึงมีต่อองค์พระผู้ช่วยในฐานะสาวกของพระองค์  พระเยซูจะทรงทดสอบเราว่า “ท่านเชื่อและรักพระเยซูหรือไม่”  เช่นนี้ตลอดนิรันดรด้วยเช่นเดียวกัน  และเราก็ต้องสนองตอบการทรงนำของพระจิตเจ้าด้วยท่าทีอย่างเดียวกับเปโตร
    ความจริงแล้วสำหรับเปโตรพระผู้ช่วยคือพระผู้ที่เต็มด้วยพระสิริมงคล  เปโตรไม่สามารถยอมให้พระผู้ช่วยทรงถูกทุบตีทรมานได้เขาอาจจะกลัวว่าถ้าเป็นเช่นนั้นการติดตามพระเยซูก็เปล่าประโยชน์  เขาจึงทัดทานพระองค์ไม่ให้เสด็จไปกรุงเยรูซาเล็ม  พระเยซูทรงตำหนิ     เปโตรและตรัสว่า “เจ้าซาตานถอยไปข้างหลัง  อย่างขัดขวาง  เจ้าไม่คิดอย่างพระเจ้าแต่คิดอย่างมนุษย์”  ความจริงพระเยซูเคยทรงใช้คำทำนองนี้ว่า  “เจ้าซาตานถอยไปข้างหลัง”  เมื่อทรงรับการทดลองจากซาตานมาแล้ว  เวลานั้นทรงตอบมารว่า  “จงกราบนมัสการองค์พระผู้เป็นเจ้าของท่าน  และรับใช้พระองค์แต่เพียงผู้เดียวเท่านั้น”  (มธ. 4:10)
    ซานตานอาจหมายถึงการแสวงหาผลประโยชน์เพื่อตัวเอง  การทรงใช้คำพูดว่า “เจ้าซาตานจงไปให้พ้น”  และ  “จงกราบนมัสการ...พระองค์แต่เพียงผู้เดียว” หมายความว่าชีวิตเรารับใช้พระเจ้าเท่านั้น  ไม่ใช่ตัวเองหรือใครๆ  บรรดาศิษย์ของพระเยซูเองเคยคิดว่าการติดตามพระเยซูเจ้าจะทำให้เขาเป็นคำสำคัญยิ่งใหญ่  ความคิดแบบนี้เป็นการยกตัวเองให้เท่าเทียมพระเจ้า  เป็นการกระทำเพื่อแสวงหาประโยชน์ให้ตนเอง  เป็นซาตานอย่างหนึ่งเหมือนกัน
    การที่พรเยซูทรงใช้คำว่าซาตานกับเปโตรศิษย์รักของพระองค์เป็นเรื่องน่าตกใจ น่ากลัว  แต่ทำให้เห็นชัดว่าพระองค์ทรงชิงชังสิ่งที่ขัดขวางพระประสงค์ของพระบิดาที่จะให้พระองค์รับความทุกข์ทรมาน
    สำหรับเราซาตานก็คือการคิดอย่างมนุษย์ การขัดขวางพระประสงค์ของพระเจ้าและท้ายที่สุดคือ  การแสวงหาผลประโยชน์ของตัวเองเท่านั้น  จำได้ว่าเมื่อใดก็ตามที่เรารู้สึกได้ถึงการทดลองให้เราแสวงหาแต่เพียงผลประโยชน์ของตนเอง  เราจำเป็นต้องบอกซาตานในเราว่า    “ซาตานถอยไปข้างหลัง”  เช่นเดียวกัน