พระคัมภีร์พันธสัญญาใหม่มีความหมายอย่างไรต่อคริสตชน
การเผยแสดงของพระเจ้าสมยูรณ์ในพระคัมภีร์พันธสัญญาใหม่ พระวรสารทั้งสี่ตามคำบอกเล่าของนักบุญมัทธิว มาระโก ลูกาและยอห์นเป็นส่วนสำคัญของพระคัมภีร์ และเป็นสมบัติอันล้ำค่าที่สุดของพระศาสนจักร พระบุตรของพระเจ้าทรงแสดงพระองค์อย่างที่ทรงเป็นและเสด็จมาพบกับเรา ในหนังสือกิจการอัครสาวก เราเรียนรู้เรื่องการเริ่มต้นของพระศาสนจักรและการทำงานของพระจิตเจ้า ในจดหมายต่างๆ ที่บรรดาอัครสาวกเขียน แง่มุมต่างๆ ของชีวิตมนุษย์ได้รับการส่องสว่างในแสงสว่างของพระคริสตเจ้า ในหนังสือวิวรณ์เราทำนายวาระสุดท้ายของกาลเวลา (124-127, 128-130, 140)
พระเยซูเจ้า คือ ทุกสิ่งที่พระเจ้าทรงปรารถนาตรัสแก่เรา พระคัมภีร์พันธสัญญาเดิมทั้งหมดเป็นการเตรียมรับสภาพมนุษย์ของพระบุตรพระเจ้า พระสัญญาทุกประการของพระเจ้าสำเร็จสมบูรณ์ในพระเยซูเจ้า การเป็นคริสตชนหมายถึงการเป็นหนึ่งเดียวกับชีวิตของพระคริสตเจ้าอย่างใกล้ชิด เพื่อที่จะได้เป็นเช่นนั้นได้ เราต้องอ่านและเจริญชีวิตด้วยพระวรสาร
มาเลน เดอเบรลกล่าวว่า “โดยทางพระวาจาของพระเจ้า พระองค์ตรัสบอกเราว่าพระองค์ทรงเป็นอย่างไร และมีพระประสงค์อะไร พระองค์ตรัสเพียงครั้งเดียว และพระองค์ตรัสเฉพาะสำหรับวันแต่ละวัน เมื่อเราถือหนังสือพระวรสารไว้ในมือ เราควรตระหนักว่าองค์พระวจนาตถ์ ซึ่งทรงปรารถนากลายเป็นเลือดเนื้อในตัวเรา ทรงประทับอยู่ในพระวรสารนี้ ทรงปรารถนายึดเราไว้ เพื่อให้เราเริ่มต้นชีวิตของพระองค์ใหม่อีกครั้ง ในสถานที่แห่งใหม่ กาลเวลาใหม่ และในสังคมมนุษย์ใหม่”
“พระคัมภีร์ไม่ใช่เป็นเรื่องของอดีต พระเจ้ามิได้ตรัสในอดีต แต่ตรัสในปัจจุบัน พระองค์ตรัสกับเราในวันนี้ ทรงสอนเรา ทรงแสดงหนทางสู่ชีวิตแก่เรา ทรงประทานความเป็นหนึ่งเดียวให้แก่เรา และด้วยเหตุนี้พระองค์จึงทรงเตรียมเราและนำเราสู่สันติสุข” สมเด็จพระสันตปาปาเบเนดิกต์ ที่ 16 29 มีนาคม 2006
“การอ่านพระคัมภีร์หมายถึงการหันไปขอคำแนะนำจากพระคริสตเจ้า” นักบุญฟรังซิส แห่งอัสซีซี (1182-1226 ผู้ก่อตั้งคณะนักบวช ผู้เพ่งญาณ)