ในบรรดาศีลศักดิ์สิทธิ์ต่างๆ มีสิ่งใดที่สัมพันธ์เป็นหนึ่งเดียวกัน
ศีลศักดิ์สิทธิ์ทุกประการ คือ การพบพระคริสตเจ้าผู้ทรงเป็นต้นกำเนิดของศีลศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งได้แก่ ศีลศักดิ์สิทธิ์แห่งการเริ่มชีวิตคริสตชน ซึ่งนำผู้รับศีลเข้าสู่ความเชื่อ คือ ศีลล้างบาป ศีลกำลัง และศีลมหาสนิท ศีลศักดิ์สิทธิ์แห่งการเยียวยารักษา คือ ศีลอภัยบาปและศีลเจิมคนป่วย ศีลศักดิ์สิทธิ์แห่งความเป็นหนึ่งเดียวกันและการแพร่ธรรม คือ ศีลสมรสและศีลบรรพชา (1210-1211)
ศีลล้างบาปรวมเราเข้ากับพระคริสตเจ้า ศีลกำลังประทานพระจิตของพระองค์แก่เรา ศีลมหาสนิททำให้เราเป็นหนึ่งเดียวกับพระองค์ ศีลอภัยบาปทำให้เราคืนดีกับพระเจ้า โดยทางศีลเจิมคนป่วย พระคริสตเจ้าทรงเยียวยารักษา เสริมกำลัง และบรรเทาใจ ในศีลสมรส พระคริสตเจ้าทรงสัญญาประทานความรักของพระองค์ในความรักของเรา โดยทางศีลบรรพชา พระสงฆ์มีสิทธิพิเศษในการให้อภัยบาป และถวายพิธีบูชาขอบพระคุณ
การเริ่ม (Initiation) (ภาษาลาติน initium การเริ่มต้น) เป็นคำที่ใช้เพื่อแนะนำและรวบรวมผู้ที่อยู่ภายนอก ให้เข้ามาในชุมนุม หรือสมาคมที่มีอยู่แล้ว
“มีองค์พระผู้เป็นเจ้าองค์เดียว ความเชื่อหนึ่งเดียว ศีลล้างบาปหนึ่งเดียว พระเจ้าหนึ่งเดียวผู้ทรงเป็นพระบิดาของทุกคน” (อฟ 4:5-6)
“เราถูกฝังไว้ในความตายพร้อมกับพระองค์อาศัยศีลล้างบาป เพื่อว่าพระคริสตเจ้าทรงกลับคืนพระชนมชีพจากบรรดาผู้ตาย เดชะพระสิริรุ่งโรจน์ของพระบิดาฉันใด เราก็จะดำเนินชีวิตแบบใหม่ด้วยฉันนั้น” (รม 6:4)
“โดยทางศีลล้างบาป เด็กแต่ละคนได้รับการต้อนรับในความรักและมิตรภาพ ซึ่งไม่มีวันแตกหัก ไม่ว่าจะในชีวิตหรือความตาย... กลุ่มมิตรสหายครอบครัวของพระเจ้าซึ่งบัดนี้เด็กเป็นสมาชิกแล้วจะเดินทางร่วมไปกับเขาตลอดเวลา แม้ในช่วงเวลาแห่งความทุกข์ทรมาน หรือ ในความมืดมนของชีวิต ครอบครัวนี้จะมอบความบรรเทาใจ คำปลอบโยน และความสว่างแก่เขาเสมอ” (สมเด็จพระสันตะปาปาเบเนดิกต์ ที่ 16 (8 มกราคม 2006)
“กลางคืนล่วงไปมากแล้ว กลางวันก็ใกล้จะมาถึง ดังนั้น เราจงละทิ้งกิจการของความมืดมนเสีย แล้วสวมเกราะของความสว่าง...จงสวมพระเยซูคริสตเจ้าเป็นอาภรณ์” (รม 13:12-14)