เมื่อเริ่มใช้คำพูด
เมื่อเราสังเกตเห็นแล้วว่าอาจมี “อะไรอื่น” กำลังเคลื่อนไหวอยู่ในชีวิตของเรา และเราได้พยายามหาพื้นที่ว่าง เพื่อขยายประสบการณ์เหล่านั้นให้กว้างขึ้นสักหน่อย เมื่อนั้นย่อมถึงเวลาที่เราต้องการใช้คำพูดในกระบวนการที่เราอาจเริ่มเรียกได้ว่า “การภาวนา”
แต่คำพูดไม่ใช่สิ่งจำเป็นเสมอไป เพียงแต่ว่าเราเป็นสัตว์โลกที่สื่อสารกันด้วยคำพูด และเรามักแสดงความคิดเห็นและความรู้สึกของเราออกมาเป็นคำพูดเพื่อสื่อสารกับมนุษย์และกับพระเจ้า
สามสิ่งที่ไม่สำคัญ
1. ปริมาณ – เราไม่ต้องพูดอะไรมากมาย เราจำเป็นต้องพูดถึงแต่ความต้องการของเรา หรือพูดถึงเรื่องที่เรากำลังรู้สึกอย่างรุนแรง การใช้คำพูดมากมายอาจทำให้เราหลงประเด็น วู้ดดี้ อัลเลน เคยกล่าวว่า “ผมเคยเข้าอบรมการอ่านเร็ว และผมอ่านหนังสือ เรื่องสงครามและสันติภาพ จบภายใน 20 นาที มันเป็นเรื่องเกี่ยวกับรัสเซีย” การภาวนาเป็นเรื่องเกี่ยวกับชีวิต ทุกแง่มุมของชีวิต แต่เราไม่จำเป็นต้องพูดทุกสิ่งทุกอย่างในคราวเดียว
2. คุณภาพ – เราไม่จำเป็นต้องพูดเก่ง พูดถูกหลักภาษาด้วยประโยคที่สละสลวย ความจริงต่างหากที่สำคัญ เพราะนี่คือการสนทนา ไม่ใช่การสอบ
3. ความรู้ – เราไม่จำเป็นต้องมีปริญญาด้านเทววิทยาเพื่อจะพูดกับพระเจ้า เหมือนกับที่เราไม่จำเป็นต้องมีปริญญาแพทยศาสตร์เพื่อจะพูดกับแพทย์ การภาวนาเป็นกิจกรรมของมือสมัครเล่น และเราจะเป็นมือสมัครเล่นตลอดชีวิตของเรา
สองสิ่งที่สำคัญ
1. ปล่อยตัวตามธรรมชาติ – พระคัมภีร์บอกว่าโมเสสพูดคุยกับ
พระเจ้า “เหมือนเพื่อนคุยกัน” (อพย 33:11) นี่คือต้นแบบสำหรับเรา เราพูดกับพระเจ้าได้ทุกเรื่อง จะพูดเป็นพัก ๆ หรือพูดเรื่องหนึ่งเรื่องใด หรือพูด “เอ้อ-อ้า” อย่างที่เราพูดกับเพื่อนมนุษย์อยู่ทุกวันในชีวิตของเรา ไม่มีความจำเป็นต้องสวมชุดราตรี เมื่อเราพูดกับพระเจ้า
2. จริงใจ – เด็กนักเรียนคนหนึ่งกำลังโกรธ เพราะพ่อแม่ของเขากำลังจะแยกทางกัน และความโกรธนั้นก็ลามไปถึงพระเจ้า เขาได้ยินบทเทศน์ที่บอกว่ายาโคบโต้เถียงและต่อสู้กับพระเจ้าตลอดคืน เขาจึงกลับไปที่ห้องของเขาและระเบิดออกมาว่า “พระเจ้า ผมเกลียดพระองค์” พระสงฆ์ผู้ดูแลโรงเรียนกล่าวในภายหลังว่า “ยอดเยี่ยม” เพราะเขากำลังพูดอย่างจริงใจ บทสดุดีเต็มไปด้วยเสียงร่ำร้องของบุคคลที่แสดงความรู้สึกของตนออกมาอย่างจริงใจต่อหน้าพระเจ้า ความจริงใจเป็นสิ่งที่พระเจ้าทรงจัดการได้ดีที่สุด
ลองทำดู
• ระหว่างวัน เมื่อคุณสังเกตว่าคุณรู้สึกมีความสุขกับบางสิ่งบางอย่าง ลองบอกพระเจ้าด้วยคำพูดที่ออกมาจากใจโดยไม่ปรุงแต่ง เช่นเดียวกับเมื่อคุณรู้สึกกังวลใจกับบางสิ่งบางอย่าง ก็ควรบอกพระองค์ ไม่ว่าจะเป็นการนัดหมาย หรือการสัมภาษณ์ หรือเมื่อคุณได้ยินข่าวเกี่ยวกับบุคคลที่คุณห่วงใย อย่าเพียงแต่รู้สึก แต่ให้พูดออกมาเหมือนกับที่คุณพูดกับตัวเอง ซึ่งเราก็ทำกันอยู่บ่อย ๆ คุณเพียงแต่หันไปพูดกับพระเจ้าแทน
• ถ้าคุณต้องการพูดบางสิ่งบางอย่างในช่วงเวลา “ชะลอความเร็ว” ของคุณ เมื่อคุณมีพื้นที่ว่างเล็กน้อยอย่างแท้จริง คุณอาจอยากทำให้บทภาวนาของคุณมีระเบียบแบบแผนบ้าง ซึ่งคุณทำได้ง่าย ๆ โดยเดินตามแนวทางนี้ คือ ขอบคุณ ขอโทษ วิงวอนขอ การภาวนาของคุณไม่จำเป็นต้องใช้เวลานาน แต่นี่เป็นวิธีที่ช่วยให้คุณได้ขอบคุณพระเจ้าสำหรับบางสิ่งที่คุณคิดว่าดี (แสงแดดอันอบอุ่น ความสัมพันธ์กับคนพิเศษ คำพูดให้กำลังใจของเพื่อน) ช่วยให้คุณขอโทษในสิ่งที่คุณทำผิดพลาด (จงซื่อสัตย์กับตนเอง !) และช่วยให้คุณวิงวอนขอสิ่งต่าง ๆ ที่อยู่ในใจของคุณเพื่อตัวคุณเอง และเพื่อผู้อื่น
• ถ้าคุณรู้สึกไม่มั่นใจว่าคุณควรพูดอะไรในการภาวนา มีหนังสือดีมาก ๆ บางเล่มที่คุณสามารถใช้อ่านระหว่างช่วงเวลาอันสงบเงียบของคุณ เช่น Just as I am ของ Ruth Etchells สามารถพูดสิ่งที่คุณต้องการพูดได้อย่างน่าฟัง เช่นเดียวกับหนังสือของ Eddie Askew ที่จัดพิมพ์โดย The Leprosy Mission มีหนังสือประเภทนี้วางขายอยู่มากมาย และคุณอาจอยากมองหาเล่มที่ใช้ภาษาตรงกับใจของคุณ นอกจากหนังสือแนะนำวิธีภาวนาแล้ว ยังมี Book of a Thousand Prayers ของ Angela Ashwin ซึ่งเล่มค่อนข้างใหญ่ แต่เป็นหนังสือที่ดีเยี่ยม นอกจากนี้ ยังมี Pocket Prayers ที่รวบรวมโดย Christopher Herbert เล่มเล็กกว่า แต่เต็มไปด้วย
บทภาวนาที่เราใช้สวดภาวนากันมาช้านานแล้ว และยังทันสมัยอยู่เสมอ