แผนกคริสตศาสนธรรม อัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ

CATECHETICAL CENTER OF BANGKOK ARCHDIOCESE

thzh-CNenfritjako

หลังความตาย เราจะถูกนำไปสู่การพิพากษาหรือ
    ที่เราเรียกว่า การพิพากษาเฉพาะ หรือ การพิพากษาส่วนบุคคล เกิดขึ้นตั้งแต่บุคคลนั้นสิ้นใจ ส่วนการพิพากษาทั่วไป หรือ การพิพากษาครั้งสุดท้าย จะเกิดขึ้นในวันสุดท้าย วันสิ้นโลก เมื่อองค์พระผู้เป็นเจ้าจะเสด็จมาอีกครั้งหนึ่ง (1020-1022)

    ในเวลาใกล้สิ้นใจ มนุษย์ทุกคนมาถึงช่วงเวลาแห่งความจริง ถึงเวลานั้น ไม่มีสิ่งใดที่จะหยุดหรือปกปิดไว้ได้ และเราไม่สามารถเปลี่ยนแปลงสิ่งใดได้อีก พระเจ้าทอดพระเนตรเห็นเราอย่างที่เราเป็น เรามาอยู่ต่อหน้าพระบัลลังก์พิพากษาของพระองค์ ซึ่งจะทรงตัดสินเราอย่างยุติธรรม หากเราดำเนินชีวิตในการประทับอยู่อันศักดิ์สิทธิ์ของพระเจ้าในทุกเรื่อง เราจะได้รับ “ความชอบธรรม” กับพระองค์ ซึ่งเป็นความชอบธรรมที่พระเจ้าทรงปรารถนาให้เราเป็น เมื่อพระองค์ทรงสร้างเรามา บางทีเราอาจจะต้องผ่านกระบวนการการชำระให้บริสุทธิ์เสียก่อน หรือ บางทีเราอาจจะได้อยู่ในอ้อมพระกรของพระเจ้าทันที แต่บางทีเราอาจจะเต็มไปด้วยความชั่วร้าย ความเกลียดชังและปฏิเสธทุกสิ่งทำให้เราหันกลับไปหาความรักอันนิรันดร และออกห่างจากพระเจ้า อย่างไรก็ตาม ชีวิตที่ไร้ซึ่งความรักจะเป็นสิ่งใดไปไม่ได้นอกจากนรก -> 163

“ที่ของท่านในสวรรค์สร้างไว้สำหรับท่าน และเพื่อท่านเท่านั้น เพราะท่านถูกสร้างมาเพื่อสวรรค์” C.S. Lewis (1898-1963)
การพิพากษา (Judgement) การพิพากษาเฉพาะหรือส่วนบุคคล เกิดขึ้นกับผู้ตายแต่ละคน ส่วนการพิพากษาครั้งสุดท้ายเกิดขึ้นในวันสุดท้าย วันสิ้นโลก เมื่อองค์พระผู้เป็นเจ้าเสด็๗กลับมาอีกครั้งหนึ่ง