แผนกคริสตศาสนธรรม อัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ

CATECHETICAL CENTER OF BANGKOK ARCHDIOCESE

thzh-CNenfritjako

เพลงสดุดีที่ 35
คำภาวนาของผู้ชอบธรรม ยามถูกเบียดเบียน


สดด บทนี้เป็นคำรำพันอย่างขมขื่นของผู้ชอบธรรมซึ่งถูกคนที่เคยเป็นเพื่อน กลับเป็นศัตรูที่คอยเบียดเบียน ใส่ความกล่าวหา เขาจึงวอนขอพระเจ้าให้ทรงพิพากษาตัดสินว่าเขาเป็นผู้บริสุทธิ์และทรงลงโทษผู้ทำผิด เพลงสดุดีบทนี้สะท้อนความรู้สึกและประสบการณ์ของประกาศกเยเรมีย์ (ยรม 20:10-13) และยังกล่าวล่วงหน้าถึงการสร้างพยานเท็จกล่าวหาพระเยซูเจ้า เมื่อทรงถูกพิจารณาคดีในศาลสูง (มธ 26:57-62) บรรดาศิษย์ของพระเยซูเจ้าทุกยุคทุกสมัย ก็จะถูกใส่ความกล่าวหาด้วยเช่นเดียวกัน บรรดาคริสตชนจึงต้องประพฤติตามแบบอย่างของพระอาจารย์ในการให้อภัยแก่ศัตรูผู้เบียดเบียน และภาวนาให้เขา แทนที่จะสาปแช่ง
ของกษัตริย์ดาวิด



1    ข้าแต่พระยาห์เวห์ ขอพระองค์ทรงสู้คดีกับผู้ที่กล่าวหาข้าพเจ้า
    ขอทรงต่อสู้กับผู้ที่ต่อสู้ข้าพเจ้า
2    ขอพระองค์ทรงคว้าโล่และดั้ง
    และทรงลุกขึ้นมาช่วยข้าพเจ้าด้วยเถิด
3    ขอทรงกวัดแกว่งหอกและขวานมาเผชิญหน้ากับผู้ไล่ตามข้าพเจ้า
    โปรดตรัสให้ข้าพเจ้ามั่นใจว่า "เราคือผู้ช่วยท่านให้รอดพ้น"

4    ขอให้ผู้ที่มุ่งเอาชีวิตของข้าพเจ้าต้องอับอายขายหน้า
    ขอให้ผู้ที่วางแผนปองร้ายข้าพเจ้าต้องหันหลังกลับไปอย่างไร้เกียรติ

5    ขอให้เขาทั้งหลายเป็นเช่นเศษฟางที่ปลิวว่อนไปตามลม
    ทูตสวรรค์ของพระยาห์เวห์ขับไล่เขาออกไป
6    ขอให้เส้นทางของเขาลื่นและมืดมิด
    และทูตสวรรค์ของพระยาห์เวห์ไล่ตามไปด้วยเถิด
7    ทั้งๆที่ไม่มีเหตุผล เขายังวางข่ายดักข้าพเจ้า
    ทั้งๆที่ไม่มีเหตุผล เขายังขุดหลุมพรางให้ข้าพเจ้าตกลงไปตาย
8     ขอให้ความพินาศมาถึงเขาโดยไม่ทันรู้ตัว
    ขอให้เขาติดข่ายที่เขาวางดักข้าพเจ้าไว้เสียเอง
        และตกลงในหลุมพินาศไป

9    แล้วข้าพเจ้าจะได้ชื่นชมในพระยาห์เวห์
    จะยินดีที่พระองค์ทรงช่วยข้าพเจ้าให้รอดพ้น
10    กระดูกทุกชิ้นของข้าพเจ้าจะกล่าวว่า
    ข้าแต่พระยาห์เวห์ ผู้ใดเล่าเหมือนพระองค์
    พระองค์ทรงช่วยคนอ่อนแอให้พ้นจากผู้มีกำลังเหนือเขา
    และทรงช่วยคนอ่อนแอeและขัดสนให้พ้นจากผู้ที่ฉกฉวยทรัพย์สินของเขา

11     พยานเท็จต่างออกมาปรักปรำข้าพเจ้า
    เขาถามปัญหาที่ข้าพเจ้าไม่รู้
12    เขาตอบแทนความดีของข้าพเจ้าด้วยความชั่วร้าย
    ทำให้ชีวิตของข้าพเจ้าไร้ความหวัง
13    แต่ยามที่เขาล้มป่วย ข้าพเจ้าก็เป็นทุกข์ สวมเสื้อผ้ากระสอบ
    ถ่อมตนโดยจำศีลอดอาหาร
    อธิษฐานภาวนาซ้ำแล้วซ้ำเล่าอยู่ในใจ
14    เหมือนกับว่าเขาเป็นเพื่อนหรือเป็นพี่น้องของข้าพเจ้า
    ข้าพเจ้าเดินไปมาเหมือนผู้ไว้ทุกข์ให้มารดา
    คอตกด้วยความโศกเศร้า

15    แต่เมื่อข้าพเจ้าสะดุดล้ม เขาต่างชอบใจ เข้ามารวมกัน
    รวมกันเข้ามาจู่โจมข้าพเจ้าโดยที่ข้าพเจ้าไม่ทันรู้ตัว
    ไม่ยอมหยุดที่จะฉีกข้าพเจ้าเป็นชิ้นๆ
16    เขาทดลองข้าพเจ้า หัวเราะเยาะข้าพเจ้า
    เขาแยกเขี้ยวใส่ข้าพเจ้า

17    ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้า พระองค์จะทรงทนดูไปอีกนานสักเท่าใด?
    โปรดทรงช่วยข้าพเจ้าให้พ้นจากการจู่โจมของเขา
    โปรดทรงช่วยชีวิตเดียวที่ข้าพเจ้ามีให้พ้นจากสิงโตเหล่านี้เถิด

18    ข้าพเจ้าจะขอบพระคุณพระองค์ในที่ประชุมใหญ่
    จะสรรเสริญพระองค์ในหมู่ประชาชนจำนวนมาก

19    ขออย่าให้ศัตรูผู้พูดเท็จหัวเราะเยาะข้าพเจ้า
    อย่าให้ผู้ที่เกลียดชังข้าพเจ้าอย่างไร้เหตุผล   หลิ่วตาให้กันดูถูกข้าพเจ้า

20    เขาไม่กล่าวถ้อยคำแสดงมิตรภาพ
    แต่วางแผนกล่าวร้ายต่อผู้รักสันติบนแผ่นดิน
21    เขาอ้าปากกล่าวหาข้าพเจ้า
    พูดว่า "รับเสียดีๆเถิด เราเห็นท่านนะ"
22    ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้า พระองค์ทรงเห็นแล้ว ขออย่าได้ทรงเงียบเลย
23    ข้าแต่พระเจ้า โปรดทรงตื่น ลุกขึ้นมาป้องกันข้าพเจ้าเถิด
    ข้าแต่พระยาห์เวห์ โปรดทรงพิจารณาคดีของข้าพเจ้า
24    ข้าแต่พระยาห์เวห์ พระเจ้าของข้าพเจ้า โปรดตัดสินว่าข้าพเจ้าเป็นผู้บริสุทธิ์
    อย่าทรงปล่อยให้คนเหล่านั้นมาเย้ยเยาะข้าพเจ้าเลย

25    ขออย่าทรงปล่อยให้เขาเหล่านั้นคิดว่า "สมหวังแล้ว"
    หรืออวดว่า "เรากลืนเขาแล้ว"
26    ขอให้เขาทุกคนที่ชื่นชมเมื่อข้าพเจ้าประสบเคราะห์ร้ายต้องอับอายขายหน้า
    ขอให้ทุกคนที่ทะนงตนเหนือข้าพเจ้าต้องอัปยศอดสูด้วยเถิด

27    แต่ทุกคนที่ดีใจในความบริสุทธิ์ของข้าพเจ้า จงโห่ร้องด้วยความยินดี
    ให้เขากล่าวเสมอไปว่า "พระยาห์เวห์ทรงยิ่งใหญ่"
    พระองค์ทรงเอาพระทัยใส่ให้ผู้รับใช้ของพระองค์อยู่เป็นสุข
    
28    ลิ้นของข้าพเจ้าจะประกาศความเที่ยงธรรมของพระองค์
    และจะสรรเสริญพระองค์ตลอดวัน