3. ความอดทน
อย่าปล่อยให้ความนอบน้อมของท่านเสื่อมไปเป็นความอ่อนแอ เราคือลูกแกะของพระเจ้า (ยน 1:29) แต่ลูกแกะสามารถโกรธด้วยใจบริสุทธิ์ (วว 6:16) ในทำนองเดียวกัน ศาสนบริกรซึ่งเราส่งไปเหมือนลูกแกะท่ามกลางฝูงสุนัขป่า (ลก 10:3) ต้องรู้สึกเร่าร้อนเมื่อจำเป็นด้วยความโกรธเคืองต่อสิ่งที่ผิดศีลธรรม
เราจ้องบรรดาผู้เสแสร้งทำดีที่ดันทุรังและไร้เหตุผลด้วยความโกรธที่บริสุทธิ์ใจดังที่ว่า “จึงทอดพระเนตรเขาเหล่านั้นด้วยความกริ้ว” (มก 3:5) เราเรียกพวกเขาว่า “สัญชาติงูร้าย” (มธ 12:34) และร้องตะโกนซ้ำๆ ว่า “วิบัติจงบังเกิดแก่ท่าน” (มธ 23:23) เราระบายความโกรธด้วยใจบริสุทธิ์ของเราใส่พวกเสแสร้งที่ร้ายกาจ เพื่อปกป้องประชาชนธรรมดาจากความมุ่งร้ายของพวกเขา ด้วยวิธีเดียวกันนี้ ท่านต้องเป็นผู้ที่กล้าพูดตอบโต้ด้วยความโกรธและเสียงอันดังกับผู้ที่ชักจูงมนุษย์ให้เกิดหลงผิด และกล้าตักเตือนบรรดาคริสตชนไม่ให้คิดทรยศต่อพระเจ้า
เราร้องบอกฝูงชนว่า “จงระวังบรรดาธรรมาจารย์” (มก 12:38) โดยไม่ใส่ใจต่อความโกรธเคืองของบรรดาธรรมาจารย์ที่มีต่อเรา ผู้ที่ชักจูงมนุษย์ให้หลงผิด ผู้ซึ่งไม่ซื่อสัตย์เหล่านี้ต้องการฉวยโอกาสจากความนอบน้อมและความรักเมตตาของเรา เพื่อทำให้งานอันนำไปสู่ความหายนะที่พวกเขากระทำได้ดำเนินต่อไปโดยไม่ถูกรบกวน ดังนั้น จงกล่าวด้วยเสียงอันดังชัดเจนอย่างกล้าหาญเพื่อตอบโต้ศัตรูของเรา ไม่ต้องกลัวทั้งการกระทำและความเดือดดาลของพวกเขา โดยการกวัดแกว่งดาบอันคือพระวาจาของเราด้วยความกล้าหาญ ท่านจะมีชัยชนะต่อพวกเขา
บรรดาสัตบุรุษคริสตชนของเราได้รับความทุกข์ร้อนอย่างมากจากพระสงฆ์บางองค์ของเราที่มีความนอบน้อมที่ผิดๆ ซึ่งไม่มีความหมายอะไรเลย เพราะนั่นเป็นเพียงความขี้ขลาดและความเกรงกลัวที่ไม่พึงปรารถนา เพราะพวกเขาเป็นเหตุให้ความเข้าใจผิดที่น่าเศร้าใจได้ถูกหว่าน เกิดราก, เติบโต และเพิ่มจำนวนในผืนนาของพระศาสนจักรของเรา คนขี้ขลาดตาขาวเหล่านี้ยังคงหลับสนิทและยอมให้ศัตรูมาหว่านเมล็ดพืชของตนลงในทุ่งนาของเรา (มธ 13:25)