14 . พระคัมภีร์เป็นเรื่องจริงหรือ
หนังสือต่าง ๆ ในพระคัมภีร์สอนความจริงอย่างหนักแน่น ซื่อสัตย์ และถูกต้องไม่ผิดหลง...เพราะเขียนขึ้นภายใต้การดลใจของพระจิตเจ้า และมีพระเจ้าทรงเป็นผู้นิพนธ์ ( การเผยความจริงของพระเจ้า ข้อ 11) (103-107)
พระคัมภีร์ มิได้ตกลงมาจากสวรรค์แบบสำเร็จรูป และพระเจ้าก็มิได้ตรัสให้มนุษย์เขียนตามคำบอกของพระองค์ เหมือนหุ่นยนต์ อย่างไรก็ตาม “พระเจ้าทรงเลือกมนุษย์บางคน และทรงใช้เขาให้เขียนโดยใช้กำลังความสามรถของตนอย่างเต็มที่ จนกระทั่งแม้พระองค์ทรงทำงานในตัวเขา และทรงใช้เขาให้เขียนทุกอย่าง ตามพระประสงค์ของพระองค์เท่านั้น เขาก็ยังเขียนอย่างผู้นิพนธ์ที่แท้จริงด้วย (การเผยความจริงของพระเจ้า 11) เกณฑ์การยอมรับว่าหนังสือเล่มใดเป็นพระคัมภีร์หรือไม่ ขึ้นอยู่กับการยอมรับของพระศาสนจักรทั้งมวลเท่านั้น และจะต้องการยอมรับอย่างเป็นเอกฉันท์ในชุมชนคริสตชน “พระเจ้าเองตรัสกับเราโดยทางข้อความนี้ ซึ่งได้รับการดลใจจากพระจิตเจ้า” ในบรรดางานเขียนจำนวนมากของคริสตชนยุคแรกของพระศาสนจักร เล่มที่ได้รับการดลใจจากพระจิตเจ้าอย่างแท้จริงนั้น ถูกกำหนดตั้งแต่ศตวรษที่สี่ว่าอยู่ใน สารบบของพระคัมภีร์
การดลใจ (INSPIRATION)
(ภาษาลาติน inspiration ดลใจ) อิทธิพลของพระเจ้าเหนือมนุษย์ผู้เขียนพระคัมภีร์ ดังนั้น จึงได้ถือว่าพระเจ้าทรงผู้นิพนธ์พระคัมภีร์
สารบบพระคัมภีร์ (CANON)
(ภาษากรีก kano ไม้วัด กติกาแบบแผน) การรวบรวมพระคัมภีร์ที่เชื่อถือได้ ทั้งพระคัมภีร์พันธสัญญาเดิม และพระคัมภีร์พันธสัญญาใหม่
พระคัมภีร์ (BIBLE)
(ภาษาลาติน biblia ม้วนกระดาษ หนังสือ) ชาวยิวและคริสตชนเรียกการรวบรวมพระคัมภีร์ ซึ่งใช้ระยะเวลามากกว่าหนึ่งพันปี พระคัมภีร์เป็นแบบแผนความเชื่อของพวกเขา พระคัมภีร์ของคริสตชนมีจำนวนมากกว่าพระคัมภีร์ของชาวยิว เพราะประกอบด้วยพระวรสาร 4 ฉบับ จดหมายจากนักบุญเปาโล และงานเขียนของผู้นิพนธ์อื่น ๆ ในพระศาสนจักรสมัยแรกเริ่ม