แผนกคริสตศาสนธรรม อัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ

CATECHETICAL CENTER OF BANGKOK ARCHDIOCESE

thzh-CNenfritjako

วันอังคาร สัปดาห์ที่ 19 เทศกาลธรรมดาฉลองนักบุญลอเรนซ์

พระวรสารตามคำบอกเล่าของนักบุญยอห์น (ยน 12:24-26)                                                   

เวลานั้น พระเยซูเจ้าตรัสกับบรรดาศิษย์ว่า “เราบอกความจริงแก่ท่านทั้งหลายว่า ถ้าเมล็ดข้าวไม่ได้ตกลงในดินและตายไป มันก็จะเป็นเพียงเมล็ดเดียวเท่านั้น แต่ถ้ามันตาย มันก็จะบังเกิดผลมากมาย ผู้ที่รักชีวิตของตนย่อมจะเสียชีวิตนั้น ส่วนผู้ที่พร้อมจะสละชีวิตของตนในโลกนี้ ก็ย่อมจะรักษาชีวิตนั้นไว้สำหรับชีวิตนิรันดร ผู้ใดรับใช้เรา ผู้นั้นจงตามเรามา เราอยู่ที่ใด ผู้รับใช้ของเราก็จะอยู่ที่นั่นด้วย ผู้ใดรับใช้เรา พระบิดาจะประทานเกียรติแก่เขา”


ยน 12:20-36  พระคริสตเจ้าทรงประกาศว่า “เวลา” แห่งการพลีบูชาที่ยิ่งใหญ่ของการรับทรมานและการสิ้นพระชนม์ของพระองค์นั้นมาถึงแล้ว พระวาจาของพระองค์นี้ชี้ให้เห็นถึงการรับรู้อย่างสมบูรณ์ของพระองค์และการยินยอมรับความตายอย่างที่จะเป็นมา รวมทั้งการยอมทำตามพระประสงค์ของพระบิดา 

CCC ข้อ 569 พระเยซูเจ้าเสด็จขึ้นไปกรุงเยรูซาเล็มโดยสมัครพระทัย แม้จะทรงทราบดีว่าบรรดาคนบาปจะต่อต้านและประหารชีวิตพระองค์บนไม้กางเขน


ยน 12:24 ภาพของเมล็ดข้าวสาลีนั้นเต็มเปี่ยมไปด้วยความหมาย และเมล็ดข้าวสาลีนี้ชี้แสดงถึงศีลมหาสนิท ที่ซึ่งการพลีบูชาของพระคริสตเจ้ากลับกลายเป็นปัจจุบันอย่างแท้จริง หากเราตายต่อตนเองเพื่อรวมเป็นหนึ่งเดียวกับพระองค์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในศีลมหาสนิทแล้ว เราก็จะกลายเป็นคริสต์อีกคนหนึ่งด้วยเช่นกัน 

CCC ข้อ 2731 ความยากลำบากอีกประการหนึ่ง โดยเฉพาะสำหรับผู้ปรารถนาจะอธิษฐานภาวนาจากใจจริงก็คือ ความรู้สึก (มีใจ) แห้งแล้ง ความรู้สึกเช่นนี้เป็นส่วนหนึ่งของการอธิษฐานภาวนาเมื่อใจรู้สึกว่างเปล่า ไม่มีรสชาติสำหรับความคิด ความจดจำและความรู้สึกแม้ในเรื่องทางจิตใจ เวลาเช่นนี้จึงเป็นเวลาสำหรับความเชื่อล้วนๆ ที่อยู่กับพระเยซูเจ้าอย่างแนบแน่นเมื่อทรงเข้าตรีทูตและอยู่ในพระคูหา เมล็ดข้าว “ถ้า […] ตายไป ก็จะบังเกิดผลมากมาย” (ยน 12:24) แต่ถ้าความ(รู้สึกมีใจ)แห้งแล้งนี้มาจากการขาดราก เพราะพระวาจาตกลงไปบนหิน ก็จำเป็นจะต้องต่อสู้เพื่อการกลับใจ

(จากหนังสือ THE DIDACHE BIBLE with commentaries based on the Catechism of the Catholic Church, Ignatius Bible Edition)