แผนกคริสตศาสนธรรม อัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ

CATECHETICAL CENTER OF BANGKOK ARCHDIOCESE

thzh-CNenfritjako

ข้อคิดข้อรำพึง

พระวาจาพระเจ้า ของอาทิตย์ที่ 5 เทศกาลมหาพรต ปี B

5 Lent 4

“เมื่อเราถูกยกขึ้นจากแผ่นดิน เราจะดึงดูดทุกคนเข้ามาหาเรา”

 

 ชาวกรีกบางคนไปหาฟิลิปเพื่อ “อยากเห็นพระเยซูเจ้า” ฟิลิปจึงไปกับอันดรูว์ไปบอกพระเยซูเจ้า

 

 ที่จริงเป็นเรื่องที่ไม่แปลกอะไรที่จะมีพวกกรีกไปที่กรุงเยรูซาเล็มในสมัยพระเยซูเจ้า เพราะพวกกรีกเป็นพวกที่รักการเดินทางท่องเที่ยวเพื่อการค้าขาย  เพื่อแสวงหาความรู้ และเพื่อสันทนาการ

 

 ในกรุงเยรูซาเล็มเวลานั้น จุดรวมความสนใจทั้งหมดไปอยู่ที่พระเยซูเจ้า ชาวกรีกจึงปรารถนาจะพบปะ รู้จัก และพูดคุยกับพระองค์เป็นการส่วนตัว โดยเฉพาะเหตุการณ์ใหญ่ๆ ที่ช็อกโลกในเวลานั้นเกิดขึ้นต่อๆ กัน

 เหตุการณ์แรกคือพระเยซูเจ้าเพิ่งจะปลุกลาซารัสให้กลับมามีชีวิตอีกครั้งหนึ่ง ผู้คนจำนวนพอสมควรรู้จักลาซารัส รู้ว่าเขาตายไปแล้ว บางคนไปร่วมงานศพและเห็นเขาถูกฝังไปแล้วด้วย แต่บัดนี้ พวกเขาเห็นลาซารัสอีก มีชีวิตชีวา เดินเหินได้ พูดจาคล่องแคล่ว

5 Lent 5

 อีกเหตุการณ์ใหญ่ที่ติดตามมา คือ การเสด็จเข้ากรุงเยรูซาเล็มอย่างสง่าของ พระเยซูเจ้า ผู้คนมากมายออกมาโห่ร้องต้อนรับ มือถือใบปาล์มออกไปรับเสด็จ พลางร้องว่า “โฮซันนา ขอถวายพระพรแด่พระองค์ผู้เสด็จมาในพระนามพระเจ้า ขอถวายพระพรแด่กษัตริย์แห่งอิสราเอล” เหตุกาณ์นี้ช็อกโลกของชาวอิสราเอล โดยเฉพาะพวกเจ้าคณะสงฆ์ พวกธรรมาจารย์ และพวกฟาริสี ซึ่งพูดกันว่า “เห็นไหม พวกเราทำอะไรไม่ได้เลย ดูซิ โลกทั้งโลกกำลังตามเขาไปแล้ว”

 

 เพราะเหตุการณ์ยิ่งใหญ่ทั้งสองครั้งที่เกิดขึ้น และทั้งสองเรื่องมีจุดศูนย์กลางอยู่ที่พระเยซูเจ้า ชาวกรีกจึงแสวงหาและอยากพบพระเยซูเจ้า แต่เมื่อสาวกทั้งสองมาทูลพระเยซูเจ้าเรื่องที่ชาวกรีกอยากพบพระองค์ พระองค์กลับไปตรัสถึงเรื่องอื่นๆ ที่ดูเหมือนไม่เกี่ยวข้องกัน เหมือนไม่สนใจว่าชาวกรีกจะมาพบพระองค์ทำไม และจะให้พบหรือไม่

 

 กลับไปตรัสถึงเรื่องเวลาที่จะมาถึง บุตรแห่งมนุษย์กำลังจะได้รับสิริรุ่งโรจน์…ตรัสถึงเรื่อง เมล็ดข้าวที่ตกลงไปในดิน เน่าเปื่อยตายไปก่อนจะงอกขึ้นมาใหม่ และบังเกิดผลมากมาย ยังตรัสรวมไปถึงความตายและชีวิตนิรันดร…การรับใช้…และการติดตามพระองค์ไป

5 Lent 6

มีเรื่องเล่าว่า  เมื่อ 500 ปีที่แล้วมา  ชาวคาทอลิกในประเทศอังกฤษถูกเบียดเบียน  มีพระสงฆ์เยสุอิตองค์หนึ่ง  ชื่อว่าคุณพ่อโทมัส  การ์เน็ท  ถูกจับขังคุก  และถูกตัดสินประหารชีวิต  เพื่อนๆของคุณพ่อการ์เน็ทได้วางแผนจะพาท่านหนีออกจากคุก  แต่แรกที่ท่านได้ยินถึงแผนการนี้  ท่านก็เห็นด้วย  เพราะท่านคิดว่ายังคงมีงานอีกมากมายที่ท่านต้องทำเพื่อชาวคาทอลิกในประเทศอังกฤษนี้  แต่ในตอนท้าย  ท่านเปลี่ยนใจ  และได้เขียนจดหมายถึงอธิการของท่าน  ขอให้ไปบอกและชักชวนเพื่อนของท่านว่าไม่ต้องพยายามช่วยท่านให้หนีพ้นจากความตาย  ท่านต้องการเป็นมรณสักขี  เหตุที่ท่านคิดเช่นนี้  เพราะท่านคิดว่าการหลั่งโลหิตของท่านเพื่อชาวคาทอลิกในประเทศอังกฤษนี้  จะกลับกลายเป็นประโยชน์มากกว่าในการประกาศข่าวดีให้แก่พวกเขา  

 

ถ้าจำได้ในช่วงแรกๆที่พระศาสนจักรเริ่มต้น  มีมรณสักขีมากมายที่ยอมตายเพื่อความเชื่อแบบคาทอลิก  และก็มีคนมากมายที่กลับใจในเวลานั้น  จนมีคำกล่าวว่า  "การหลั่งโลหิตของบรรดามรณสักขีคือเมล็ดพันธุ์ของคริสตชนใหม่จำนวนมากมาย"  (ตัวอย่างจากหนังสือ With Eyes Fixed On Jesus โดย John Chambers, S.J.)

 

 นักบุญยอห์น ณ ที่นี้ยังเผยให้เห็นความรู้สึกอีกด้านหนึ่งของพระเยซูเจ้า เป็นความรู้สึกหวั่นไหว “บัดนี้ ใจของเราหวั่นไหว เราจะพูดอะไร  จะพูดหรือว่า ข้าแต่พระบิดาเจ้า โปรดช่วยข้าพเจ้าให้พ้นจากเวลานี้  แต่ข้าพเจ้ามาก็เพื่อเวลานี้” ที่จริงผู้นิพนธ์พระวรสารอื่นๆ อีก 3 ท่านก็เผยความรู้สึกลึกๆ ด้านนี้ของพระเยซูเจ้าด้วย แต่เป็นเฉพาะตอนที่ทรงอยู่ในสวนเกทเสมนีเท่านั้น แต่นักบุญยอห์นเผยให้เห็นความรู้สึกนี้ตั้งแต่ก่อนการจับกุม ตั้งแต่ก่อนไปภาวนาที่สวนนั้น

 

 แต่บัดนี้ถึงเวลาแล้ว พระองค์เสด็จมาก็เพื่อเวลานี้ แม้ในฐานะมนุษย์ที่มีสัญชาตญาณโดยธรรมชาติที่จะแสวงหาวิธีที่อาจหลีกเลี่ยงได้ แต่กลับเต็มพระทัยมุ่งหน้าทำตามแผนการของพระบิดา แม้จะมีความหวั่นไหวตามประสามนุษย์

 

 ด้วยพระภารกิจทั้งหมดที่ผ่านมาในการประกาศข่าวดีแห่งพระอาณาจักรของพระเจ้า และด้วยความมุ่งมั่นในพระทัยจะทำตามแผนการของพระบิดาจนถึงที่สุด ซึ่งความมุ่งมั่นของพระองค์นี้  เราได้ยินจากคำภาวนาของพระองค์ที่ว่า  "ข้าแต่พระบิดาเจ้า  โปรดประทานพระสิริรุ่งโรจน์แด่พระนามของพระองค์เถิด"

 

 วิธีการที่จะทำให้พระบิดาทรงรับพระเกียรติรุ่งโรจน์ในแบบของพระเยซูเจ้า คือ การรับใช้ด้วยความรัก และการอุทิศตน ซึ่งการอุทิศตนนี้ คือ การยอมสละชีวิตเป็นพลีบูชา “และเมื่อเราจะถูกยกขึ้นจากแผ่นดิน เราจะดึงดูดทุกคนเข้ามาหาเรา”

 

 คำตรัสนี้แหละ เป็นการตอบสนองความอยากรู้ อยากเห็นของพวกกรีกที่มีต่อพระเยซูเจ้า การที่คนต่างชาติขอพบพระองค์ที่กรุงเยรูซาเล็ม เป็นสื่อสัญลักษณ์ที่หมายความว่า พระเจ้าทรงตระเตรียมชาวเราทั้งหลายในแผนการความรอดของพระองค์อย่างไร กล่าวคือ เมื่อทรงถูกยกขึ้นสู่พระสิริรุ่งโรจน์โดยหนทางแห่งไม้กางเขนแล้ว  จะทรงต้อนรับทุกคนเข้ามาหาพระองค์ ไม่ใช่เฉพาะแค่ชนชาติยิว แต่ทุกคนทุกชนชาติ

 

( คุณพ่อ วิชา  หิรัญญการ เขียนลงสารวัดนักบุญยอแซฟ อยุธยา วันอาทิตย์ที่ 25 มีนาคม ค.ศ. 2012

Based on : John for Everyone ; by Tom Wright )

5 Lent 15 Lent 25 Lent 35 Lent 7