แผนกคริสตศาสนธรรม อัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ

CATECHETICAL CENTER OF BANGKOK ARCHDIOCESE

thzh-CNenfritjako
angelทูตสวรรค์ (The Angels)

ทูตสวรรค์อยู่ในเหตุการณ์ที่สำคัญทุกเหตุการณ์
ในชีวิตของพระคริสต์ทั้งยังเป็นเพื่อนและผู้อารักขาของเราด้วย

บนเพดานโค้งๆของวิหารแบบบารอค (ศิลปะในศตวรรษที่ 17) ต่างๆมักจะเต็มไปด้วยชาวเครูบิมพร้อมกับปีกทอง ในสองมิติหรือบ่อยครั้งจะเป็นสามมิติ พวกเขาจะติดตามพระคริสต์ พระมารดาหรือบรรดานักบุญ อยู่ตรงขอบเมฆ แต่ว่าทูตสวรรค์เหล่านี้จะเป็นอะไรมากไปกว่าการประดับประดาที่ชวนศรัทธา สำหรับหลายๆคนในสมัยของเรา พวกท่านเป็นเพียงแต่การแสดงออกมาทางภาพของความศักดิ์สิทธิ์ครบครันที่ไม่อาจเข้าไปถึงได้ หรือเป็นเพียงจินตนาการไม่เป็นจริง หรือพวกท่านเป็นเพียงแต่ชาว “สวรรค์ชั้นเจ็ด” ที่จินตนาการขึ้นมา

แต่ในพิธีกรรมและในพระคัมภีร์พูดถึงทูตสวรรค์เสมอว่า ท่านได้รับมอบหน้าที่ที่ถ่อมตนแต่มีประสิทธิภาพ เป็นผู้มีส่วนร่วมในประวัติศาสตร์แห่งความรอด เป็นผู้ถือสารของพระเจ้าและเป็นเพื่อนของมนุษย์ ในภาษากรีกคำว่าทูตสวรรค์หมายถึง “ทูต” หรือ “ผู้ส่งข่าว” ทูตสวรรค์เป็นพยานถึงความสนพระทัยที่น่ารักของพระเจ้าที่ทรงมีต่อเรามนุษย์ ดังนั้นพวกท่านจึงเป็นทูตสวรรค์ผู้คุ้มครองเรา

ในพระวรสารทูตสวรรค์มักจะปรากฏตัวในช่วงเวลาที่สำคัญของธรรมล้ำลึกของพระเยซูคริสต์ การแจ้งสารคงจะเป็นฉากที่เป็นที่รู้จักกันดีที่สุดซึ่งทูตสวรรค์ได้มีบทบาทที่สำคัญ ในการบังเกิดของพระคริสต์ “ทันใดนั้นก็มีทูตสวรรค์อีกมากมายประจักษ์มาพลางร้องเพลงสรรเสริญพระเจ้า” หลังจาก การถูกผจญในที่เปลี่ยวทูตสวรรค์ “มาปรนนิบัติพระองค์” และในเวลาเข้าตรีทูตที่สวนเกทเสมนี “ทูตสวรรค์องค์หนึ่ง...มาจากสวรรค์” เพื่อบรรเทาใจพระองค์ เช้าตรู่วันปัสกา ทูตสวรรค์สององค์ประกาศว่าพระเยซูได้กลับคืนชีพแก่สตรีใจศรัทธา และเมื่อพระเยซูเสด็จขึ้นสวรรค์พวกท่านก็ปรากฏมาที่นั่นอีกเพื่อให้ความมั่นใจให้แก่บรรดาอัครสาวกกว่าพระองค์จะเสด็จพระองค์จะเสด็จกลับมาอีก

ตามแบบฉบับชีวิตของพระคริสต์ พิธีกรรมทั้งครบนั้นจะมีทูตสวรรค์เข้ามาเกี่ยวข้องด้วยเพราะท่าน เป็นผู้ร้องเพลงสรรเสริญพระเจ้าได้สมบูรณ์แบบบท “สิริโรจนา” ที่เราร้องกันในทุกวันฉลองนั้นเป็นการร่วมเป็นหนึ่งกับกลุ่มทูตสวรรค์นักร้องที่เมืองเบธเลเฮม ในระหว่างมิสซาเราได้รับการเชื้อเชิญให้ร่วมเสียงกับบทเพลงสรรเสริญของพวกท่านว่า “ศักดิ์สิทธิ์ ศักดิ์สิทธิ์ ศักดิ์สิทธิ์” บรรดาทูตสวรรค์เป็นส่วนหนึ่งของ “โลกที่มองไม่เห็น” ซึ่งมีการกล่าวถึงในข้อแรกของบทข้าพเจ้าเชื่อถึงพระเป็นเจ้า

ดังนั้นเราจึงเข้าใกล้ “ภูเขาศิโยนและนครแห่งพระเจ้าทรงชีวิต คือนครเยรูซาเล็มแห่งสวรรค์ซึ่งมีทูตสวรรค์จำนวนเหลือคณานับ” (ฮบ.12:22) เราต้องรักบรรดาทูตสวรรค์ ร้องเพลงสรรเสริญพร้อมกับพวกท่าน และสวดภาวนาถึงพวกท่าน พวกท่านเป็นเพื่อนที่ซื่อสัตย์และมีประสิทธิภาพพร้อมทั้งให้เราเข้าใจตามแบบฉบับของสุนัขจิ้งจอกของแซงต์-เอซุเปรีว่า “สิ่งจำเป็น เป็นสิ่งที่ไม่ปรากฏแก่ตาของเรา”