พระเจ้าทรงพระประสงค์ให้พระบุตรแต่พระองค์เดียวต้องสิ้นพระชนม์หรือ
ความตายที่รุนแรงของพระเยซูเจ้านั้น ไม่ได้เกิดจากสถานการณ์ภายนอกที่น่ากลัว พระเยซูเจ้าทรง “ถูกมอบในเงื้อมมือของท่านตามที่พรเจ้าทรงมีพระประสงค์ และทรงทราบล่วงหน้าแล้ว” (กจ 2 : 23) เพื่อให้เราที่เป็นลูกหลานของบาปและความตายจะได้มีชีวิต พระบิดาเจ้าสวรรค์ “ทำให้พระองค์ผู้ไม่รู้จักบาปเป็นผู้รับบาป” (2 คร 5 : 21)
เป็นการถวายบูชาอันยิ่งใหญ่ที่พระบิดาทรงขอจากพระบุตร สอดคล้องกับความนอบน้อมของพระคริสตเจ้า “เราจะพูดอะไรเล่า จะพูดหรือว่า ข้าแต่พระบิดาเจ้าโปรดช่วยข้าพเจ้าให้รอดพ้นจากเวลานี้ ไม่ใช่ เพราะข้าพเจ้ามาก็เพื่อเวลานี้” (ยน 12 : 27) ด้วยความยินยอมทั้งจากพระบิดา และพระบุตรนี้เอง ความรักของพระเจ้าต่อมนุษย์ได้รับการพิสูจน์ด้วยการสิ้นพระชนม์บนไม้กางเขน (599-609, 620)
เพื่อช่วยเราให้รอดพ้นจากความตาย พระเจ้าทรงปฏิบัติภารกิจที่อันตราย พระองค์ทรงนำ “ยาแห่งความเป็นอมตะ” (นักบุญอิกญาซีอุสแห่งอันทิโอก) ให้แก่โลกแห่งความตาย นั่นคือ พระเยซูคริสตเจ้า พระบุตรของพระองค์ พระบิดาและพระบุตรทรงกระทำภารกิจนี้ร่วมกัน ด้วยความยินดีและด้วยความรักต่อมนุษย์ พระเจ้าทรงประสงค์ให้เกิดการเปลี่ยนแปลง เพื่อช่วยเราให้รอดตลอดไป กล่าวคือ พระองค์ทรงปรารถนาให้เรามีชีวิตนิรันดรของพระองคืเพื่อให้เราได้ลิ้มรสความชื่นชมยินดีและพระองค์ทรงปรารถนาที่จะมีประสบการณ์เช่นเดียวกับเรามนุษย์ทั้งความทุกข์โศก ความตาย ความสิ้นหวัง การถูกทอดทิ้ง เพื่อแสดงให้เราเห็นว่าทรงรักเราเหนือสิ่งอื่นใด การสิ้นพระชนม์ของพระคริสตเจ้าเป็นพระประสงค์ของพระบิดา แต่ไม่ใช่วาจาสุดท้ายของพระองค์ เพราะพระคริสตเจ้าทรงสิ้นพระชนม์เพื่อเรา เราจึงสามารถแลกเปลี่ยนความตายของเรากับชีวิตของพระองค์
“ไม่ใช่ความตายที่ทำให้พระบิดาพอพระทัย แต่เป็นความสมัครพระทัยของพระผู้ยอมสิ้นพระชนม์ ผู้ซึ่งโดยอาศัยความตายได้ทำลายความตาย บันดาลให้เกิดการไถ่กู้และกอบกู้ผู้บริสุทธิ์ พระองค์ผู้ทรงมีชัยชนะเหนืออำนาจและความตาย ผู้สถาปนาสันติสุขในสวรรค์และบนแผ่นดิน ทรงบันดาลให้ทุกสิ่งเป็นหนึ่งเดียวกัน” นักบุญเบอร์นาร์ด แห่งแคลร์ไวซ์ (1090-1153)