แผนกคริสตศาสนธรรม อัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ

CATECHETICAL CENTER OF BANGKOK ARCHDIOCESE

thzh-CNenfritjako

วันจันทร์ สัปดาห์ที่ 3 เทศกาลเตรียมรับเสด็จพระคริสตเจ้า

พระวรสารตามคำบอกเล่าของนักบุญมัทธิว (มธ 21:23-27)                                       

เวลานั้น พระเยซูเจ้าเสด็จเข้าไปในพระวิหาร ขณะที่ทรงสั่งสอนประชาชนอยู่นั้น บรรดาหัวหน้าสมณะและผู้อาวุโสของประชาชนเข้ามาพบพระองค์แล้วทูลถามว่า “ท่านมีอำนาจใดจึงทำเช่นนี้ ใครมอบอำนาจนี้ให้ท่าน” พระเยซูเจ้าตรัสตอบว่า “เราขอถามท่านอย่างหนึ่งด้วยเช่นเดียวกัน ถ้าท่านตอบ เราก็จะบอกท่านว่าเราทำเช่นนี้ด้วยอำนาจใด พิธีล้างของยอห์นมาจากไหน จากสวรรค์หรือจากมนุษย์” บรรดาสมณะและผู้อาวุโสของประชาชนจึงปรึกษากันว่า “ถ้าเราตอบว่ามาจากสวรรค์ เขาก็จะถามว่า ‘แล้วทำไมท่านจึงไม่เชื่อยอห์นเล่า’ ถ้าเราตอบว่ามาจากมนุษย์ เราก็เกรงกลัวประชาชน เพราะทุกคนคิดว่ายอห์นเป็นประกาศก” เขาจึงทูลตอบพระเยซูเจ้าว่า “เราไม่รู้” พระองค์จึงตรัสว่า “เราก็ไม่บอกท่านเช่นเดียวกันว่า เราทำการเหล่านี้โดยอำนาจใด”


ท่านพร้อมที่จะยืนหยัดอยู่ฝ่ายความจริงหรือ แม้ว่าต้องยอมเจ็บตัวจากการต่อต้านหรือการไม่เห็นด้วยของผู้อื่นก็ตาม เมื่อเรากลัวการตำหนิติเตียนหรือการปฏิเสธจากเพื่อนพ้อง เราก็ถูกประจญให้แสร้งทำเพื่อหลีกเลี่ยงหนทางที่นำสู่การเปรียบเทียบและปัญหา พระเยซูเจ้าตรัสแก่บรรดาศิษย์ว่า ความจริงช่วยให้พวกเขาเป็นอิสระ -อิสระที่จะคิดและกระทำอย่างสอดคล้องกับสิ่งที่พวกเขารู้ว่าถูกต้อง ซื่อสัตย์ และดีงาม แทนที่จะยินยอมตามการหลอกลวง การโกหก และความชั่วร้าย (ยน 8:32)      

เป็นการน้อมรับพระจิตแห่งความจริง มากกว่าความเท็จ 

เมื่อชาวอิสราเอลเริ่มเดินทางเข้าสู่แผ่นดินแห่งพระสัญญา หลังจากการอยู่ในที่เปลี่ยวเป็นเวลาสี่สิบปี พวกเขาต้องพบกับการต่อต้านอย่างดุเดือดและกับการเป็นอริจากชนชาติที่อยู่ห้อมล้อมพวกเขา บาลัคซึ่งเป็นกษัตริย์ของชนชาติหนึ่งในคานาอันได้ใช้ให้บาลาอัม ประกาศกของพระบาอัลไปสาปแช่งชาวอิสราเอล บาลัคต้องการข่มขวัญให้ชาวอิสราเอลกลัวและหลีกหนีไปโดยอาศัยลางร้าย แต่กระนั้น บาลาอัมกลับทำนายถึงการอวยพรและการปกป้องชาวอิสราเอล แทนที่จะเป็นการสาปแช่งและการทำลาย เขาเปิดใจต่อพระจิตแห่งความจริงมากกว่าจิตแห่งความเท็จ ประกาศพระวาจาของพระเจ้าตรงกันข้ามกับสิ่งที่กษัตริย์บาลัคต้องการให้เขาพูด บาลาอัมทำนายแม้กระทั่งถึงเรื่องของดาวดวงหนึ่งที่จะแจ้งข่าวของการเสด็จมาของพระเมสสิยาห์ กษัตริย์จากตระกูลของยาโคบ กษัตริย์องค์นี้จะทำลายศัตรูทั้งสิ้นของประชากรของพระเจ้าและจะสถาปนาพระอาณาจักรแห่งสันติ (กดว 24:17)     

เมื่อประกาศก ยอห์น บัปติสต์ เริ่มเทศนาสาส์นแห่งการกลับใจเพื่อเตรียมต้อนรับการเสด็จมาของพระเมสสิยาห์ บรรดาผู้นำฝ่ายศาสนาและผู้ปกครองของปาเลสไตน์ปฏิเสธวจนะของท่านและได้เบียดเบียนท่าน พระเยซูเจ้าเองก็ทรงพบกับการต่อต้าน การคัดค้าน และอริที่โหดร้ายจากบรรดาผู้นำฝ่ายศาสนา เหตุใดผู้นำฝ่ายศาสนาจึงทำตนเป็นศัตรูกับพระเยซูเจ้าและปฏิเสธการยืนยันถึงอำนาจพระเจ้าของพระองค์เล่า ก็เพราะวิสัยทัศน์ด้านศาสนาของพวกเขาไม่สอดคล้องกับพระวาจาของพระเจ้า เนื่องจากใจของพวกเขาหันเหไปทางการหาผลประโยชน์ส่วนตัวมากกว่าการแสวงหาความจริง การน้อมรับแผนการและเป้าหมายของพระเจ้าที่มีต่อชีวิตของพวกเขา      

พวกเขาตั้งคำถามอย่างเปิดเผยต่อพระเยซูเจ้า เพื่อทำลายชื่อเสียงของพระองค์ที่กล่าวอ้างว่าทรงเป็นพระเมสสิยาห์ หากพระเยซูเจ้าตรัสตอบว่าอำนาจของพระองค์มาจากพระเจ้า พวกเขาก็จะหาว่าพระองค์กล่าวผรุสวาท แต่หากพระองค์ทรงกระทำด้วยอำนาจของพระองค์เอง พวกเขาก็จะจับกุมพระองค์ในฐานะคนบ้าคลั่งก่อนที่จะปล่อยให้พระองค์ทำความเสียหายไปมากกว่านั้น พระเยซูเจ้าทรงเล็งเห็นถึงกับดักที่พวกเขาวางไว้ จึงตรัสถามพวกเขากลับ และทำให้คำตอบของพวกเขาเป็นเงื่อนไขสำหรับตำตอบของพระองค์      

พวกเขายอมรับว่ากิจการของ ยอห์น บัปติสต์ เป็นงานของพระเจ้าหรือมนุษย์กันแน่ หากพวกเขายอมรับว่ากิจการของยอห์นเป็นงานของพระเจ้า พวกเขาก็จำใจต้องยอมรับว่าพระเยซูเจ้าทรงเป็นพระเมสสิยาห์ ดังนั้นพวกเขาจึงเลี่ยงที่จะตอบคำถามเพราะพวกเขาไม่ต้องการเผชิญหน้ากับความจริง พวกเขาไม่ยอมรับ ยอห์น บัปติสต์ อีกทั้งไม่ยอมรับว่าพระเยซูเจ้าทรงเป็นพระเมสสิยาห์ด้วย      

จำต้องไม่มีการประนีประนอมสิ่งอื่นใดกับอำนาจของพระเยซูเจ้า เพราะพระองค์ทรงเป็นองค์แห่งความจริง     

การเสด็จมาของพระอาณาจักรพระเจ้ากับอาณาจักรบนแผ่นดินนี้นำสู่การขัดแย้งกันอย่างหลีกเลี่ยงมิได้ เป็นความขัดแย้งระหว่างความซื่อสัตย์ต่อพระประสงค์ของพระเจ้าและต่อความประสงค์ของตนเอง ระหว่างความยุติธรรมของพระเจ้ากับวิธีที่โลกเล่นกับความเป็นธรรม ระหว่างมาตรฐานความจริงแท้ด้านศีลธรรมของพระเจ้ากับความเป็นจริงในสิ่งที่เราอยากเชื่อว่าดีและมีประโยชน์สำหรับปัจจุบันนี้      

ท่านเองเล่า ตอบสนองอย่างไรต่อคำยืนยันที่ว่าพระเยซูเจ้ามิเป็นเพียงพระเมสสิยาห์เท่านั้น แต่ยังทรงเป็นต้นธารแห่งชีวิตนิรันดรและองค์ความจริงอีกด้วย ท่านพร้อมน้อมรับพระวาจาของพระองค์และยอมเดิมพันชีวิตของท่านเองสำหรับการเสด็จมาของพระอาณาจักรของพระองค์หรือไม่ พระเยซูเจ้าทรงสัญญาว่าผู้ใดที่ดำเนินชีวิตตามความจริงของพระเจ้าย่อมพบกับความยินดีเที่ยงแท้ อิสรภาพ และความสุขทั้งในชีวิตนี้และตลอดไป     

ข้าแต่พระเยซูคริสตเจ้า องค์พระผู้เป็นเจ้า พระองค์คือ หนทาง ความจริง และชีวิต ขอทรงโปรดให้ความสว่างของพระองค์ส่องแสงในจิตใจและในความคิดของข้าพเจ้า เพื่อว่าข้าพเจ้าจะได้พัฒนาตนยิ่งขึ้นในความเข้าใจความจริงของพระวาจา ได้พบกับความยินดีและอิสรภาพในการดำเนินชีวิตตามหนทางนี้