การภาวนาคืออะไร
- เป็นการยกจิตใจและดวงใจขึ้นหาพระเจ้า หรือเป็นการร้องขอสิ่งที่ดีจากพระเจ้า บ่งบอกถึงความสัมพันธ์ที่แสดงความรักของลูกๆของพระเจ้ากับพระบิดา พระบุตรและพระจิต
เราควรจะสวดภาวนาอย่างไร
- ครั้งหนึ่งบรรดาอัครสาวกเห็นพระเยซูเจ้าสวดภาวนา ก็เลยพูดกับพระองค์ว่า “พระเจ้าข้า โปรดสอนเราให้อธิษฐานภาวนา” (ลูกา 11:1) เช่นเดียวกับบรรดาอัครสาวก เราควรร้องขอเช่นเดียวกัน ให้เราดูว่าพระเจ้าของเราสวดภาวนาอย่างไร
พระเยซูเจ้า และบทภาวนา
- บ่อยครั้งที่พระเยซูเจ้าแยกตัวออกไปเพื่อสวดภาวนาในความเงียบสงบ บนภูเขา หรือเวลากลางคืน (มัทธิว 1 : 35, 6:46, ลูกา 5 : 16)
- พระเยซูเจ้าสวดภาวนาเมื่อถึงเวลาตัดสินใจในงานพันธกิจของพระองค์ รับพิธีล้างของพระองค์ (ลูกา 3:21) การแสดงองค์อย่างรุ่งโรจน์ (ลูกา 9 : 28) ในขณะรับการทรมานของพระองค์ (ลูกา 22:31-33) ก่อนการเลือกอัครสาวก (ลูกา 6 : 12) ก่อนการประกาศความเชื่อของนักบุญเปโตร (ลูกา 9 : 18)
- พระเยซูเจ้าสวดภาวนาด้วยความไว้ใจ (ยอห์น 11 : 41-42)
- พระเยซูเจ้าสวดภาวนาสําหรับคนอื่น (ลูกา 23 : 34)
รูปแบบของการภาวนา
1. การนมัสการและเทิดทูน เรารับรู้ว่าเราเป็นผู้ถูกสร้างต่อหน้าผู้สร้าง และถวายแด่พระองค์ ซึ่งความจงรักภักดีและความเคารพนับถือ
2. การวอนขอ เราขอเพื่อได้รับการให้อภัยและเพื่อความต้องการอื่นๆ
3. การวิงวอนขอพระเมตตา เราสวดภาวนาเพื่อความต้องการฝ่ายจิต ฝ่ายกายหรือทางอารมณ์ของตนเองและผู้อื่น
4. การขอบพระคุณ เรายกดวงใจและจิตของเราขึ้นหาพระเจ้า สําหรับพระพรที่เราและคนอื่นได้รับ
การแสดงออกของคําภาวนา
1. การภาวนาที่เป็นคําพูด โดยคําพูด ในใจหรือออกเสียง คําภาวนาของเราก็เกิดได้
2. การรําพึง จิตแสวงหาที่จะเข้าใจชีวิตคริสตชนว่าเป็นอย่างไรและทําไม เพื่อจะได้ยินและตอบสนองต่อสิ่งที่พระเจ้ากําลังทรงเรียกร้องจากเรา
3. การภาวนาแบบสมาธิ ตามคําอธิบายของนักบุญเทเรซาแห่งพระเยซูเจ้า รูปแบบการสวดภาวนานี้ไม่มีอะไรมากกว่าการมีส่วนร่วมใกล้ชิดระหว่างเพื่อน หมายถึงใช้เวลาบ่อยๆ ในการอยู่คนเดียว กับคนที่เรารู้ว่ารักเรา
- การสวดภาวนานั้นเป็นการฟังมากกว่าการพูด ในคําภาวนา เราต้องพยายามทําตามคําแนะนําที่ฉลาด ดังที่ประกาศกเอลีบอกกับซามูเอล “ข้าแต่พระยาห์เวห์ตรัสมาเถิด ผู้รับใช้ของพระองค์กําลังฟังอยู่” (1 ซามูแอล 3:10) บ่อยครั้งที่เรามีทัศนคติที่ผิดๆ และในคําภาวนาเราจะสวดว่า “โปรดสดับฟังข้าแต่พระเจ้า คนรับใช้ของพระองค์กําลังพูดอยู่ขณะนี้”
สวดภาวนาอย่างไร
1. อยู่ที่ไหนสวดที่นั่น พระเจ้าอยู่ทุกหนแห่งและพร้อมที่จะฟังเสมอ
2. สวดภาวนาทุกครั้งที่เป็นไปได้ในที่สงบเงียบที่คุณได้อยู่คนเดียว เป็นการดีที่จะตั้งจิตใจมุ่งตรงไปถึงพระเจ้า ไม่วอกแวก
3. สวดภาวนาถึงพระเจ้าแบบง่ายๆ และเป็นธรรมชาติ เหมือนคุยกับเพื่อน บอกพระองค์ว่าคุณมีอะไรในใจ ขอความช่วยเหลือจากคําภาวนาสําหรับผู้อื่นด้วย
4. สวดภาวนาโดยคํานึงถึงสิ่งดีๆ ที่พระเจ้าได้ทรงกระทําเพื่อคุณ ตอบสนองการวอนขอของคุณและขอบคุณพระเจ้าสําหรับพระพรเหล่านั้น
5. สวดภาวนาขอการโปรดให้อภัยสําหรับการทําสิ่งไร้ค่าของคุณ พระเจ้านั้นจะอยู่ใกล้หัวใจที่สุภาพและเสียใจในความผิดของตนเสมอ
6. จงสวดภาวนาเพื่อสิ่งที่คุณต้องการ เป็นต้นสําหรับสิ่งที่จะทําให้ชีวิตของคุณดีขึ้นและเป็นเหมือนองค์พระเยซูคริสตเจ้ามากยิ่งขึ้น
7. จงสวดภาวนาเพื่อคนอื่น ระลึกถึงสถานการณ์ที่พวกเขาได้ประสบ และความช่วยเหลือที่พวกเขาต้องการ
8. สวดภาวนาเพื่อความต้องการของโลก วอนขอพระองค์โปรดประทานสิ่งที่ดีกว่า และเสนอสิ่งที่คุณจะช่วยพระองค์ทําด้วย
9. เหนือสิ่งอื่นใด ให้เราภาวนาสําหรับประสงค์ของพระเจ้าต่อตัวคุณและโลก พระประสงค์ของพระองค์ลึกซึ้งกว่าและฉลาดกว่าสิ่งใดที่เราคิดได้
10. จงสวดภาวนาและแล้วเริ่มตอบคําภาวนาของคุณ
บัญญัติสิบประการของการสวดภาวนา
1. เรียบๆ : พูดกับพระเหมือนที่คุณพูดกับคนในครอบครัวของคุณ
2. ทําอย่างเป็นธรรมชาติ : ภาวนาได้ทุกที่ทุกเวลา
3. ช้าๆ : ช้าในการพูด และเร็วในการฟัง
4. จริงใจ : เราจริงใจที่สุดกับตัวเอง จงพูดกับพระเจ้าแบบนั้นแหละ
5. แบบพระคัมภีร์ : “พระคัมภีร์ทั้งหมดได้รับการดลใจจากพระเจ้า เพื่อนําทางชีวิตของประชาชนและสอนพวกเขาให้เป็นคนศักดิ์สิทธิ์” ( 2 ทิโมธี 3 : 16)
6. กําหนดเวลา : “วันหนึ่ง เวลาบ่ายสามโมง เปโตรและยอห์นกําลังขึ้นไปที่พระวิหารเพื่ออธิษฐานภาวนา” (กิจการ 3 : 1)
7. ปรับให้ตรง : “...พระจิตเจ้าจะทรงสอนท่านในเวลานั้นว่าจะต้องพูดอะไร” (ลูกา 12:12)
8. หมู่คณะ : “ถ้าสองคนในพวกท่านบนโลกยินยอมขออะไรเพื่อทุกคนก็จะได้รับ...” (มัทธิว 18:19)
9. พึ่งพาพระจิตเจ้า : “จงคอยรับพระพรที่พระบิดาทรงสัญญาไว้...ท่านจะได้รับพิธีล้างเดชะพระจิตเจ้า” (กิจการ 1 : 4-5)
10. ลิ้มรส : “...จงปีติยินดีในพระเจ้า และพระองค์จะประทานตามใจปรารถนาของท่าน” (สดุดี 37 : 4)
อุปสรรคบางประการสําหรับการภาวนาที่มีประสิทธิภาพ
1. ความเห็นแก่ตัว
- การล่อลวงให้ขอเพียงประโยชน์ส่วนตนเท่านั้น
- ความสับสนเกี่ยวกับ “เลวร้าย” และ “ไม่เป็นที่พอใจ” ในชีวิตของเรา
2. การขาดความเชื่อ
- ขาดความไว้ใจเมื่อเราไม่ได้ตามความประสงค์
- คิดว่าคําภาวนาของเรา “เล็กน้อย” เกินไปและ “ไม่สําคัญ”
3. ความไม่อดทน
- การคาดหวังผลลัพธ์จากคําภาวนาในทันที
- ขอเวลาจากพระโดยไม่ให้เวลาของเราแก่พระองค์
4. ความไม่ซื่อสัตย์
- การขาดความจริงใจ
- การปกปิดแทนที่จะเปิดเผย
5. ความไม่รู้
- ลืมว่าพระเจ้ามีพระประสงค์ของพระองค์เองสําหรับสิ่งต่างๆ
- ลืมว่าเรามักไม่มีคําตอบที่ “ถูกต้อง” เสมอไป
6. จิตไม่ให้อภัย
- เก็บ “ความรู้สึกเจ็บปวด” ที่จะประณาม ลงโทษ แทนที่จะยกโทษ
- คิดว่าตัวเราเอง “ศักดิ์สิทธิ์กว่า” คนอื่น
หลีกเลี่ยงทั้งหมดเหล่านี้ !
การภาวนาที่เกิดประสิทธิภาพ
ไม่ใช่การพูดหรือท่องบ่น แต่เป็นการสวดภาวนาจริงๆ
1. เตรียมตัว
- ในหัวใจ และ จิตใจ
- ทิ้งภาระหน้าที่อื่นทั้งหมด
- ใช้พระคัมภีร์ให้เป็นประโยชน์
2. ไว้ใจ
- สวดภาวนาด้วยความเชื่อ
3. มีวินัย
- สม่ำเสมอ
- ไม่เลิกง่าย
- เพียรพยายาม
- การวางตัว
4. พร้อมรับ
- ฟังพระเจ้า
- นบนอบพระดํารัสของพระองค์
ตรัสเถิด พระเจ้าข้า ! ข้ารับใช้ของพระองค์กําลังฟังอยู่พระเจ้าข้า !
(1 ซามูเอล 3:9)
ที่มา หนังสือการเดินทางสู่ความเชื่อ